อย่างไรคือ ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ ?
อย่างไหนจะช่วยคลี่คลายข้อขัดแย้งได้มากกว่ากัน ระหว่าง คิดด่วนสรุปจากข้อมูลด้านเดียว
กับ พิจารณาข้อมูลครบด้านด้วยใจเป็นกลาง คนคิด: คนใจฉลาดเรียกว่าเป็นคนมีความพินิจ และวาจา
แช่มชื่นเพิ่มอำนาจการสั่งสอน
“สบายดีมั้ยครับ” ยุทธศักดิ์ยิ้มและทักทายเพื่อนๆ ด้วยความห่วงใย
“ช่วงนี้มีเรื่องให้คิด จนปวดหัวค่ะ” วรรณฤดีเล่าด้วยสีหน้าดูอิดโรย เนื่องจากเมื่อคืนไม่ได้นอน “เวลาลูกน้องดาวเด่นของเราขัดแย้งกันเองนี่ เราจะช่วยเขาอย่างไรดีค่ะ”
“ผมมีอุทาหรณ์เรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง” ยุทธศักดิ์เริ่มเล่าเรื่อง “องค์กรแห่งหนึ่ง...”
เกิดการขัดแย้งระหว่างพนักงานฝ่ายซ่อมบำรุงเครื่องกลหนักกับหัวหน้าผู้คุมงาน กล่าวคือ บรรดาพนักงานเข้าใจว่าตัวหัวหน้าผู้คุมจะเลือก “คนงานคนหลักๆ” ให้ทำงานต่อไป ขณะที่คนอื่นๆ ได้แค่ค่ายังชีพช่วงหยุดงานและต้องคอยเดินตรวจรักษาความปลอดภัยในสภาพอากาศที่หนาวเย็นอีกด้วย คนงานที่ไม่พอใจเริ่มแสดงอาการกระด้างกระเดื่องต่อหัวหน้าผู้คุมงาน และตั้งแนวทางแสดงออกไว้ว่า “เขาขยับเมื่อไหร่ เราไม่พอใจเมื่อนั้น” ส่วนหัวหน้าก็ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง จึงจับผิดและตอบโต้อย่างไม่ลดราวาศอกเช่นกัน
ผลก็คือ คนงานที่เหลือต้องเลือกข้าง มีการกล่าวโทษ ให้ร้าย ขู่ทำร้ายกันเกิดขึ้นมากมาย จากความไม่พอใจนำไปสู่การปะทะกันไปมา ในที่สุดเมื่อมีคนกลางเข้าไปตรวจสอบในรายละเอียดพบว่า หัวหน้าผู้คุมงานไม่ได้มีบทบาทในการเลือกคนงานหลักๆ นั้นเลย สำนักงานใหญ่ต่างหากที่กำหนดรูปแบบลงมา ดังนั้นความยุ่งยากทั้งหมดเกิดขึ้นจากการตีความตามความนึกคิดมากกว่าตามข้อเท็จจริงประกอบกับขาดการสื่อสารเชิงบวกที่มากพอ
“แล้วอย่างนี้มีวิธีลดการตีความผิดๆ ได้อย่างไรคะ” วรรณฤดีถามอย่างสนอกสนใจ ยุทธศักดิ์ให้แนวทาง “ลองใช้ทักษะรู้เท่าทันความคิดเชิงลบดูซิครับ”
ทักษะรู้เท่าทันความคิดเชิงลบ (Coping negative thought) (ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก http://www.howareyou.co.th; www.oknation.net/blog/youthana) เป็นวิธีคัดกรองและประมวลผลข้อมูลข่าวสารอย่างสมเหตุสมผลเชิงบวก มี 3 ขั้นตอน ย่อว่า 3 ย. คือ
1. แยกแยะ อะไรที่เป็นข้อเท็จจริง, อะไรที่เป็นการตีความหรือข้อความเห็น
2. ยืนยัน ความคิดนี้สมเหตุสมผลอย่างไรบ้าง, ความคิดดังกล่าวมีหลักฐานยืนยัน อย่างไรบ้าง, อะไรทำให้ความคิดดังกล่าวน่าเชื่อถือ
3. ยึดหลักการ ความคิดดังกล่าวยุติธรรมกับทุกฝ่ายหรือไม่ เพียงใด, มาจากความปรารถนาดี หวังดีหรือไม่, นำมาซึ่งมิตรไมตรีหรือไม่ อย่างไร, สร้างประโยชน์สุขแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง, แก่ภาพรวมหรือคนหมู่ใหญ่อย่างไรบ้าง, ความคิดนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง, แก่ภาพรวมหรือคนหมู่ใหญ่อย่างไรบ้าง
ที่มา :www.bangkokbiznews.com
ข้อคิดเห็น 3 ย. คือ แยกแยะ ยืนยัน ยึดหลักการ เป็นวิธีคัดกรองและประมวลผลข้อมูลข่าวสารอย่างสมเหตุสมผลเชิงบวก เราไม่ต้องคิดอะไรมากทำสิ่งใดให้เป็นบวก ค่าของมันย่อมเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา บวกหลายๆครั้งก็ทวีคูณ คิดอะไรเป็นลบ ค่าย่อมเหลือน้อยลง ถ้าเหลือน้อยลง แล้วเราจะไปคิดทำไมให้เสียเวลา เพียงเท่านี้ความขัดแย้งก็ลดลง เรียกได้ว่า เป็นความขัดแย้งที่สร้างสรรค์
ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์มากนะครับ