ความสุขบนเกาะสีชังที่เปลี่ยนไปและกำลังเปลี่ยนโฉมใหม่


ความสุขบนเกาะสีชังที่เปลี่ยนไปและกำลังเปลี่ยนโฉมใหม่

ความสุขบนเกาะสีชังที่เปลี่ยนไปและกำลังเปลี่ยนโฉมใหม่
       หลังจากการปฏิบัติงานราชการเกือบ 40 ปี และไม่เคยลาพักผ่อนมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปี ก็ได้ลาพักผ่อนเมื่อวันที่ 27-31 กรกฎาคม 2552 โดยไม่มีโปรแกรมไปไหน แต่เผอิญมีส่าว ๆ ทราบว่าเราลาพักผ่อนก็บอกให้พาเที่ยวหลังการสอบกลางภาคจากมหาวิทยาลัย หลังจากนัดมาพบกันที่ชลบุรี ก็ได้จัดไปเที่ยวกันที่เกาะสีชัง ที่เราคิดว่า พักผ่อนได้ไม่ใกล้ไม่ไกลนักและคงดีพอสำหรับเด็กสาววัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง
        หลายตำนานหลายร้อยบทความหลายล้านคำกล่าวขานถึงความสุขบนเกาะสีชัง ซึ่งเราไม่เคยได้สัมผัสถึงความลึกซึ้งของคำว่า ความสุขบนเกาะสีชังแห่งนี้เลย จนวันที่ 28 ก.ค.52 เวลาประมาณ 09.30 น. พร้อมสาว ๆ  อีก 5 คน ได้ลงเรื่อและนั่งรอบนเรือจนเวลา 10.00น. ก็มีกลุ่มมิชชั่นนารีจากอเมริกาประมาณ 15 คน มาร่วมลงเรือและร้องเพลงกันเป็นที่สนุกสนาน จนถึงฝั่งเกาะสีชังก็ได้เหมารถสองแถวตลอดวันในราคา 500 บาท ไปดูที่พักสองสามแห่ง มาตกลงใจกันที่หาดอัษฎางค์ (หาดถ้ำพัง) ในราคา พันกว่าบาท ก้เป็นที่ถูกใจสำหรับเด็กวัยรุ่นสาว ๆ ได้ลงเล่นน้ำทะเลบนหาดทรายอย่างสนุกสนาน หลังจากทานอาหารเที่ยงที่ร้านนกสีชัง (อาหารรสชาติดีแต่ไม่ค่อยสดเท่าไร  ไม่เหมือนร้านเล็กสีชังที่เราเคยไปทาน ทั้งสองร้านนี้อยู่หน้าพระตำหนักฯ) ก็พาเที่ยวรอบเกาะไปยังสถานที่สำคัญของเกาะสีชัง ดูต้นไม้ยักษ์ร้อยกว่าปี  ปลูกสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีสถานที่มากมายหลายแห่งจนสาว ๆ บ่นว่า หนูปวดขาแล้ว ไม่ไปไหนอีกแล้ว และยังฉงนใจแปลกใจว่าทำไมลุงนันยังเดินแข็งแรงกว่าพวกหล่อนทั้งหลาย จนเราไปถึงช่องเขาขาดก็พบว่าสิ่งที่เรามองเห็น เมื่อวันประชุมศูนย์สัญจร(29-30มิ.ย.52)รู้สึกว่าทิวทัศน์บริเวณช่องเขาขาดเปลี่ยนไป ถูกระเบิดทำลายไปมากพอสมควร ธรรมชาติกำลังจะเปลี่ยนไปจากเดิมที่เราเคยเห็น วัตถุก่อสร้างกำลังจะเข้าไปแทนที่บริเวณช่องเขาขาดที่สวยงามของเกาะสีชัง โขดผาหินเลยสะพานที่ก่อสร้างทอดยาวไปยังโขดผาหินไกลโน้น กลายเป็นเกล็ดหินขยายแทนโขดหินนที่ต้องปีนป่าย
อย่างลำบากยากเย็น แต่วันนี้กลายเป้นเส้นทางราบเรียบเดินได้อย่างสะดวกสบายไปดูเต่าทะเลยักษ์ที่เราเคยเห็นมันแหวกว่ายอย่างมีความสุขใต้โขดหินผาอันสูงชันก็หายไป เพราะวันนี้ตรงที่เรายืนอยู่แตกต่างกับเมื่อเดือนที่แล้วเป็นอย่างมาก เมื่อเดือนก่อนเรายืนดูเต่าทะเลตัวหนึ่งแหวกว่ายเงียบสงบ สงบเสงี่ยมเชื่องช้าเหมือนมาทักทายเราอย่างมีความสุขบนยอดโขดผาหินกับผืนน้ำทะเลที่ใสสะอาดอันสูงชันและห่างไกล
วันนั้นเมื่อเดือนก่อน เหมือนกับเรามีเพื่อนใหม่เป็นเต่าทะเลยักษ์อีกตัวหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสงบสุข แต่วันนี้เรายืนอยู่บนหินที่ถูกระเบิดทำลายเตี้ยลงไปแทบจะใกล้กับผืนทะเลที่เคยมีเต่าทะเลยักษ์แหวกว่ายไปมาเห็นไม่กี่เมตร แต่วันนี้มีแต่เพียงผืนน้ำใส เราไม่เห็นเต่าตัวนั้น
      คิดถึงวันที่เสียงระเบิดดังก้องถล่มทลายท้องทะเล เต่าทะเลตัวนั้นมันคงระทึกขวัญกระเจิงและแหวกว่ายหนีอย่างตระหนกตกใจไปห่างไกลจากพื้นน้ำที่เงียบสงบใต้โขดภูผาแหล่งที่มันเคยแหวกว่ายไปมาอยู่อย่างมีความสุข
      เรายืนมองมันอยู่นานแสนนานก็ไม่เห็นมัน จนสาว ๆ ทั้ง  5 อย่างเดินมาถึงและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ชื่นชมว่าวิวทิวทัศน์ช่างสวยงามนัก แต่พวกเธอเหล่านั้นไม่รู้เลยว่าเพียงเค่ สองสามอาทิตย์ก่อน บริเวณตรงหน้าที่ที่พวกเธอจะมาเห็นนี้มันสวยงามตระการใจมากมายกว่าที่พวกเธอเห็นขณะนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป
      จนพวกเราเดินกลับมายืนถ่ายรูปบนสะพานอีกครั้ง และมาเจอพวกก่อสร้างกำลังทาสีที่ศาลาพักร้อนอยู่ก็เลยเข้าไปพูดคุยถึงบริเวณต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปและเต่าทะเลที่หายไป ก็รู้สึกดีใจที่พวกเขาบอกว่า เมื่อเช้ายังเห็นเต่าทะเลตัวนั้น ว่ายน้ำอยู่แถว ๆ ศาลา ที่ใกล้สายตามนุษย์เข้ามาอีก แต่ตอนนี้ไม่รู้มันไปไหน เราฟังแล้วก็สบายใจที่มันยังอยู่แม้ว่าวันที่ระทึกขวัญจะผ่านไปเพียงแค่ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่าน(กลางเดือนกรกฎาคม2552)
      มีชายคนหนึ่งแบกไม้หน้าสามเจ็ดถึงแปดท่อนเดินผ่านมา  ก็บอกต่อว่า ตอนนี้กำลังจะมีโครงการทำลานกว้างให้พวกนักท่องเที่ยวเดินผ่านมาชมวิวได้ พร้อมทั้งชี้ธงสีชาวที่ปักอยู่ไกลสายตาริมขอบหินด้านล่าง ยาวไปเกือบสองร้อยเมตรก็มีอยู่อีกที่ปักอยู่บอกเขตให้รู้ว่าอีก 7-8 เดือนข้างหน้าลานหินธรรมชาติจะโดนบดบังโดยลานปูนซีเม็นต์มาแทนที่ เรารู้สึกเสียดายแทนชนรุ่นหลังจะไม่ได้เห็นธรรมชาติที่แท้จริงของเกาะสีชัง ที่กำลังจะเปลี่ยนไป
     ภายในปี 2552 นี้ พวกเราควรไปชมธรรมชาติดั่งเดิมของช่องเขาขาดที่เคยเปลี่ยนแปลงและกำลังจะเปลี่ยนไปอีกหนึ่ง Generation บนเกาะสีชั่ง
     พักอยู่บนเกาะสีชังเพียงแค่คืนเดียว ตื่นเช้าแล้วเราก็ไม่รู้สึกที่ว่าอยากจะกลับบ้าน เป็นความสุขที่บอกใครไม่ได้ถ้าไม่ไปสัมผัสด้วยตัวเอง เราเองก็เคยไปพักค้างคืนด้วยงานประชุมราชการหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้สัมผัสกับความสุขเหมือนอย่างที่เรามาพักผ่อนด้วยตัวเองอย่างแท้จริง เช่นครั้งนี้เลย

บรรยากาศของความสุขบนเกาะสีชัง

คำสำคัญ (Tags): #กศน.บ้านบึง
หมายเลขบันทึก: 289909เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2009 09:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เข้ามาอ่านบันทึกเที่ยวเกาะสีชังของผอ.ทำให้นึกถึงเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเคยไปศึกษาดูงานที่เกาะขามใหญ่ผอ.ก็ไปด้วยกับคณะของอำเภอบ้านบึงจำได้หรือเปล่าคะ วิวยังสวยเหมือนเดิมเลยค่ะ สงสัยต้องหาเวลาไปเที่ยวกับครอบครัวอีกแน่นอนค่ะ แล้วจะตามมาอ่านบันทึกใหม่ๆของผอ.อีกนะคะ

ขอบคุณครับ ป้า ศรีราชา ที่เข้ามาเยี่ยมเยียน ยังจำได้แต่หลายปีแล้วนะไม่มีรูป ถ่ายไว้ สมัยนั้นยังไม่มี เวปบล็อก เลยไม่ได้ดูความหลังเก่าๆเลยนะ

ลองเปิดบันทึกของพี่ดู รู้สึกน่าอจฉาคงมีความสุขมากนะครับ ฮา....

ความสุขไม่ยั่งยืน,ก็อย่างที่เห็น ผมชอบกับข้าวหลายๆอย่างครับ ไม่ใช่กินแต่หูฉลามอย่างเดียว ฮิฮิ

อิจฉาจังอยากไปเที่ยวแบบนี้บ้างแต่ก็คงไม่มีโอกาสแล้วล่ะคนเราดูจากภายนอกอาจจะไม่รู้ว่าเค้ารู้สึกอย่างไรข้างนอกสดใสร่าเริงข้างในทุกข์ระทมค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท