ในระยะนี้ทุกคนต่างมีความวิตกกังวล เกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคไข้หวัด
สายพันธุ์ใหม่ 2009 จนบางครั้งทำให้หัวใจหดหู่ ไม่สดชื่นเอาเสียเลย พลอยทำให้
เสียสุขภาพจิตตามไปด้วยค่ะ เรามาหาทางคลายความกังวลนี้ดีไหมคะ
“ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว” เป็นคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ จนคุ้นหู เป็นคำที่มี
ความหมายง่าย ๆ อยู่ในตัวอยู่แล้ว คือเมื่อเรามีสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตามด้วย
คนที่มีสุขภาพจิตดี ก็คือ คนที่เข้าใจตนเอง สามารถปรับตัวปรับใจได้อย่างเหมาะสม
กับสังคมและสภาพความเป็นจริง เมื่อมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นในชีวิตก็สามารถคิดแก้ไข
ได้อย่างถูกวิธ ี
คนที่อยากมีสุขภาพจิตดี จะต้องทำอย่างไรบ้าง ?
เทคนิคการดูแลสุขภาพจิตให้ดีนั้นมีหลักปฏิบัติไม่ง่ายไม่ยากเกินไปดังนี้
1. ฝึกฝนจิตใจ ท่านพุทธทาสภิกขุ ได้บอกเราไว้ว่า “ใจสว่าง ใจสะอาด ใจสงบ ถ้ามีครบ
จึงเรียกว่า มนุสสา” ทุกคนควรหมั่นฝึกควบคุมอารมณ์และจิตใจของตนเองให้มั่นคง
สุขุม เยือกเย็น มีเมตตา รู้จักให้อภัยและเข้าใจคนอื่น มองโลกในแง่ดี
2. ฝึกปรับตน รู้จักปรับความคิดของตนเองให้เป็นคนมีเหตุมีผล ยอมรับฟังความคิดเห็น
ของคนอื่น ปรับตนเองให้เข้ากับสภาพความเป็นจริงในสถานการณ์ต่าง ๆได้
3. ฝึกพิจารณาตนเอง สำรวจตนเองอยู่เสมอ ว่าตนองนั้นมีข้อเสียตรงไหนข้อดีตรงไหน
ก็เก็บเป็นกำลังใจเพื่อพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น ส่วนข้อเสียก็ปรับปรุงแก้ไข
4. ฝึกยอมรับและเข้าใจธรรมชาติของชีวิต ตามหลักพุทธศาสนาสอนว่า“ทุกสิ่งทุกอย่างบน
โลกนี้ ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีเกิดขึ้น..... ตั้งอยู่..และดับไป ไม่มีอะไร
จีรังยั่งยืน จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ และเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ”
การฝึกตนเองมีสุขภาพจิตดีนั้น คงไม่ยากเกินไปที่จะนำไปปฏิบัติ เริ่มต้นเสียแต่ตอนนี้
ใช้ความพยายามสักนิด คิดว่าคงไม่เกินความสามารถของแต่ละคนอย่างแน่นอน แล้วท่านก็
จะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีสุขภาพจิตดี มีชีวิตที่เป็นสุขค่ะ
ด้วยความปรารถนาดี มีความสุขทุกท่านค่ะ
เป็นข้อคิดที่ดีนะครับ จะลองนำไปปฏิบัติดู
ผอ.ศักดิ์เดช