พ่อแม่รังแกลูก


พ่อแม่รังแกลูก

                                                    พ่อแม่รังแกลูก

            อยากเล่าเรื่องพ่อแม่รังแกลูกก่อน  เด็กหญิงเอ นามสมมติ เป็นนักเรียนที่ครั้งแรกครูพบเห็นประทับใจในความที่มีจิตอาสาดี  แต่ต่อมาเริ่มมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เที่ยเตร่กลางคืนกลับบ้านดึกดื่นจนพ่อไม่ให้มาโรงเรียนบอกอยากเที่ยวนอนตื่นสายก็ไม่ต้องมาโรงเรียน จนครูต้องไปตามรู้ว่าบิดาโกรธที่ลูกสาวโกหกว่าไปงานวันเกิดเพื่อนแล้วกลับมาตีหนึ่ง  ครูก็ให้นักเรียนเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ก็ไปโรงเรียนได้ตลอดอยู่ประมาณเดือนกว่า ๆ ช่วงหลังขาดเรียนบ่อย และได้ข่าวว่ามีเพื่อนชายสนิท  เวลามีกิจกรรมดูงานวันวิทยาศาสตร์ก็ไม่เข้าโรงเรียนแต่ไปงานวันวิทยาศาสตร์(ต่างสถาบัน)กับเขาด้วย  และมีพฤติกรรม มาเรียนก็โดดเรียน แต่งตัวมาโรงเรียนแต่ไม่ถึงโรงเรียนไปขลุกอยู่กับเพื่อนชายสนิทต่างสถาบัน  จนครูต้องออกไปตามที่บ้านพบแต่มารดา ออกมารับหน้า

            มารดา  : ลูกสาวฉันไปโรงเรียนทุกวัน  วันนี้ก็ไปแต่ครูฝ่ายปกครองไม่ให้เข้าเรียน เลยกลับมาบ้านซักเสื้อผ้า 

         ครูประชั้น : แล้วทำไมขาดเรียนบ่อย

             มารดา : ลูกฉันเป็นแบบนี้แหละถ้าปวดท้อง(เมนส์)เป็นไข้แล้วไม่สบายหลายวัน 

      ครูประจำชั้น : ลูกสาวอยู่ไหนเรียกมาคุยกันหน่อยซิ

             มารดา : มันนอนหลับอยู่    ( ครูอึ้งกิมกี่สะอึกกับคำตอบของแม่ )

          ครูประครู :  งั้นดิฉันขอตัวกลับก่อนนะ ยังไงก็ขอเบอร์โทรศัพท์แม่ด้วย เพราะเบอร์โทรมือถือที่ให้ไว้เป็นของลูกสาว พอครูโทรมาก็อ้างว่าป่วยตลอด พรุ่งนี้ให้ลูกไปโรงเรียนด้วย

         ครูไปตามลูกศิษย์เย็นวันพุธ เช้าพฤหัสนักเรียนในห้องแจ้งว่าเห็นเด็กหญิงเอขี่มอเตอร์ไซด์มาส่งเพื่อนหน้าโรงเรียนแล้วก็ไม่เข้าโรงเรียน  จนวันศุกร์ก็มีพฤติกรรมเช่นเดิมอีก  จนถึงเช้าวันจันทร์ครูต้องโทร.ถึงบิดาเด็กหญิงเอ สอบถามว่าลูกสาวมาโรงเรียนหรือไม่ บิดาบอกมาทุกวันเย็นก็กลับบ้าน ครูเลยเล่าเรื่องที่ไปพบมารดาเด็กหญิงเอที่บ้านวันพุธที่ผ่านมา  และบอกว่าให้ตรวจสอบกันเองนะว่าลูกมาโรงเรียนแต่ไม่ถึงโรงเรียน จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่ผู้ปกครอง ซึ่งก็รับทราบ และทุกวันนี้ก็หายเงียบไปไม่มาโรงเรียน สุดวิสัยที่ครูจะช่วยได้ หากพ่อแม่ปกป้องลูกแบบนี้  เข้าข่ายพ่อแม่รังแกลูกหรือไม่ ....

        วันนี้เด็กๆทั้งชายและหญิง ในสังคมบ้านเราไม่ว่าจะเป็นบ้านนอกหรือในเมือง ล้วนต่างประสบกับปัญหาลูกบังเกิดเกล้ากันทั้งนั้น  เกิดจากอะไรทั้งๆที่ครูและพ่อแม่ก็อยากให้ลูกเป็นคนดี  เหมือนมีเวรกรรมสำหรับคนที่ลูกไม่รักดี ครูเองสอนเด็กมา 28 ปี พบเจอทุกปีที่รักดี ก็มักได้ดี ที่รักชั่วก็ไม่ประสบผลสำเร็จ 

       เมื่อ 12  สิงหาที่ผ่านมา ครูขอชื่นชมและยินดีกับพ่อแม่หลายคนที่เลี้ยงลูกดี เป็นคนดีของครอบครัวและสังคม  จนได้รับเกียรติบัตรและรับการยกย่องเป็นลูกกตัญญู แม่ดีเด่น  หลายคนถามว่าเลี้ยงลูกอย่างไรจึงเป็นคนดี

       ทุกวันนี้สื่อต่างๆมีการเผยแพร่การเลี้ยงดูบุตรธิดา ที่ประสบผลสำเร็จในชีวิต ซึ่งล้วนแต่พ่อแม่สนใจเอาใจใส่ให้ความรู้ ให้ความรัก เป็นแบบอย่าง เป็นเบื้องหลังของการดำเนินกิจกรรมต่างๆจนลูกประสบผลสำเร็จ  วันนี้คุณที่เป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายายมีวิธิการที่จะขัดเกลา กล่อมเกลา บุตรธิดาคุณได้แค่ไหน....

หมายเลขบันทึก: 291237เขียนเมื่อ 26 สิงหาคม 2009 14:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 20:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ...ปัญหาเช่นนี้ก็เคยเจอค่ะ...และเจอบ่อยมากด้วย

การอบรมเลี้ยงดูแบบตามใจ...โดยพ่อแม่ให้ความรักมากเกินไป ก็อาจทำให้เด็กเสียคนได้นะคะ.

ถ้าเราถามพ่อแม่ว่าเลี้ยงอย่างไร...ก็มักได้คำตอบว่าก็รักนะเอาใจใส่ด้วยดูแลเอาใจใส่ทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ให้

บางครั้งด้วยความเป็นพ่อแม่ที่รักลูก...ทำให้หลงลืมว่ารักแบบไหนที่ส่งผลดีแก่ลูก

รักแบบไหนที่ทำร้ายลูก...ขอบคุณมากคะ

ขอบคุณค่ะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ทุกวันนี้เด็กๆที่ได้ดิบได้ดีส่วนมาก มักเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ รู้ผิดชอบชั่วดี รู้ว่าพ่อแม่ลำบากในการหาเลี้ยงจึงมีความมุ่งมั่นที่จะยืนด้วยลำแข้งของตนเอง และมุ่งมั่นที่จะสร้างความสำเร็จในชีวิตด้วยตนเอง ผิดกับลูกที่พ่อแม่ตามใจ ประคบประหงมจนลูกเอาตัวไม่รอด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท