กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า "ประเทศไทยเริ่มพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2552 เป็นต้นมา และพบผู้เสียชีวิตรายแรกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2552 โดยข้อมูลจากระบบการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ของสำนักงานระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552 ถึง วันที่ 2 สิงหาคม 2552 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ สรุปได้ดังนี้"
นอกจากนี้ยังมีการยืนยันว่าพบผู้ป่วยทุกจังหวัดของประเทศไทย ดังภาพต่อไปนี้ "
ที่มา :สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
|
โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ นั้นสามารถติดต่อจากคนสู่คน และทุกคนที่สัมผัสกับเชื้อโรคชนิดนี้ ก็สามารถป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ได้ โดยเฉพาะบุุคคลที่มีความเสี่ยงต่อไปนี้ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ
|
การแพร่ติดต่อของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ จะแพร่ติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ นี้จะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และสามารถแพร่กระจายเชื้อในอากาศได้ภายในระยะทาง 1 เมตร
ยกตัวอย่างเช่น หากมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ไอ หรือจามบริเวณคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ หรือเมาส์ทิ้งไว้ และมีผู้อื่นไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แล้วนำมือไปสัมผัสกับปาก จมูก หรือใบหน้าของตนเอง คนๆ นั้นก็สามารถติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ได้
หรือ หากผู้ป่วยไอ จามโดยเอามือปิดปาก ปิดจมูก และเอามือไปจับลูกบิดประตู เชื้อโรคจากมือผู้ป่วยก็จะไปติดอยู่บริเวณลูกบิดประตูแทน และเมื่อผู้อื่นนำมือไปแตะลูกบิดประตูและนำมาสัมผัสจมูกหรือปากของตนเองก็จะติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการ 1-3 วันหลังจากได้รับเชื้อไวรัส อาการป่วยโดยทั่วไปใกล้เคียงกับโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ได้แก่
และอาจจะมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน หรือท้องเสียได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรักษาตามอาการและสามารถหายได้เอง แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์
กรณีเด็ก
กรณีผู้ใหญ่
หากพบผู้ป่วยมีอาการต่างๆ ข้างต้นควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วน เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบรุนแรง ระบบการหายใจล้มเหลว จนเสียชีวิตได้
โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ โดยปกติถ้าอาการไม่รุนแรงไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล สามารถไปพบแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับยามารับประทานตามอาการได้ วิธีการดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ นั้นจะเป็นการดูแลตามอาการและเสริมสร้างภูิมิคุ้มกันของตนเองให้เพิ่มขึ้น
ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ควรปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปสู่ผู้อื่นดังต่อไปนี้
ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป แต่ควรมีความตระหนักต่อความสำคัญของการป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ซึ่งสามารถปฏิบัติตนได้ ดังนี้
ข้อมูลทั้งหมดในบันทึกฉบับนี้ถูกรวบรวมและสกัดออกมาจากบันทึกของสมาชิก GotoKnow.org ที่ได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไว้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มมีบันทึกเกี่ยวกับเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ จนถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2552
ขอขอบคุณทุกๆ ท่านไว้ ณ โอากาสนี้
ไม่มีความเห็น