เรื่องแปลกของ ล ลิง


แมกกาซีนแปลก วันที่ 24 กรกฎาคม 2552

เรื่องแปลกของ ล ลิง

ลิงในประเทศไทยมีลิงอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ ลิงเสน ลิงกัง ลิงแสม ลิงไอ้เงียะ และลิงวอก เรามักจะคุ้นเคยกับภาพลิงที่กินอาหารแล้วเอาเก็บไว้ข้างแก้มจนแก้มตุ่ย จากนั้นจึงค่อยๆเอามือดันอาหารที่เก็บไว้ออกมากินทีละน้อย ซึ่งนั่นเป็นลิงกังที่พบมากตั้งแต่ราชบุรี เพชรบุรี จนถึงภาคใต้
    
       ลิงนั้นยังขึ้นชื่อในเรื่องความฉลาดแสนรู้  ยกตัวอย่าง ลิงที่เชิงเขาตังกวน ในเขตเทศบาลนครสงขลาเป็นตัวอย่างที่ดีของมนุษย์ในการมีระเบียบวินัยจราจร เพราะลิงที่นี่รู้จักการใช้สร้างสะพานลอยข้ามถนนเป็นอย่างดี โดยจุดที่ลิงข้ามนั้นแต่เดิมเป็นจุดที่ไม่มีสะพานลอยทำให้มีลิงเสียชีวิตจากการข้ามถนนอยู่เป็นประจำ ทางเทศบาลนครสงขลาเขาจึงได้สร้างสะพานลอยลิงไว้ให้ลิงข้าม ปรากฎว่าลิงก็รู้จักใช้สะพานข้ามเป็นอย่างดี ลิงจะใช้สะพานลอยลิงข้ามถนนทุกวัน แทนการวิ่งข้ามถนนเหมือนที่ผ่านมา ไม่มีภาพลิงถูกรถชนให้เห็นอีกต่อไป สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านแถวนั้นและนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาพบเห็น และเมื่อต้นปีที่ผ่านมานักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียวในญี่ปุ่นก็ได้เข้ามาบันทึกภาพลิงเสมที่ศาลพระกาฬ จังหวัดลพบุรี ขณะที่แม่ลิงสอนให้ลูกลิงของมันใช้เส้นผมของมนุษย์ขัดฟัน เพื่อทำความสะอาดฟัน โดยนักวิจัยพบว่า ในลิง 1 ฝูงซึ่งมีประชากรลิงกว่า 250 ตัวนั้น จะมีลิงที่รู้จักวิธีการใช้เส้นผมขัดฟันถึง 100 ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิงตัวเมียที่มีลูกแล้วจะใช้ระยะเวลาในการขัดฟันมากกว่าลิงปกติเป็น 2 เท่าเพราะมันจะคอยสอนให้ลูกของมันทำตามด้วยเพื่อสุขอนามัยของช่องปาก

ลิงกับมนุษย์นั้นอยู่ร่วมกันมานานแล้วและรู้กันว่าลิงเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ลิงที่กำลังจะสูญพันธ์ ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถึงกับมีความคิดที่จะสร้าง Monkey Land ” หรือเกาะลิงขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ต เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มทัวร์แอฟริกากว่าแสนล้านคนต่อปีให้เข้าชม โดยเกาะลิงที่ว่านี้จะมีการนำลิงที่หายากของประเทศไทยไปใช้ชีวิตอยู่บนเกาะให้นักท่องเที่ยวได้ชม โดยใช้ลักษณะการจอดเรือแวะที่จุดถ่ายรูปโดยที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องขึ้นเกาะ ก็น่าสนใจไปอีกแบบ

ความจริงคนไทยรู้จักใช้ความฉลาดของลิงมาทำประโยชน์กันมานานแล้ว ลิงในอดีตถูกฝึกให้เป็นนักแสดงละครตามงานวัด ลิงพวกนี้ถูกเรียกว่า “ ลิงวนิพก ” เนื่องจากคนเลี้ยงลิงจะนำลิงเพียงตัวเดียวมาฝึกแล้วนำมันไปตระเวรแสดงตามตลาดและงานวัด แสดงท่าทางต่างๆและบ้างก็แสดงกายกรรมเพื่อแลกเงิน  จนต่อมาภายหลังในสมัยรัชกาลที่ 6 จึงได้มีผู้ริเริ่มนำลิงมาหัดเล่นกันเป็นคณะ โดยคณะแรกคือคณะปรีดาวานร กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเจ้าของลิงวนิพกทำตามกันเป็นจำนวนมาก จนมาถึงปัจจุบันละครลิงล้มหายตายจากเนื่องจากขาดผู้สืบทอด เหลือเพียงแค่คณะเดียวที่ยังเดินสายทำการแสดงอยู่คือ คณะศิษย์พระกาฬละครลิง ซึ่งอาจจะหมายรวมไปถึงคณะเดียวในโลกอีกด้วย แม้แต่ "กินเนสส์บุ๊ค เวิลด์ ออฟ เรคคอร์ด" ยังต้องมาบันทึกสถิติโลกเอาไว้!

สำหรับบางคนอาจจะยังจำได้กับบทบาทของลิงประกิต เจ้าลิงที่โด่งดังจากการเป็นพรีเซนต์เตอร์โฆษณาให้กับสินค้าทางโทรทัศน์หลายรายการเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น โฆษณากระเบื้องโอฬารตราลูกโลกที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในสมัยนั้น กับวลีที่ฮิตติดปากกันทั่วเมืองที่ว่า “ฝากไว้ก่อน โอฬาร” โฆษณานี้ใช้นักแสดงเป็นลิงทั้งเรื่อง เป็นเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างลิงกับกระเบื้อง โดยฝูงลิงเข้าโจมตีกระเบื้องที่อยู่บนหลังคาโดยการขว้างลูกมะพร้าวใส่ แต่จะทำอย่างไรกระเบื้องก็ไม่สะทกสะท้าน เมื่อฝูงลิงเห็นว่ากระเบื้องนั้นเป็นกระเบื้องโอฬารจึงได้ล่าถอย และพูดอย่างเจ็บแค้นว่า “ฝากไว้ก่อน โอฬาร” เป็นโฆษณาที่เน้นอารมณ์ขันแต่กลับประสบความสำเร็จในการสร้างการจดจำตราสินค้าได้เป็นอย่างดี และโฆษณารณรงค์การสวมหมวกกันน็อคของทางภาครัฐ ซึ่งมีวลีฮิตติดปากอีกเช่นกัน คือ “หมวก หมวกไปไหนล่ะ หมวก” ซึ่งเป็นเรื่องของผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์แต่ไม่ยอมสวมหมวกกันน็อกที่แม้แต่ลิงก็ยังใส่ ลิงจึงต้องคอยมาเตือน จนต้องอายลิงกันไป

เจ้าประกิตพรีเซนต์เตอร์แสนรู้ตัวนี้นั้นเป็นลิงที่ผ่านการฝึกโดยคุณ "ปัญญา กันรอบรู้" เจ้าของคณะศิษย์พระกาฬละครลิง แม้ว่าตอนนี้เจ้าประกิตนั้นปลดเกษียณแล้วเนื่องจากมันแก่มากแสดงไม่ไหว แต่ก็ได้ส่งเจ้าประกิตจูเนียร์ รุ่นลูกของมันมาแสดงแทน ปัจจุบันคณะศิษย์พระกาฬละครลิง แสดงประจำอยู่ที่โรงละครลิง ฟาร์มจระเข้ จ.สมุทรปราการ และที่สวนสัตว์พาต้า กทม. ส่วนงานเทศกาลสำคัญๆอย่างงานวัดภูเขาทองซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีในช่วงวันลอยกระทงก็จะมีไปบ้าง และรับงานจ้างไปตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ  

ใครที่ยังไม่เคยได้ชมละครลิงของจริง แนะนำให้ไปชมกัน รับรองว่าสนุกได้อรรถรสไปอีกแบบ และเป็นการแสดงที่คุ้มค่าเพราะกว่าพลพักลิงจะมาแสดงให้เราดูได้นั้นนักแสดงต้องผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีจากครูฝึกซึ่งอาศัยการถ่ายทอดประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น ที่บ้านของชาวคณะซึ่งตั้งอยู่ที่ย่านปากเกร็ดนั้น เต็มไปด้วยครอบครัวลิงร่วม 30 ตัว ทั้งลิงกัง ลิงเสน และลิงวอก ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ รวมถึงลูกลิงที่พึ่งเกิดไม่กี่เดือน ลิงที่นี่อยู่ร่วมกับคนอย่างใกล้ชิดและถูกดูแลประคบประหงมเหมือนกับลูกคนที่สองเลยก็ไม่ปาน ตั้งแต่การอาบน้ำ ทำความสะอาดกรง ดูแลที่อยู่ที่กิน ตัดแต่งขน ตัดเล็บให้สวยงาม ตัดเสื้อผ้าให้สวมใส่ทั้งเพื่อประกอบการแสดงและใส่เวลาหน้าหนาว ไปจนถึงการโอบอุ้มอย่างอ่อนโยน 

เมื่อลิงได้รับการดูแลอย่างจริงใจจากมนุษย์ พวกมันก็ยินดีจะเชื่อฟังคำสั่ง ลิงที่นี่ทุกตัวกลายเป็นทีมนักแสดงมือโปร ซึ่งผ่านการฝึกจากพื้นฐานที่เหมือนกัน เริ่มตั้งแต่ท่าทักษะพื้นฐาน เช่น เดิน นั่ง ยืน ซึ่งท่าเหล่านี้เหมือนจะง่ายแต่กว่าจะผ่านช่วงนี้ไปก็เสียเวลานานร่วมเดือน หรือบางครั้งอาจจะล่วงเลยไปถึงขวบปี แต่จะมีใครรู้บ้างว่านอกจากลิงเหล่านี้จะสามารถแสดงละครลิงได้แล้ว เบื้องหลังแต่ละตัวก็มีความสามารถพิเศษที่ต่างกันไป เช่น บางตัวกระโดดลอดบ่วงไฟได้ บางตัวดำน้ำหาเหรียญได้ หรืออย่างน้องเล็กสุดจะชอบดูดนมจากขวดนมเด็กและเมื่อมันได้ดูดแล้วก็จะไม่ยอมปล่อย แม้จะจับมันคว่ำ หงาย ตีลังกาอย่างไร มันก็ไม่ยอมให้ขวดนมหลุดออกจากปาก ความแสนรู้ของเจ้าลิงที่นี่ยังไม่หมดแค่นี้ อย่างเจ้าลิง "ประกิตจูเนียร์" ลิงสาววัย 2 ปี ซึ่งมีใบหน้าเรียวเล็กและมักจะรับบทเป็นนางเอกซึ่งต้องถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางจนแก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ ตัวจริงของมันก็รักสวยรักงามไม่แพ้กัน มันมักจะชอบให้แม่ (ลูกสาวคุณปัญญา) แต่งหน้าทาปากให้มัน โดยประกิตจูเนียร์จะเลือกสีของเครื่องสำอางที่มันชอบจากนั้นก็จะชี้ให้แม่แต่งหน้าให้ แม้ว่าการแต่งหน้าของลิงอย่างประกิตอาจจะต้องมีการเจ็บตัวกันบ้าง เพราะต้องใช้มีดโกนขนที่บริเวณใบหน้าและปากออกก่อน เพื่อให้ใบหน้าเรียบจะได้แต่งหน้าออกมาแล้วสวย แต่มันก็ยอม และเมื่อแต่งเสร็จทุกครั้ง มันก็จะชอบส่องกระจกเช็คดูความสวยงามของตัวเอง แทบไม่น่าเชื่อว่าลิงในประเทศไทยแม้จะมีมันสมองเท่าเด็ก 2 ขวบเท่านั้น แต่เมื่อได้รับการฝึกร่วมกับคนก็เก่งได้ไม่แพ้ลิงที่ฉลาดที่สุดในโลกอย่างลิงซิมแปนซี

ปิดท้ายด้วยเรื่องของลิงซิมแปนซีดาราฮอลีวูทที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังและใครๆก็รู้จักคือเจ้าบับเบิลส์ ลิงซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจของไมเคิล แจ๊คสัน ซึ่งเขารักเหมือนกับลูกคนแรก ท่าทางการเดินของเจ้าบับเบิ้ลนี้เองได้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดท่าเต้น มูนวอล์ค (Moonwork) ในแบบฉบับของไมเคิล แจ๊คสัน กลายเป็นท่าเต้นประจำตัวที่โด่งดังไม่แพ้ท่าเต้นรูปเป้าของเขาเลยก็ว่าได้ และมันยังเคยขึ้นโชว์ตัวพร้อมกับไมเคิลเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ปัจจุบันเจ้าบับเบิลส์ยังมีชีวิตอยู่ในวัย 26 ปี ที่ศูนย์วานร นอกเมืองวาอูชูลา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีอนุสรห์ความรักระหว่างไมเคิลกับบับเบิลส์ เป็นผลงานประติมากรรมกระเบื้องเคลือบรูปไมเคิล แจ๊คสันกับบับเบิลส์ (Jackson and Bubbles) รูปคนกับลิงแต่ได้จัดแสดงไว้ในพระราชวังแวร์ซายส์ คิดดูซิ! ผลงานชิ้นนี้ปั้นโดยฝีมือของศิลปินที่ชื่อ เจฟฟ์ คูนส์ ซึ่งรูปปั้นนี้ถูกประมูลไปในปี 1988 ในราคา 5,616,750 เหรียญ ที่ Sotheby’s กรุงนิวยอร์กเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2001 นับเป็นงานประติมากรรมที่ราคาสูงที่สุดโดยฝีมือของศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่ 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 285871เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2009 18:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท