สหกรณ์การเกษตรหุบกระพง จำกัด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จแปรพระราชฐานประทับ ณ พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2507 พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเยี่ยมเยียนและดูแลทุกข์สุขของราษฎรตามท้องที่เขตจังหวัดใกล้เคียง พระองค์ทรงทราบถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนผักชะอำ จำนวน 83 ครอบครัวว่าขาดแคลนทุนทรัพย์และที่ดินทำกิน จึงทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมทั้งจัดหาที่ดินบริเวณหุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวดเพชรบุรีให้เกษตรกรเหล่านี้ได้อยู่อาศัยและประกอบอาชีพด้านการเกษตรครอบครัวละ 25 ไร่ ภายใต้ชื่อโครงการไทย-อิสราเอล เพื่อพัฒนาชนบทหุบกะพง และนับเป็นโครงการในพระราชดำริด้านการจัดสรรที่ดินทำกินโครงการแรก คือ โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นหมู่บ้านสหกรณ์ตัวอย่างและมีการจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง จำกัดมาตามลำดับ
ต่อมาในปี 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมเยียนสมาชิกในหมู่บ้านสหกรณ์หุบกะพง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเห็นว่าในพื้นที่หุบกะพง มีต้นป่านศรนารายณ์อยู่เป็นจำนวนมาก หากได้รับการส่งเสริมฝึกอบรมให้ราษฎรมีความรู้ด้านจักสานป่านแล้ว จะทำให้ราษฎรมีอาชีพมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จึงทรงแนะนำให้แม่บ้านนำป่านศรนารายณ์มาใช้ประโยชน์ในด้านการจักสาน โดยใช้เส้นใยจากป่านศรนารายณ์ เป็นวัตถุดิบในการทำหัตถกรรมเครื่องจักสานเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกสู่ตลาด และทำกันในรูปแบบของอุตสาหกรรมในครัวเรือน โดยใช้เวลาว่างหลังจากเลิกงานด้านการเกษตรแล้ว เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว ระยะแรกของการดำเนินงานหัตถกรรมป่านศรนารายณ์ ทำในรูปกลุ่มสตรีสหกรณ์ฯหุบกะพง มีผู้ร่วมก่อตั้งจำนวน 10 คน
เมื่อชาวบ้านหุบกะพงได้เริ่มก่อตั้งกลุ่มสตรีสหกรณ์หุบกะพงเพื่อร่วมกันผลิตงานหัตถกรรมจักสานป่านศรนารายณ์ได้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น พระองค์ท่านได้มีพระราชเสาวนีย์ให้ส่งเสริมการปลูกป่านศรนารายณ์เพื่อให้มีวัตถุดิบรองรับการผลิตงานหัตถกรรมจักสานของกลุ่มสตรีสหกรณ์ฯหุบกะพง โดยได้มอบหมายให้ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพง ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมส่งเสริมสหกรณ์ ทำแปลงปลูกป่านศรนารายณ์ เพื่อขยายพันธุ์ส่งเสริมให้สมาชิกปลูกต่อ และส่งเสริมให้เพิ่มจำนวนพื้นที่ปลูกต้นป่านศรนารายณ์
ขณะเดียวกันทางสมาคมสตรีธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยได้ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจัดหา ผู้ฝึกสอนจักสานเครื่องใช้ในครัวเรือนมาร่วมโครงการฝึกอาชีพและให้ความรู้ ฝึกทักษะให้แก่แม่บ้านสหกรณ์ด้วยวิธีการใช้เส้นใยจากป่านศรนารายณ์นำมาจักสานเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ ซึ่งป่านศรนารายณ์นับว่ามีความทนทานในการนำมาจักสานเป็นกระเป๋า หมวก เข็มขัด เครื่องประดับตกแต่งของสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างดี ในรูปแบบ สีสันที่นำสมัย และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป และเป็นที่ต้องการของตลาด สามารถส่งออกจำหน่ายได้ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมีการก่อตั้งศูนย์รวบรวมผลิตภัณฑ์ป่านศรนารายณ์ในหมู่บ้านสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง เพื่อเป็นที่จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานป่านศรนารายณ์ให้กับสมาชิกในโครงการ
เคยได้ยินมานาน หุบกะพง ได้แต่ผ่านไปผ่านมา ไม่ทราบว่าเข้าไปลึกเปล่า คงเป็นคนละรูปแบบกับห้วยทราย ใช่ไหมครับ ขอบพระคุณ
แอบมาดูหุบกระพงครับ เพิ่งมาถึงเพชรบุรี เย้ๆๆๆๆๆ
(*_*) ขอบคุณ ท่านผอ.ประจักษ์และหลานม่อนจ๊ะ (*_*) หุบกะพงตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลเขาใหญ่ และตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อยู่ห่างจากจังหวัดเพชรบุรี 40 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเขตอำเภอหัวหิน 34 กิโลเมตร (*_*) ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อยู่คนละแห่งกัน แต่อยู่ในจังหวัดเพชรบุรีเหมือนกัน อยู่ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ ห่างจากชะอำประมาณ 15 กิโลเมตร
(*_*) สวัสดีค่ะ อ.ขจิต หากมีเวลาแวะให้ไปดูซิค่ะ
(*_*) หุบกะพงตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลเขาใหญ่ และตำบลชะอำ อำเภอชะอำ
จังหวัดเพชรบุรี อยู่ห่างจากจังหวัดเพชรบุรี 40 กิโลเมตร และอยู่ห่างจาก
เขตอำเภอหัวหิน 34 กิโลเมตร
(*_*) สวยมากค่ะ มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายในราคาถูก และเป็นแหล่งเรียนรู้ได้เป็น
อย่างดีค่ะ