คำคมคารมนาง(2)


นางในวรรณคดีผู้ไม่เป็นสองรองใครเรื่องวาจาคารม

คำคมคารมนาง (2)

      เมื่อพลายแก้วถูกเกณฑ์ไปทัพที่หัวเมืองเหนือ  นางพิมพิลาไลยล้มเจ็บเป็นไข้ใจรักษาอย่างไรก็ไม่หาย  หลวงตาจูจึงเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่าวันทองเพื่อชีวิตจะได้ดีขึ้น  ขุนช้างก็ยังทำอุบายลวงนางศรีประจันว่าพลายแก้วตาย  ให้ยายกลอย ยายสาเป็นแม่สื่อขอนางวันทองให้ขุนช้าง  แม้จะเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วแต่วาจาคารมของนางก็ยังคงสุดยอด  นางวันทองจึงด่าบ่าวไพร่กระทบขุนช้าง

       วันทองชี้หน้าด่าประจาน         แม่มึงอ้ายหัวล้านหาดีไม่

จะรู้สึกสำนึกบ้างเป็นไร                  เป็นบ่าวไพร่บ้านช่องไม่นำพา

ดีแต่เที่ยวโกหกพกลม                   มันน่าตบให้ล้มจมขี้หมา

ให้หมาฝูงถนัดพลัดเข้ามา             มึงหลับตาเฝ้าประตูไม่ดูแล

มันมาเที่ยวเยี่ยวขี้มีแต่เปื้อน           อ้ายขี้เรื้อนเห่าระเบ็งเซ็งแซ่

อีตัวเมียก็ปากบอนหอนแงแง       ปล่อยโคตรแม่มึงไว้ให้อึงคะนึง

................................                    เหวยยายมีว่าไรไปไหนหวา

งานการเช้าค่ำไม่นำพา                  เสียงเฮฮาที่ไหนไปนั่งพูด

สิ้นลมมึงดีอีขี้ข้า                            หัวหูดังกะลามะพร้าวขูด

ชาติอีโกหกนกทิ้งทูต                     อีผักกูดต้มกะทิอุตริดี

(ผักกูดนี้เป็นผักที่มีมากทางภาคเหนือ ครูแป๊วเคยพบว่ามีขายมากที่จังหวัดตาก นำมาทำอาหารได้หลายชนิด เช่น ยำผักกูด ลวกแล้วราดด้วยหัวกะทิรับประทานกับน้ำพริก รสชาติอร่อยมาก)

   ขุนช้าง ยายกลอย ยายสาย ได้ฟังคารมอันคมคายของนางวันทองเท่านั้นถึงกับต้อง...

         รีบลงบันไดในทันที            ออกจากบ้านท่านศรีประจันไป

ยายกลอยยายสายว่ากูขายหน้า  ที่นี้หาปรารถนามาอีกไม่

โคตรเค้าเขาขุดเอาสุดใจ           ถึงเอาทองมากองให้ก็ไม่มา  

วาจาคารมระดับด่ากระเจิงของนางวันทองเพียงแค่นี้คงยังไม่พอ       

หมายเลขบันทึก: 289396เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2009 14:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ด่ากระเจิงจริงๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท