จากที่ผมได้เคยพูดถึงวิทยุชุมชนในบันทึกสารบัญ http://gotoknow.org/archive/2006/05/09/00/06/06/e27605 ของผมเอง
และได้มีโอกาส ร่วมแสดงความเห็นในบันทึก เรื่องวิทยุชุมชนhttp://gotoknow.org/archive/2006/01/14/17/38/28/e12242 ของคุณหมอพิเชฐ
เลยขอนำมาเขียนในที่นี้อีกครั้ง
เพราะจากประสบการณ์พบว่าสถานีวิทยุชุมชนจำนวนมากก่อให้เกิดการรบกวนโดยไม่ตั้งใจ
ส่วนหนึ่งเกิดจาก
-
เจ้าของสถานีไม่มีความรู้ทางเทคนิคเพียงพอ
รวมถึงไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ทางเทคนิค
-
คนขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องก็ขายอย่างเดียว
ไม่ได้ให้คำแนะนำที่สำคัญและจำเป็น
-
คนขายจำนวนหนึ่งก็ไม่มีความรู้ทางด้านนี้เพียงพอ
-
การลดต้นทุนในการก่อตั้งสถานี เช่น ไม่มี Filter ทางด้าน Output
ของเครื่องส่ง ไม่มีการทำระบบสายดิน(ground) ที่ได้มาตรฐานทางวิศวกรรม
รวมถึงการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่ได้มาตรฐาน
-
ทางสถานีการต้องการพื้นที่ครอบคลุมมากๆ เพื่อผลทางการขายโฆษณา
จึงใช้กำลังส่งสูงเกินกำหนด
-
ประเด็นสำคัญที่สุดคือ
เครื่องส่งวิทยุและเครื่องขยายกำลังส่งที่ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน
ทางวิศวกรรม
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถปฏิบัติงาน
ตรวจสอบสถานีได้อย่างเต็มที่ ด้วยเกรงว่าจะเกิดปัญหามวลชน
เพราะเมื่อเข้าทำการตรวจสอบหรือทำการจับกุมผู้กระทำผิด
ก็จะมีกระบวนการกดดันต่างๆ นานา เช่น มี mob มาปิดล้อมบ้าง
อ้างรัฐธรรมนูญมาตราโน้นมาตรานี้บ้าง
ให้ผู้มีอำนาจมาขอร้องบ้างข่มขู่บ้าง
อันสร้างความลำบากใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเป็นอันมาก
ในขณะเดียวกันสัญญาณที่ส่งออกมาจากสถานีวิทยุที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้
ก็ก่อให้เกิดการรบกวนไปทั่วทั้งหน้าปัดวิทยุแทบทุกจังหวัด
ส่งผลให้เกิดความเบื่อหน่ายในการฟังวิทยุแก่ประชาชนโดยทั่วไป
ดังนั้นคำแนะนำคือ
-
ใช้กำลังส่งต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้
-
ให้เจ้าของสถานีปรึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มีการสอนทางด้านโทรคมนาคมในบริเวณใกล้เคียง
เพื่อนำเครื่องมือวัดมาตรวจสอบสถานีหลังติดตั้งเสร็จก่อนทำการออกอากาศอย่างเป็นทางการ
เช่น Spectrum Analyzer, VSWR meter, Field Strength
meter และเครื่องมืออื่นๆ ที่จำเป็น
-
ปรึกษาสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์
วิทยุชมชนควรมีพื้นที่ครอบคลุมภายในชุมชนที่สถานีวิทยุตั้งอยู่เท่านั้น ไม่ใช่ครอบคลุมทั้ง
ตำบล อำเภอหรือจังหวัด
ชุมชนควรจะหมายถึงหมู่บ้านเพียงหมู่บ้านเดียว
ดังนั้นรัศมีในการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนจึงไม่ควรเกิน
1 กิโลเมตร ไม่ใช่ 30 กิโลเมตร
เนื้อหาของรายการของสถานีวิทยุชุมชน
ควรจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในชุมชนนั้นๆ โดยแท้จริง (People
Oriented) เช่น
-
เรื่องปากเรื่องท้อง
ถ้าชุมชนนั้นมีการทำนากันมากก็พูดถึงศัตรูของข้าวและการใช้ตัวเบียนตัวห้ำมากำจัดศัตรูข้าว
ถ้าในชุมชนเลี้ยงหมูกันมากก็พูดถึงการนำสิ่งปฏิกูลมาหมักเป็นก๊าซชีวภาพเพื่อลดกลิ่นรบกวนและเป็นแหล่งพลังงาน
-
พูดถึงเหตุการณ์ในชุมชน เช่น ลูกชายบ้านนั้นจะบวชวันนั้นวันนี้
ลูกสาวบ้านนี้จะออกเรือนวันโน้น
เผื่อใครในชุมชนพอจะมีเวลาว่างจะได้ช่วยกันมาทำกับข้าวเลี้ยงแขก
ใครมีมะพร้าวเอามะพร้าวมา ใครมีกล้วยเอากล้วยมา
ใครไม่มีอะไรก็มาแต่ตัวมาช่วยออกแรง
ถ้าทำกับข้าวไม่เป็นก็ช่วยล้างจานชามล้างหม้อล้างไห
-
เรื่องสุขภาพ เช่น ช่วงนี้หน้าฝนให้ช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุง
ช่วงนี้น้ำท่วมให้ระวังโรคฉี่หนู
ควรจะปฏิบัติตัวกันอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคที่มาตามฤดูกาล
-
เรื่องอะไรก็ได้ที่ชาวบ้านในชุมชนฟังแล้วได้ประโยชน์
ส่วนเวลาที่เหลือก็ค่อยเปิดเพลง คือให้เนื้อหาสาระเป็นอาหารหลัก
และเพลงเป็นของว่างหรือขนมหวาน
ซึ่งในปัจจุบันดูเหมือนเพลงจะเป็นอาหารหลัก
เนื้อหาที่เป็นประโยชน์แทบไม่มีเลย ชื่อบอกว่าเป็นวิทยุชุมชนแต่คนในชุมชนได้อะไรบ้าง
นอกจากสัญญาณรบกวน
-
เมื่อมาเทียบกับชีวิตคนเรา
ถ้ากินแต่ของว่างหรือขนมหวานมากๆ โดยเฉพาะขนมกรอบถุง ละ 5 บาท 10 บาท
20 บาท ก็จะป่วยได้ง่าย ฟันผุเอย โรคอ้วนเอย เบาหวาน ความดัน หัวใจ
หลอดเลือด ฯลฯ แล้วตามมาด้วย อัมพฤกอัมพาต เจ้าชายเจ้าหญิงนิทรา
ทำเอาญาติๆ เดือดร้อนกันอีกไม่รู้จบ กรณีวิทยุ(และทีวี)ก็เช่นกัน
ถ้าคนมัวแต่ฟังเพลง 24 ชั่วโมง ดูละครแม่ผัวลูกสะใภ้เอย
ละครที่มีนางเอกกับตัวอิจฉามาด่ากันแว๊ดๆๆๆ ละครพ่อแง่แม่งอนเอย
โดยไม่รับเอาเรื่องราวที่เป็นประโยชน์โดยเฉพาะรายการธรรมะ
(รวมถึงรายการสาระของศาสนๆ อื่นๆ ด้วย) เอาไว้บ้าง
ต่อไปสังคมคงล่มสลาย
ขอยกความเห็นที่ได้เคยเขียนไว้ในบันทึกของคุณหมอพิเชฐ
มารวมไว้ด้วยกัน ณ ที่นี้เพื่อความสมบูรณ์ ของ Topic วิทยุชุมชน
- ทราบ (จากหนังสือพิมพ์)
ว่าที่อินเดียมีวิทยุชุมชนแห่งหนึ่งลงทุนไม่ถึงพันบาท (อาจไม่ถึง 500
บาทด้วยซ้ำ) นับเป็นวิทยุชุมชนอย่างแท้จริง
- บางคนสนใจจะทำวิทยุเพื่อชุมชน แต่ติดขัดเรื่องงบประมาณ
เพราะมองสถานีวิทยุเป็นอะไรที่อลังการมีเครื่องไม้เครื่องมือเยอะแยะ
ถ้าหากเราจะเริ่มแบบอินเดียคือสถานีวิทยุแบบพอเพียงแล้วผมคิดว่าแค่หมื่น
หรืออย่างมากสองหมื่นก็พอครับ
-
กฎหมายมี Limit เรื่องกำลังส่งและความสูงของเสาอากาศ
แต่เราก็ไม่จำเป็นต้อง maximize สถานีจนถึงสุดขีด limit
ก็ได้นี่ครับ
เหมือนเราซื้อรถมาที่หน้าปัดบอกว่าสามารถเร่งได้ถึง 240 กม/ชม
เราก็ไม่จำเป็นต้องเหยียบจนสุดทุกครั้งที่ขับ
ใช้ความเร็วพอประมาณก็จะถึงที่หมายโดยปลอดภัย
- เราดูพื้นที่ Coverage Area ที่ต้องการว่าจะเอาแค่ไหน
แล้วก็มาออกแบบระบบ (กำลังส่ง+เสาอากาศ+Location)
- เอาเท่าที่จำเป็นครับ เช่นรัศมีรอบๆ สัก 1 หรือ 2 กม.ก็พอ
ถึงจะเรียกว่าวิทยุชุมชน
ไม่ใช่ว่าอยู่เชียงใหม่จะส่งมาให้ถึงหาดใหญ่เลยนี่ไม่ใช่วิทยุชุมชนแล้วครับ
แถมคนอื่นๆ ก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ความถี่กันพอดี ชุมชนควรจะหมายถึงหมายถึงหมู่บ้าน
ไม่ใช่อำเภอหรือจังหวัด
- โรงพยาบาลอยู่ที่สูงบางทีเสาอากาศก็อาจไม่จำเป็นต้องถึง 30
เมตรก็ได้ครับ
- กำลังส่งก็อาจจะไม่จำเป็นต้อง ถึง 30 วัตต์ การใช้กำลังส่งต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้
(QRP) เป็นการช่วยชาติประหยัดพลังงาน และช่วยชะลอ Global Warming
ได้ครับ
- หากเราเล่นกันจนถึงขีดสุดแล้ว (ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเลยขีดจำกัด)
ก็จะเกิดการรบกวนกันวุ่นวาย
ทุกวันนี้คุณพ่อผมจะฟังพระธรรมเทศนาทางวิทยุก็ฟังไม่ได้แล้ว
เพราะมีการรบกวน(จากวิทยุที่อ้างว่าเป็นวิทยุชุมชน)มากมายเหลือเกิน
- ลองจินตนาการว่าเราอยู่แฟลต
แล้วทุกห้องในแฟลตของเราเปิดเพลงกันสุดโวลุ่มสิครับ ทางซ้ายเพลงฝรั่ง
ทางขวาหมอลำ ข้างบน Jazz ข้างล่าง Hip Hop ในขณะที่เราอยากฟัง
Moon Light Sonata ของ Beethoven วิทยุชุมชนก็เหมือนกันครับ
เพียงแต่เวลาฟังต้องเปิดวิทยุ
พอเปิดวิทยุปุ๊บเราจะพบการรบกวนอย่างที่ผมยกตัวอย่างข้างบน
- คลื่นวิทยุเป็นทรัพยากรที่มีค่าและมีอยู่อย่างจำกัดครับ (เช่น 88
- 108 MHz.) เท่านั้น ถ้าเราใช้กำลังส่งสูงเกินไป
ก็จะไปรบกวนสถานีอื่นๆ รวมถึงผู้ฟังที่ไม่อยากฟังเรา
- การใช้กำลังส่งต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้
(QRP) จะส่งเสริมการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ (Frequency) Re-Use
ทำให้ใช้ทรัพยากรกันได้อย่างคุ้มค่าและได้ใช้กันถ้วนหน้าครับ
- และอย่าลืมเรื่องความปลอดภัยนะครับ
สายล่อฟ้าและสายดินควรทำให้ได้มาตรฐานทางวิศวกรรม รวมถึงเรื่องระบบ
Ground ของเรื่องส่งและอุปกรณ์ประกอบ
สามารถช่วยลดการรบกวนได้ครับ
- ทุกท่านที่สนใจเรื่องวิทยุเชิญแลกเปลี่ยนกันได้ครับ
- http://www.geocities.com/hs9xp/