องค์กรแห่งความสุข


ประสิทธิภาพสูงสุดขององค์กร ได้จากคนทำงานด้วยความสุข

   "องค์กรแห่งความสุข"  น่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ของระบบราชการนะคะ 

   เพราะช่วงนี้ดิฉันได้ฟังเรื่องนี้ในที่ประชุม/สัมมนาใหญ่ๆ 2 แห่ง คือ

   ♣  เมื่อไปอบรมหลักสูตรนักบริหารฯระดับกลาง วิทยากรกำหนดให้ Happiness เป็นวัฒนธรรมขององค์กรที่สำคัญที่สุด  

   ♣  ครั้งที่ 2  ช่วงเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน กพ.มาจัดอบรมให้ข้าราชการส่วนภูมิภาค ที่ขอนแก่น  เพื่อเตรียมการรองรับระบบประเมินผลข้าราชการแบบใหม่(เงินเดือนขึ้นเป็นเปอร์เซนต์)ซึ่งจะเริ่มต้นเดือนตุลาคมนี้.. 1 ในหลักสูตรที่เขาจัด มีวิชา องค์กรแห่งความสุข ด้วย..

     ตอนแรกก็ไม่สนใจนะคะ..แต่เมื่อได้ฟังวิทยากรนำเสนอแล้ว..อดไม่ได้..ขอเขียนถึงหน่อยเถอะ.. 

    วิทยากรคือ นายแพทย์ชาญวิทย์   วสันต์ธนารัตน์  แห่งโรงพยาบาลชลบุรี  อีกตำแหน่งคือผู้จัดการแผนงานสุขภาวะองค์กรภาคเอกชน  อายุ   36 ปี (หน้าเด็กมาก)  ท่านเล่าว่า..ท่านมีเป้าหมายดำเนินชีวิตใน 2 ภารกิจ คือ

            เป็นหมอรักษาผู้ป่วย

            เป็นวิทยากร ขับเคลื่อนนโยบาย Happy  workplace 

          

   ... โดดเด่นในการนำเสนอเรื่องที่เข้าใจยาก  ให้ฟังแล้วง่าย   เทคนิคการนำเสนอสนุกสนาน.. ไม่ง่วง.. เป็นที่ประทับใจ พี่  ป้า  ย่า  ยาย มากๆ...

 

ท่านบอกว่า ประสิทธิภาพสูงสุดขององค์กร  ได้จากคนทำงานด้วยความสุข

 

    โลกปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงไปมาก ที่ใกล้ตัวที่สุดคือ การปรับระบบราชการเข้าสู่ระบบแท่ง  ตามมาด้วยการถ่ายทอดตัวชี้วัดสู่บุคคล ประเมินผลการทำงาน แล้วเลื่อนเงินเดือนเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามปริมาณงานที่ทำได้

 

    ดังนั้น กพร.จึงกำหนดคำขวัญไว้ว่า 

 

  "ข้าราชการไทยต้อง   เก่ง   ดี    มีส่วนร่วม  และทันต่อการเปลี่ยนแปลง"

 

   มีวัฒนธรรมองค์กร  I   AM  READY   เป็นตัวขับเคลื่อน 

I (Integrity)        ต้องเป็นผู้ที่ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี

A (Activeness)     ขยันตั้งใจทำงานเชิงรุก

M (Morality)       มีศีลธรรม  คุณธรรม

R (Relevancy)     ปรับตัวให้ทันโลก

E (Efficiency)      มุ่งเน้นประสิทธิภาพ

A (Accountability)        รับผิดชอบต่อผลงาน  ต่อสังคม

D (Democracy)           มีใจและการกระทำที่เป็นประชาธิปไตย

Y (Yield)    ประชาชนมีส่วนร่วมโปร่งใสและมุ่งเน้นผลงาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิ่มอีก 2 ตัว คือ

I (Inspiration)     แรงบันดาลใจ

H (Happiness)    ความสุขส่วนตัวและความสุขในการทำงาน

      อาจารย์ บอกว่า วัฒนธรรมองค์กรแห่งความสุข มี 8 H คือ

1.    Happy  Body  (สุขภาพดี  มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ  รู้จักใช้ชีวิต   รู้จักกิน  รู้จักนอน  ชีวีมีสุข) 

2.    Happy  Heart  ( น้ำใจงาม  มีน้ำใจเอื้ออาทรต่อกันและกัน   ช่วยเหลือแบ่งปันอย่างเหมาะสม)

3.    Happy  Relax ( รู้จักผ่อนคลายต่อสิ่งต่างๆในการดำเนินชีวิต  รู้จักบริหารจัดการสิ่งที่เรียกว่า ทุกข์ในงาน  ทุกข์ในชีวิต)

4.    Happy  Brain (  การศึกษาหาความรู้พัฒนาตนเอง  ตลอดเวลาจากแหล่งต่างๆ  นำไปสู่การเป็น มืออาชีพ  และความมั่นคงก้าวหน้าในการทำงาน )

5.    Happy  Soul  ( ยึดถือธรรมะของการทำงานเป็นทีม คือ หิริ โอตัปปะ  หมายถึง ความละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำ   ถ้าคนดี มีคุณธรรม  มีความซื่อสัตย์  นำความสุขสู่องค์กรณ์)

6.    Happy  Money ( ใช้เงินเป็น  มีเงินรู้จักเก็บ รู้จักใช้เป็นหนี้ให้พอดี  มีชีวิตที่เหมาะสม) มีความสามารถในการบริหารจัดการรายได้ และรายจ่ายของตนเองและครอบครัว(บัญชีครัวเรือน)

7.    Happy  Family ( ครอบครัวดี  มีครอบครัวที่อบอุ่น และมั่นคง ให้ ความสำคัญกับครอบครัวเป็นกำลังใจที่ดีในการทำงาน)

8.    Happy  Society ( สังคมดี  มีความรักสามัคคี เอื้อเฟื้อต่อสังคมที่ตนทำงานและพักอาศัย มีสังคม และ สภาพแวดล้อมที่ดี

    อ่านแล้วเป็นไงคะ  มีใครมีครบ 8 ข้อมั้ย..ดิฉันว่า ได้เกินครึ่งก็บุญแล้วนะ..

 

 

  

หมายเลขบันทึก: 285826เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2009 16:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ได้ความรู้ดีค่ะ..ขอบคุณที่นำเสนอสิ่งดีๆๆ

  • ได้อ่านสิ่งดี ๆ ก็มีความสุขเพิ่มขึ้น..ได้อีกหนึ่งดีแล้วครับ...
  • ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ

พี่เขียนบล็อคได้น่าสนใจมากค่ะ

บังเอิญ search เข้ามาอ่านเรื่อง R9

เลยดูเรื่องอื่นๆ ด้วย

ตัวเองไม่ได้อยู่ภาคราชการ แต่ทำงานทางด้านพัฒนา

และก็มีที่รับงานราชการด้วย บล็อคพี่ทำให้เข้าใจการทำงานของพวกพี่มากขึ้นค่ะ เป็นความรู้ดี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท