ผมบังเอิญได้ยินมาว่าเมื่อซักประมาณเดือนก่อนได้ มีการแจกแบบสอบถาม (เห็นด้วย/ ไม่เห็นด้วย) ให้กับข้าราชการ คำถามข้อหนึ่งในนั้นก็คือ "ข้าราชการควรวางตัวเป็นกลางเพื่อลดความขัดแย้ง" ผู้กรอกแบบสอบถามต้องตอบว่า เห็นด้วยหรือไม่ ... ผมว่าคำถามที่สำคัญกว่านั้นคือ ไอ้คำถามเนี่ย นิยามคำว่า "เป็นกลาง" ว่าอะไร ไม่ว่ายุคสมัยใด เมื่อบ้านเมืองวุ่นวาย รัฐบาลก็จะออกมาประกาศว่า "ขอประชาชนจงพยายามวางตัวเป็นกลาง อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ" สมัยสมัครเป็นนายก ผมก็ได้ยินคำนี้ สมัยนี้ ก็ยังได้ยินอยู่ ผมคิดแล้วคิดอีกจึงสรุปว่า "กลาง" แปลว่า "กู" นี่เอง ปริศนาไขกระจ่างแล้วครับ ...
ประเด็นของผมคือ ผมไม่้เห็นด้วยกับประโยคนี้ การลดความขัดแย้งจริงๆแล้ว ไม่ใช่ว่าวางตัวเป็นกลางอย่างเดียวแล้วจะทำได้ (ต่อให้ลืมๆเรื่องความไม่เคลียร์ของคำไปเสียก่อน) การที่จะไม่ขัดแย้งกัน เราควรยอมรับความแตกต่างเสียดีกว่า ไม่ต้องมาแนะนำให้คนอื่นเป็นกลาง (=กู) แต่เราควรยอมรับว่าคนเราคิดต่างกันได้ คิดต่างกันแล้วจะเป็นไรไป คนนี้ชอบอภิสิทธิ์ โอเค คนนั้นชอบทักษิณ โอเค คนนู้นชอบสนธิ ก็ต้องโอเค การยอมรับความแตกต่างแปลเป็นภาษาที่คนไทยเข้าใจง่ายก็คือ ถ้าคนอื่นเขาึคิดไม่เหมือนเรา ก็ไม่ต้องปิดสนามบิน ไม่ต้องปิดอนุเสาวรีย์ ไม่ต้องไปด่าเขาว่าโง่ ไม่ต้องไปไล่เขาออกนอกประเทศ เขาแค่ไม่เหมือนเรา
ประโยคที่ว่า "ข้าราชการควรวางตัวเป็นกลางเพื่อลดความขัดแย้ง" เป็นเพียงการนำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่ (1) ไม่เคลียร์ (2) ทำจริงไม่ได้ และ (3) ไม่ตรงประเด็น หากผมเป็นคนออกแบบสอบถาม ผมคงใส่คำถามลงไปว่า "ข้าราชการควรเชื่อฟังที่รัฐบาลพูดทุกอย่างเพื่อลดความขัดแย้ง" ยังฟังดูจริงใจและรื่นหูเสียมากกว่า และน่าจะปฏิบัติจริงได้
สวัสดีค่ะ สบายดีมั้ย..มาแวะทักทาย รู้แล้วค่ะว่าเราญาติกันนะ ครอบครัวพี่มีชื่อนี้แหละ
สวัสดีครับคุณ rinda,
ผมสบายดีครับ
เคยได้ยินมาจากพ่อเหมือนกันครับเีรื่องญาตินามสกุล+ชื่อเดียวกัน
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับครูอ้อย
แบบสอบถามฉบับนั้นมีข้อฮาๆอยู่สองสามข้อครับ ไม่รู้ใครทำขึ้นมา