ระหกระเหินทัวร์
เมื่อวานนี้ในขณะที่แม่ต้อยกำลังนั่งทำงาน พร้อมกับเปิดเพลงยุคเก่าๆฟังไปด้วยเพื่อความผ่อนคลาย ก็ได้ยินเสียงดีเจ หนุ่มๆ( คงจะต้องหนุ่ม... ฟังจากน้ำเสียง.. ) ได้พูดเชิญชวนให้คนที่ฟังรายการนี้ ร่วมไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคงเป็นบริษัททัวร์ แห่งใด แห่งหนึ่งเป็นแน่ ที่เขาเป็นเจ้าของ
เลยทำให้แม่ต้อยนึกขึ้นมาว่าสถานที่ที่เขาชวนไปเที่ยวนั้น แม่ต้อยเองเคยไปมาแล้ว..นานมากเหมือนกัน แต่ก็ยังจำได้บ้างเลยจะเอามาเล่าให้ฟังพอเป็นข้อมูลเบื้องต้น เผื่อใครๆคิดอยากไปบ้างนะคะ
แต่การไปเที่ยวของแม่ต้อยนั้นไม่ได้ใช้บริการของทัวร์ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมาคิดกันว่า เราอยากจะไปที่ไหนเมื่อไหร่ก็จะไป เรียกว่าพวกเราชอบทำตามอำเภอใจ นั่นแหละคะ นิสัยแบบนี้ดีไม่ดีก็ลำบากเหมือนกัน
และด้วยเหตุของการตามอำเภอใจนี้เอง ทำให้ การเที่ยวของพวกเราจึงน่าจะเรียกได้ว่า “ระหกระเหิน ทัวร์” จริงๆ เพราะว่าแม้ว่าจะแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดแจ้ง ว่าใครจะทำอะไร แต่ก้ยังมีติดๆขัดๆ แต่ก็สนุกเอาเรื่องคะ ทุกอย่างเป้นไปตามที่เรากำหนด ไม่ว่าจะตื่นสายจะ กินอะไร ที่ไหน ตามใจเราด้วยประการทั้งปวงคะ
มีกันไปแค่๕ คนคะ เป็นผู้หญิงล้วนๆๆ เพื่อนอีกสี่คน มาจากหน่วยงานต่างกันดังนี้ คนแรกเป็นท่านรองปลัดกระทรวงการคลัง คนที่สองเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม คนที่สามเป็นรองผู้ว่าการท่องเที่ยว( สำคัญๆๆ) คนที่สี่เป็นนายพลคนสวย และคนสุดท้ายคือแม่ต้อยเองคะ
นี่แหละคะ ระหกระเหินทัวร์
วันแรกที่เริ่มดินทางก็เจอสายการบินที่ล่าช้า จากเดิมที่จะออกเดินทาง ๕ ทุ่ม ก็เลื่อนไปเป็น ตีสองเสียแล้ว ( เขาเรียกว่า ลองของ ) ฮ่า ๆๆๆ
ครั้งนี้ เราตั้งใจว่าจะไปแหล่งที่เป็นน้ำพุร้อนที่ขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่น ธรรมชาติ และศาลเจ้าต่างๆที่มีชื่อเสียง เราจึงเลือกที่จะไป ฟูกูโอกะ เบบปุ( Beppu) และเมืองแห่งสันติภาพ ฮิโรชิมา
เมื่อลงจากเครื่องบินที่ สนามบิน ฟูกุโอกะ อย่างกระเซอะกระเซิง เพราะยังนอนไม่เต็มตา เรานั่งโดยรถบัสขนาดย่อมที่จองไว้ล่วงหน้า พาพวกเราที่นั่งแบบสลึมสลือไปที่เมือง เบปผุเป็นอันดับแรกทันที โชว์เฟอร์ใจดี แสนสุภาพ แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้แม้แต่คำเดียว ถามอะไรก็บอกว่าไฮ้ๆๆๆ เราเลยพากันนั่งหลับบ้างคุยกันไปบ้างตลอดทาง
เบปผุ ตั้งที่จังหวัด โออิตะ ทางตะวันตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฟูกูโอกะ อีกทีเมืองนี้ขึ้นชื่อมากในเรื่องน้ำพุร้อนจากธรรมชาติ เนื่องจากอยู่ใกล้ภูเขาไฟ มีทั้งโคลนเดือด บ่อทะเลเดือด หรือบ่อสีเลือดเป็นต้น ( ชื่อน่ากลัวมากจริงๆ) มีคนเล่าว่าในโลกนี้มีบ่อน้ำพุร้อนที่แตกต่างกัน ๑๑ ชนิด
แต่ปรากฏว่าอยู่ในเมืองเบปผุนี้ถึง ๑๐ ชนิดไปแล้ว.. น่าสนใจมากๆ ดังนั้นจึงเรียกว่า มาที่นี่ที่เดียวก็ได้เห็นเกือบครบแล้ว การไปทัวร์บ่อน้ำพุร้อนนี้บางคนเขาก็เรียกว่า Hell Tour หรือ ทัวร์นรก เพราะแต่ละบ่อมีชื่อที่น่ากลัวเหลือเกิน อย่างที่บอกไว้นั่นเอง
คณะเรา ไม่อาจจะไปดูครบทั้ง ๘ บ่อได้จึงเลือกไปบางที่ ที่น่าสนใจเท่านั้น
บ่อสีเลือด blood pond hell
แห่งแรกที่ไปคือ ชิโนอิเกะ จิโกกุ หรือบ่อสีเลือด เป็นบ่อน้ำพุร้อนมีสีแดงคล้ายเลือด มีควันพุ่งออกมาตลอดเวลา ด้วยชื่อและความร้อนทำให้นึกถึงเรื่องราวของกระทะทองแดงในนรกที่คนทำความชั่วจะต้องลงไปเสียจริงๆ
หากเอาใบหน้าไปอังหรือยืนใกล้ๆ จะร้อนผะผ่าว แต่บริเวณใกล้น้ำพุร้อนสีเลือดนี้ มีน้ำตกสวยงามใสสะอาดไหลเย็นปลาตัวเล็กๆว่ายไปมา ดูราวกับ นรกและสรรค์ มาเปรียบเทียบกันให้เห้นต่อหน้าเรานี้เอง
ก่อนจะเข้าไปดูน้ำพุ เราต้องผ่านสถานที่สำคัญก่อนคือ นั่นคือบริเวณ ช้อบปิ้ง มีสินค้ามากมาย รวมทั้งผลิตภัณท์ จากน้าแร่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นผงขัดตัว ผงแร่ที่เราเอามาแช่น้าอาบได้ หรือน้าแร่เอาไว้ฉีดพรมใบหน้าเวลา เหนื่อยล้า เป็นต้น เรียกว่า เอามาทำสินค้าได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว กว่าจะหลุดตรงนี้ไปได้ พวกเราเรียกกันแล้ว เรียกกันอีก เรียกได้ว่าไม่มีใครฟังใครแล้วงานนี้
จากนั้นเรามาดูต่อที่ บ่อทะเลเดือด และหุบเขานรก ดูชื่อแล้วน่ากลัวนะคะ แต่แม่ต้อยกลับคิดว่านี่เป็นความงามตามธรรมชาติ ที่หาดูได้ยากมากๆ นึกพิศวงในธรรมชาติ ที่ให้มวลมนุษย์ทั้งด้านเป็นโทษ และเป็นประโยชน์ ดังเช่นที่ประเทศญี่ปุ่นที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ใกล้ภูเขาไฟ อันอาจจะมีอันตรายจากแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด แต่ทว่าเขาสามารถได้ใช้ ธรรมชาติเหล่านี้ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ และดึงดูดคนทั่วโลกได้
บ่อทะเลเดือด
ที่บ่อทะเลเดือดนี้ แม่ต้อยว่ามีความสวยงามแปลกตาเป็นที่สุด เพราะว่าน้ำในบ่อน้ำร้อนนี้จะเป็นสีเขียวมรกตสวยงามมากคะ คนที่นั่น เขาบอกว่าในบ่อนี้มีส่วนประกอบของแร่โคบอลต์ คงจะร้อนมากๆ เพราะเห็นมีคนเอาไข่ลงไปต้มอย่างสนุกสนาน
สีสวยมากคะ สามารถเอาไข่ลงไปต้มได้คล้ายๆหลายแห่งในบ้านเรา
บริเวณ หน้าบ่อทะเลเดือดนี้ เขาจัดภูมิทัศน์ไว้สวยงามมาก มีสระบัวกอใหญ่ มีศาลเจ้าให้ไปกราบไหว้ และแน่นอนคะ มีที่ให้ช้อบปิ้ง อันน่าเพลิดเพลินใจ เช่นเคย
ส่วนที่เรียกว่า หุบเขานรก จะอยู่ใกล้ๆ บ่อทะเลเดือดคะ จะเห็นน้ำพุร้อนพุ่งพวยมาจากก้อนหินและมีกลุ่มควันสีขาวพุ่งไปบนท้องฟ้าและบริเวณใกล้เคียงคะ
เนื่องจากความอ่อน เพลียจากการเดินทางที่ค่อนข้างดึก และอายุที่สิริอายุเมื่อรวมกันแล้วมากกว่า ๒๕๐ ปี ...เกือบๆ ๓๐๐ปี...
สาวๆเช่นเราจึงพร้อมใจกันบอกว่า พอแล้วๆๆ เราเที่ยว ตามใจฉันนี่นะ..No More hot water!!!!!!
ดังนั้นพวกเราจึงขยับเดินทางต่อไปยังเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งที่ถูกขึ้นชื่อเป็นมรดกของโลก ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและ ธรรมชาติที่สวยงาม รวมทั้งวัฒนธรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น กล่าวกันว่า หากต้องการจะมาสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมญี่ปุ่น ต้องมาที่นี่แหละ
เมืองเล็กๆนี้ชื่อว่าเมือง ยูฟูอิน Yufuin ซึ่งเป็นเมืองสุดแสนน่ารัก อยู่ในจังหวัด โออิตะ Oita ใกล้ๆเมืองเบบผุนี่แหละคะ แม่ต้อยขอโชว์ภาพก่อนเพื่อเป็นตัวอย่างคะ
เราหวังว่าคืนนี้เราจะได้อาบน้ำและกินข้าว รวมทั้งนอน บนที่นอนแบบเรียวกังของญี่ปุ่นกันเสียที
ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้นแม่ต้อยจะเอามาเล่าในครั้งต่อไปนะคะ
สวัสดีคะ
ความเห็น (11)
ขอให้แม่ต้อยเที่ยวให้สนุกนะ
อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยละ
จะถึงวันแม่แล้วธรรมฐิตขอให้แม่ต้อยสมปรารถนาดั่งคิดนะขอรับ..
ธรรมะคุ้มครองขอรับ..
น่าสนุกนะคะ แม่ต้อย
สวัสดีคะแม่ต้อย
คิดถึงนะคะ ขอบคุณนะคะที่พาเที่ยวนะคะ เหมือนเดินทางไปเองนะคะ
แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช
เมื่อ อา. 09 ส.ค. 2552 @ 20
สวัสดีคะน้องแก้ว
หายไปนาน คิดถึงน้องๆมากนะคะ
แม่ต้อย
- มาสวัสดีแม่ต้อย
- เนื่องในวันแม่ค่ะ
- ขอให้มีสุขภาพกายที่แข็งแรง
- มีความสุข มากๆ
- เช่นบันทึกนี้ตลอดไป
กุ้งคิดว่าการได้ไปท่องเที่ยวเป็นการเติมพลังให้ชีวิต เเม่ต้อยจะได้มีพลังในการสร้างสรรค์งานต่อไป ญี่ปุ่นสวยงามมากค่ะเเม่ต้อย ตามเเม่ต้อยมาเที่ยวอีกตามเคย
สวัสดีค่ะ แวะมาทักค่ะ คิดถึงนะคะสบายดีหรือเปล่าคะ
