บ่ายแก่ๆ ช่วงที่กำลังง่วงๆ แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นทำลายความเงียบสงบ จนทำให้ข้าพเจ้าสะดุ้งเล็กน้อย..
“อาจารย์เตือนรึเปล่าค่ะ ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ” เสียงสั่นเครือของคุณป้าคนนึง ดูคุ้นหู
“ป้าสันทีใช่ไหมค่ะ??” ข้าพเจ้าย้อนถามไป แม้ในใจรู้ดีว่าใช่แน่ ไม่มีทางจะจำผิด
“ใช่ค่ะ.. อาจารย์เตือนๆ ป้าเจอทะเบียนประวัติที่หายไปแล้วนะคะ อาจารย์คุยกับอำพลดีกว่า ป้าคุยไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว” เสียงป้าสันทีสั่นๆ เหมือนคนกำลังตื่นเต้นและดีใจสุดขีด ป้ารู้ตัวว่าตัวเองลำดับความคิดออกมาเป็นคำพูดได้ไม่ค่อยดีเท่าลูกชาย แต่ป้าสันทีคงแค่อยากจะบอกเล่าเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ก่อนส่งให้ลูกชายคุยกับข้าพเจ้า
“ผมโทรไปที่อำเภอสังขละบุรีมาครับอาจารย์ ผมบอกชื่อผม ชื่อพ่อแม่ แล้วก็เลขประจำตัวของพ่อแม่ แล้วเขาก็หาเจอแล้วครับ ที่ผ่านมาเขาบอกว่า ทะเบียนของพวกเราโดนล็อคเอาไว้ แต่ตอนนี้ให้พวกเรากลับไปทำบัตรได้แล้วครับ” ข้อมูลมากมายหลั่งไหลออกมาจากพี่อำพล โดยข้าพเจ้าไม่ต้องถามอะไรมาก
..เขาเรียงลำดับเรื่องได้ดี คงเพราะเขาถูกเราตั้งคำถามบ่อยจนชินล่ะมั้ง.. (ข้าพเจ้าแอบยิ้ม และคิดในใจ)
“แต่พวกผมจะไปได้อย่างไรครับอาจารย์ ผมกลัวถูกจับระหว่างทาง”
ข้าพเจ้าคิดแล้วก็จริงอย่างที่พวกเขากลัว ข้าพเจ้าจึงขอเบอร์ที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี ที่พี่อำเภอโทรไปเพื่อสอบถามข้อมูลให้แน่อีกที และอาจจะขอความกรุณาจากเขาในการออกหนังสือรับรองว่าครอบครัวของป้าสันทีจำเป็นต้องไปออกบัตรที่อำเภอ.. นั่นเป็นอย่างเดียวที่ข้าพเจ้าคิดออกตอนนั้น..!!
เมื่อติดต่อไปก็ได้รับการต้อนรับค่อนข้างดีจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนคนหนึ่ง
“หากพบฐานข้อมูลแบบนี้แล้ว ก็มาออกบัตรได้เลยครับ ส่วนกรณีที่ตกหล่น ทางกรมการปกครองก็จะมาสำรวจให้เหมือนกันในช่วงเดือนสิงหาคมครับ แต่ยังไงรบกวนโทรมาหาปลัด... อีกทีในวันจันทร์ได้ไหมครับ” เจ้าหน้าท่านนั้นยืนยันข้อมูลไม่ต่างจากที่ข้าพเจ้าได้ฟังจากพี่อำพล
ข้าพเจ้ารู้สึกใจชื้นขึ้นนิดนึง.. ความหวังเล็กๆ น่าจะกำลังเกิดขึ้น.. อีกไม่นาน..
หากแต่เรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้จริงที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี..!!
เอาเรื่องเข้าหารือที่ประชุมคดีในวันพฤหัส
เตือน
ช่วยเพิ่มคำสำคัญ bkk.legalclinic ด้วยนะ
เติมแล้วจ้า.. เรามาจัดการครอบครัวป้ากันเหอะ..!!