คณะครุศาสตรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีนโยบายส่งเสริมให้คณาจารย์จัดทำหนังสือเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา ภาควิชาวิจัยการศึกษาในฐานะหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัย การวัดและการประเมินผลการศึกษา จึงได้จัดทำหนังสือรวมบทความในส่วนที่เกี่ยวกับ การประเมินผลการเรียนรู้แนวใหม่
เนื่องจากนับแต่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 เป็นต้นมา แนวทางการจัดการจัดการเรียนการสอนได้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญที่สุดส่งผลกระทบต่อแนวทางการประเมินผู้เรียนด้วย ดังนั้นหนังสือรวมบทความนี้จะให้สาระที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานด้านการวัดและประเมินผู้เรียนตามแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้ ตามมุมมองของนักวิชาการด้านการวัดและประเมินผลและเป็นไปตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ขั้นตอนการจัดทำหนังสือรวมบทความนี้ บรรณาธิการได้แถลงไว้ว่า ได้มีการกำหนดโครงสร้างและสาระในกลุ่มผู้จัดทำหนังสือร่วมกัน และคัดเลือกบุคคลที่มีความชำนาญในเนื้อหาแต่ละบทมาร่วมกันเขียน จากนั้นมีการวิพากษ์เนื้อหาแต่ละส่วน และมีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาเพื่อให้มีความสอดคล้องกลมกลืนกันตลอดเล่ม ทั้งนี้สามารถแบ่งเนื้อหาที่นำเสนอเป็น 3 ส่วน เริ่มจาก
ส่วนที่ 1 แนวคิดและหลักการเกี่ยวกับการประเมินผลการเรียนรู้
ส่วนที่ 2 เทคนิควิธีการประเมินการเรียนรู้ แสดงสาระเกี่ยวกับเทคนิคการประเมินตามตัวบ่งชี้ประเภทต่างๆโดยที่นโยบายการจัดการศึกษาตามแนวปฏิรูปการศึกษาต้องสนองความต้องการและความถนัดของผู้เรียน เน้นการพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพและตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ตลอดจนให้ความสำคัญกับการประเมินด้วยวิธีการหลากหลาย
ส่วนที่ 3 กล่าวถึงเนื้อหาเกี่ยวกับการรายงานผลการเรียนรู้ เกี่ยวกับการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลการเรียนรู้ การนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการตัดสินผลการเรียนรู้ จนถึงขั้นตอนการรายงานผลการเรียนรู้ การนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการตัดสินผลการเรียนรู้ จนถึงขั้นการรายงานผลการเรียนรู้
ดังนั้นการวัดและประเมินจึงต้องใช้วิธีการที่หลากหลายเน้นการปฏิบัติให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสาระการเรียนรู้กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน และสามารถดำเนินการอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปในกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน(กระทรวงศึกษาธิการ : หน้า 24 )
ทั้งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ทำให้เกิดมิติใหม่ของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่แตกต่างจากเดิมอย่างมาก ทั้งทำให้เกิดความหลากหลายในทางปฏิบัติ ซึ่งผู้ปฏิบัติหากไม่ชัดเจนในหลักวิชาการการวัดและประเมิน ก็อาจเกิดความผิดพลาดได้โดยง่าย
ในที่นี้รวมบทความส่วนที่ 1 สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่บทความของอาจารย์ ศิริชัย กาญจนวาสี ซึ่งรวบรวมหลักวิชาการวัดและประเมินผลมาไว้อย่างสั้นๆและตรงกับหลักการที่ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 กำหนดไว้คือ
1. กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้
2. นโยบายการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่ผ่านความเห็นชอบผู้บริหารการศึกษาระดับสูง และฉันทามติจากประชาคมทางการศึกษา
3. ระบบการวัดและประเมินการเรียนรู้ที่เที่ยงธรรมโปร่งใส
4. การวัดและประเมินถือเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ก่อน ระหว่าง และ หลัง การเรียนการสอนสิ้นสุดลง
5. การวัดและประเมินเป็นไปเพื่อการพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญ
6. การวัดและประเมินจะต้องครอบคลุมทั้งสถานภาพและความก้าวหน้าด้านความรู้/ทักษะพัฒนาการของผู้เรียนและคุณธรรม
7. ผู้รับผิดชอบด้านการวัดและประเมินผลต้องมีความรู้และเชี่ยวชาญด้านการวัดและประเมินทางการศึกษา
8. ผลจากการประเมินจะต้องใช้เป็นสารสนเทศ สำหรับติดตามกำกับสนับสนุนและพัฒนาการเรียนรู้ พัฒนาการเรียนการสอน และพัฒนาคุณภาพการศึกษา
บทความนี้จึงมีสาระสำคัญที่ครอบคลุมหลักการวิชาการวัดและการประเมินตามแนวการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างชัดเจน ทั้งครอบคลุมตั้งแต่ระดับการเรียนการสอนในชั้นเรียนหรือระดับผู้เรียนรายบุคคล ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา จนถึงระดับชาติ ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจสามารถมองเห็นภาพรวมของการประเมินการศึกษาทั้งระบบที่เชื่อมโยงและสนับสนุนกันอยู่ และความเข้าใจที่เป็นเอกภาพเดียวกันนี้คือสิ่งจำเป็นที่สังคมปัจจุบันต้องการ เพราะท่ามกลางความหลากหลายของการปฏิบัติ จำเป็นต้องมีเอกภาพร่วมกันอยู่ในเชิงนโยบาย
เป็นบทความที่ดี มีประโยชน์มาก