ริบบิ้นสีฟ้า


'พ่อครับ เมื่อตอนเย็นผมอยู่บนห้อง นั่งเขียนจดหมายถึงพ่อกับแม่เพื่ออธิบายว่าทำไมผมถึงฆ่าตัวตาย แล้วก็ขอให้พ่อยกโทษให้ผม ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตายคืนนี้ตอนพ่อหลับ ,,,,,ผมอยากให้เจ้านายช่วยส่งต่อริบบิ้น.....พ่อขับรถกลับบ้าน ก็คิดว่าริบบิ้นเส้นนี้จะให้ใครดีแล้วพ่อก็นึกถึงแก พ่ออยากชื่นชมแกนะ แกเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมเลยแหละ แล้วพ่อก็รักแกนะ......

ริบบิ้นสีฟ้า
 
 ขอขอบคุณความรู้สึกดีๆที่มีมาจากDr.kitsana kiddee และ จิตตานันท์ ติกุล  ฝ่ายประสานงานการวิจัยสถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี111 ถ. มหาวิทยาลัย ต. สุรนารี  อ. เมือง จ. นครราชสีมา 30000 [email protected]; [email protected]  ความมีว่า
" ครูคนหนึ่งที่นิวยอร์คตกลงใจจะแสดงความชื่นชมนักเรียนไฮสคูลชั้นปีสุดท้ายที่เธอสอนด้วยการบอกเขาเหล่านั้นว่าแต่ละคนมีคุณค่าพิเศษต่างจากคนอื่นอย่างไรบ้างเธอเรียกนักเรียนทุกคนไปหน้าชั้นทีละคน
แรกสุดเธอบอกแต่ละคนว่าพวกเขามีคุณค่าเพียงใดทั้งต่อตัวครูและต่อเพื่อนร่วมห้อง


จากนั้นเธอก็มอบริบบิ้นสีฟ้าพิมพ์ด้วยตัวหนังสือสีทองเป็นของขวัญให้  ข้อความบนริบบิ้นมีว่า
'ฉันเป็นคนมีคุณค่า'


จากนั้นครูให้นักเรียนทำงานกลุ่มของชั้นขึ้นมาชิ้นหนึ่งด้วยวัตถุประสงค์เพื่อดูว่าการแสดงความชื่นชมยกย่องผู้อื่นส่งผลอย่างไรต่อคนในชุมชนเธอมอบริบบิ้นแก่นักเรียนคนละสามเส้นให้นักเรียนเผยแพร่การรับรู้และชื่นชมคุณค่าผู้อื่นในวงกว้างออกไปจากนั้นนักเรียนจะต้องติดตามผลและดูว่าใครยกย่องใครบ้าง
แล้วนำกลับมารายงานในห้องภายในหนึ่งสัปดาห์

นักเรียนชายคนหนึ่งเข้าพบผู้บริหารระดับรองที่ทำงานในบริษัทใกล้ๆเพื่อยกย่องที่ชายผู้นี้เคยช่วยเขาวางแผนอาชีพในอนาคตแล้วมอบริบบิ้นติดให้บนเสื้อเชิ้ต  จากนั้นก็มอบริบบิ้นอีกสองเส้นที่เหลือพร้อมกับกล่าวว่า...'เรากำลังทำงานกลุ่มของชั้นเรียนเกี่ยวกับเรื่องการแสดงความยกย่องชื่นชมผู้อื่นครับ
ผมอยากขอให้คุณช่วยหาใครสักคนที่คุณต้องการยกย่อง" แล้วให้ริบบิ้นเขาส่วนอีกเส้นก็ให้เขาไว้สำหรับมอบให้คนต่อไปเพื่อเผยแพร่การยกย่องชื่นชมนี้ให้กระจายต่อไป'แล้วช่วยกลับมาบอกผมด้วยครับว่าผลเป็นยังไงบ้าง'     

ต่อมาในวันเดียวกันผู้บริหารท่านนี้เข้าพบเจ้านายเขาซึ่งเป็นคนที่ใครๆรู้กันดีว่าเกรี้ยวกราดอารมณ์ร้าย
เขานั่งลงคุยกับเจ้านายบอกเจ้านายว่า  ลึกๆเขายกย่องชื่นชมเจ้านายว่าเป็นผู้มีหัวคิดสร้างสรรค์ระดับอัจฉริยะดูเหมือนเจ้านายเขาจะประหลาดใจอย่างยิ่งเขาถามเจ้านายว่าจะยินดีรับริบบิ้นสีฟ้าเป็นของขวัญแสดงความชื่นชมและอนุญาตให้เขาติดริบบิ้นให้ได้หรือไม่เจ้านายผู้ประหลาดใจตอบว่าได้
เขาจึงติดริบบิ้นสีฟ้าเส้นนั้นบนปกเสื้อนอกบริเวณเหนือหัวใจ  เมื่อเขามอบริบบิ้นเส้นสุดท้ายแก่เจ้านาย
เขาบอกเจ้านายว่า  ช่วยอะไรผมสักอย่างได้ไหมครับ  ผมอยากให้เจ้านายช่วยส่งต่อริบบิ้น
เส้นสุดท้ายนี่ด้วยการยกย่องชื่นชมใครสักคน  พ่อหนุ่มที่ให้ริบบิ้นผมมาเป็นคนแรกกำลังทำงานกลุ่มของชั้นอยู่   เขาอยากให้ช่วยกระจายการยกย่องชื่นชมนี้ให้เผยแพร่ในวงกว้างออกไปแล้วดูว่าการทำแบบนี้ส่งผลต่อใครๆ  ยังไงบ้าง 
  
  ค่ำวันนั้น  ชายผู้เป็นเจ้านายกลับบ้านไปหาลูกชายวัยรุ่นอายุสิบสี่   เขาเรียกลูกชายให้นั่งลง  แล้วกล่าวว่า  วันนี้เกิดเรื่องเหลือเชื่อที่สุดกับพ่อตอนอยู่ห้องทำงาน   ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาบอกว่าเขาชื่นชมพ่อแล้วให้ริบบิ้นเส้นหนึ่งเป็นการยกย่องว่าพ่อเป็นอัจริยะเรื่อง  ความมีหัวคิดสร้างสรรค์  ลองนึกดูเขาคิดว่าพ่อมีหัวคิดสร้างสรรค์เข้าขั้นอัจฉริยะเชียวนะ  แล้วเขาก็เอาริบบิ้นเส้นนี้ที่เขียนว่าฉันเป็นคนมีคุณค่าติดให้บนปกเสื้อนอกตรงหัวใจนี่แล้วยังให้ริบบิ้นพ่อมา  อีกเส้นให้พ่อมองหาใครสักคนที่จะยกย่องชื่นชมต่อ
ระหว่างที่พ่อขับรถกลับบ้าน   ก็คิดว่าริบบิ้นเส้นนี้จะให้ใครดีแล้วพ่อก็นึกถึงแก  พ่ออยากชื่นชมแกนะ
วัน ๆ  พ่อทำงานยุ่งเหยิงมากพอกลับมาบ้านก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจแกสักเท่าไร  บางทียังอาละวาดอีก
เรื่องแกเรียนได้เกรดไม่ดี  เรื่องทำห้องนอนรก  แต่ยังไงไม่รู้สิ  วันนี้พ่อกลับอยากนั่งลงตรงนี้กับแก
อยากบอกว่าแกมีค่ากับพ่อมากแค่ไหน  นอกจากแม่แกแล้ว  ก็มีแกนี่แหละที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพ่อ  แกเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมเลยแหละ  แล้วพ่อก็รักแกนะ...
 
  เด็กหนุ่มผู้ตื่นตะลึงเริ่มสะอื้น  แล้วก็สะอื้น เขาไม่อาจหยุดร้องไห้  ร่างสั่นเทาไปทั้งตัว เขาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อแล้วกล่าวทั้งน้ำตา 'พ่อครับ เมื่อตอนเย็นผมอยู่บนห้อง นั่งเขียนจดหมายถึงพ่อกับแม่เพื่ออธิบายว่าทำไมผมถึงฆ่าตัวตาย แล้วก็ขอให้พ่อยกโทษให้ผม ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตายคืนนี้ตอนพ่อหลับ ผมคิดว่าพ่อไม่เคยแคร์ผมเลย จดหมายอยู่บนห้องครับ แต่ผมคิดว่าผมคงไม่ต้องการมันแล้วล่ะ'


 พ่อของเด็กหนุ่มเดินขึ้นไปบนห้องพบจดหมายข้อความสะเทือนใจ บรรยายถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน จดหมายฉบับนั้นจ่าหน้าถึงพ่อกับแม่  ชายผู้เป็นเจ้านายกลับไปที่ทำงานอย่างเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาเลิกเป็นคนขีโมโหแต่จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้พนักงานใต้บังคับบัญชารู้ว่าพวกเขามีค่าอย่างไรบ้าง  ส่วนชายผู้เป็นนักบริหารระดับรองก็ช่วยให้คำแนะนำเด็กหนุ่มอื่นๆ  ต่อมาอีกหลายคนเรื่องการวางแผนอาชีพในอนาคต  แล้วก็ไม่เคยลืมบอกเด็กเหล่านั้นว่าแต่ละคนมีคุณค่าต่อชีวิตเขาอย่างไรบ้าง
  หนึ่งในนั้นก็คือเด็กหนุ่มลูกชายเจ้านายเขา
 
  
  ส่วนเด็กหนุ่มกับเพื่อนร่วมชั้นก็ได้เรียนรู้บทเรียนที่มีค่าเรื่องหนึ่งนั่นคือ เราต่างเป็นคนที่มีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น  คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าการให้กำลังใจเล็กๆน้อยๆ มีคุณค่าแค่ไหนกับคนสักคน คุณอาจจะแค่ยิ้มที่ได้รู้ว่ามีใครบางคนคิดว่าคุณเป็นคนสำคัญ  ไม่งั้น  คุณก็คงไม่ได้รับเมล์ฉบับนี้แต่แรก.........จำไว้นะ  ฉันให้ริบบิ้นสีฟ้าแก่คุณแล้ว
 

คำสำคัญ (Tags): #ขํนติพโล
หมายเลขบันทึก: 284415เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2009 23:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท