การเดินทางของชีวิต....ตอน มิตรแท้(ทางความคิด)….ในการทำงาน


“อีกสามปีผมหมดวาระกำนัน แต่วาระประชาชนผมยังไม่หมด ผมจะทำเรื่องนี้จนดินกลบหน้า” นี่เป็นคำพูดของกำนันสมาแอน แดหวามาลัย ที่พูดตอนที่ข้าพเจ้าไปร่วมกิจกรรมค้นหาแกนนำของพื้นที่แพร่ระบาดของบ้านสายควน ตำบลท่าแพ อ.ท่าแพ จ.สตูล และนี่เป็นประโยคที่มีความหมายเดียวกับคำพูดของปะบูแกนนำแหลมมะขามได้เคยกล่าวไว้ “เราตัดสินใจทำเรื่องนี้จนสิ้นลมหายใจ”

การเดินทางของชีวิต....ตอน มิตรแท้(ทางความคิด).ในการทำงาน

                                  

 อีกสามปีผมหมดวาระกำนัน แต่วาระประชาชนผมยังไม่หมด ผมจะทำเรื่องนี้จนดินกลบหน้า นี่เป็นคำพูดของกำนันสมาแอน แดหวามาลัย ที่พูดตอนที่ข้าพเจ้าไปร่วมกิจกรรมค้นหาแกนนำของพื้นที่แพร่ระบาดของบ้านสายควน ตำบลท่าแพ อ.ท่าแพ จ.สตูล และนี่เป็นประโยคที่มีความหมายเดียวกับคำพูดของปะบูแกนนำแหลมมะขามได้เคยกล่าวไว้ เราตัดสินใจทำเรื่องนี้จนสิ้นลมหายใจ เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าร่วมในเวทีประชุมจังหวัดตรังเมื่อ ๓ ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นข้าพเจ้าเพิ่งเข้ามาเป็นผู้ประสานของมูลนิธิภูมิพลังชุมชนไทย เป็นคำที่ทำให้นึกย้อนไปพบกับไฟที่เพิ่งโชนแสงขึ้นใหม่ เป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกดีขึ้นหลังจากที่รู้สึกว่าไฟในตัวเริ่มลดความร้อนลง และถือเป็นคนที่สองที่ได้พูดอย่างนี้

                              

บังแอนเป็นชื่อที่ข้าพเจ้าเรียกกำนันตำบลสาคร นายสมาแอน แดหวามาลัย เริ่มต้นของการทำงานบังแอน เข้ามาด้วยว่าถูกยกให้เป็นประธานด้วยฐานะว่าเป็นกำนันตำบล (จากคำบอกเล่า)  ด้วยว่าก่อนหน้านี้ตำบลสาครทำงานผ่านกลไกสตรี แต่มาช่วงสามปีที่ผ่านมากลุ่มสตรีได้ถอยออกด้วยเหตุผลส่วนตัว แล้วก็ได้มอบหน้าที่นี้ให้กับกลุ่มผู้ใหญ่บ้าน กำนันเป็นผู้สานต่อเจตนารมย์นี้ บังแอนบอกว่าแรก ๆ ก็เข้ามาโดยไม่คิดอะไรมากก็ทำไป แต่ตอนนี้ต่างกัน ยินดีกับการทำงานนี้ ด้วยว่าเป็นสิ่งที่เป็นจริง ชอบการทำงานแบบนี้ที่ทำโดยไม่ได้รับเงินเดือน ทำเพื่อลูก เพื่อหลาน เพื่อบ้านของเรา และสำคัญไม่ต้องมีใครมาสั่งให้ทำ อยากทำ ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ซึ่งบังแอนเลือกทำเพราะคอเดียวกัน

 

                     

วันนั้นข้าพเจ้าคิดแค่การไปร่วมสังเกตการณ์แต่กลับต้องไปยืนเป็นวิทยากรโดยไม่ตั้งแต่ แต่เต็มใจยิ่ง พูดคุยไปก็นึกยิ้มในใจด้วยความรู้สึกที่ดีมาก ๆ  อีกอย่างเป็นโอกาสดีที่ได้พูดคุยกับพี่น้องที่เป็นบุคคลสำคัญในการป้องกันปัญหาทุกเรื่องที่เป็นปัญหาของหมู่บ้าน/ชุมชนที่เขาอยู่ หลายคน หลายหน่วยงานหรือแม้แต่เขาคงคิดว่าหน่วยงาน หรือคนอื่นเป็นคนแก้ปัญหา

                       

ซึ่งในการทำงานของข้าพเจ้าเป็นการทำงานผ่านกลไกเครือข่ายซึ่งมี ๔ ระดับ คือ ระดับภาค ระดับจังหวัด ระดับตำบล และระดับหมู่บ้าน ซึ่งฐานในการทำงานข้าพเจ้าให้ความสำคัญที่สุดคือ ฐานะดับหมู่บ้านที่เป็นระดับปฏิบัติการ ในขณะเดียวกันกลไกที่ข้าพเจ้าให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ระดับตำบลที่มีความใกล้ชิดกับหมู่บ้านและหากถอดตำบลออก เขาคือผู้ปฏิบัตินั่นเอง

           

 

และหากท่านทำงานผ่านกลไกเหมือนข้าพเจ้าแล้ว กลไกนั่น พูดอย่างนี้ถือได้หรือไม่ว่าการทำงานของท่าน ท่านพบกับคำว่าเพื่อนแท้ในเส้นทางนี้แล้ว ซึ่งการทำงานที่ไม่มีแม้แต่สวัสดิการให้หรือรองรับหากเกิดอะไรขึ้น ไม่มีเงินเดือน ไม่มีค่าตอบแทนอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าข้าว ค่าน้ำที่ให้ยามเจ้าของเงินอยากได้ข้อมูล(รู้สึกอายเหมือนกันนะเมื่อหยิบเรื่องนี้มาพูด) แต่ข้าพเจ้ารู้สึกดีมากกับพี่น้องเครือข่ายภาคประชาชนที่ถึงอย่างไรก็ไม่เคยถอยกับเรื่องของการทำงาน พร้อมความเข้าใจในหน่วยงานของข้าพเจ้า แต่บังแอนและหลายเครือข่ายพร้อมที่จะเดินไปพร้อมกัน ไปพร้อมกับความเชื่อที่เหมือนกันของเรา

                       

เฮอ ภูมิใจจังกับการทำงานที่มีมิตรแท้ทางความคิด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณคงได้เจอมิตรแท้ในการทำงานเหมือนอย่างข้าพเจ้า.....

 

 

หมายเลขบันทึก: 282335เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2009 11:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท