7 วิธีคิดอย่างคนเก่ง


7 วิธีคิดอย่างคนเก่ง

7 วิธีคิดอย่างคนเก่ง

Written by Kittivud

คนจะเก่งได้นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีพรแสวงด้วย คือหมั่นค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม หมั่นฝึกฝนและพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่ง สิ่งเหล่านี้แหละที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนเก่งด้านการปฎิบัติ การฝึกฝนทุกคนคงจะพอทำกันได้ แต่ในด้านความคิดล่ะ คนเก่งเขาคิดกันอย่างไร แล้วคิดอย่างไรถึงจะเป็นคนเก่งมาลองดู 7 วิธีนี้ดู เราว่ามันให้อะไรมากกว่าการเป็นคนเก่งอีกนะ

1. คิดในทางมองโลกในแง่ดี
และทำทุกสิ่งอย่างเต็มกำลังด้วยรอยยิ้มและความเบิกบาน ทำตัวให้สดชื่นมีชีวิตชีวาและกระตือรือร้นอยู่เสมอ พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา  ได้อย่างอยู่มือ

 

 2. มีศรัทธาในตัวเอง
ถ้าแม้แต่คุณเองยังไม่ศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วจะมีมนุษย์หน้าไหนล่ะ จะเชื่อมั่นในความเก่งของคุณ อยากให้ใครๆ เขาชื่นชอบ และทึ่งในตัวคุณ คุณก็ต้องมั่นใจในตัวคุณก่อน

3. ขอท้าคว้าฝัน
ไม่มีอะไรที่จะทรงพลังมากเท่ากับความตั้งใจจริงและทุ่มสุดตัว จะเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้คุณสานฝันสู่ความจริงได้

 4. ค้นหาบุคคลต้นแบบ
ใครก็ได้ที่คุณชื่นชมเพื่อเป็นมาตรฐานที่ดีในการดำเนินรอยตาม ศึกษาแนวคิด วิธีการทำงาน จุดเด่นในตัวเขา แล้วอาจนำมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตได้บ้าง

5. เริ่มต้นงานใหม่ทุกวันด้วยรอยยิ้มสดใส
คนที่มีรอยยิ้มระบายไว้บนใบหน้า เสมือนประตูที่เปิดกว้าง ให้ใคร ๆ อยากเข้ามาคบหาด้วย การเจรจา ติดต่องานก็มักจะลงเอยด้วยความสำเร็จ

6. เรียนรู้จากความผิดพลาด
สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง จะเป็นอะไรเชียวถ้าเราจะทำอะไร แล้วจะยังไม่สำเร็จอย่างที่หวังไว้ เพียงแต่ขอให้ทำเต็มที่ และเปิดใจให้กว้าง ยอมรับความจริง หันมาทบทวนดูว่ามีขั้นตอนไหนที่ผิดพลาดไป เพื่อที่จะเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม

7. ทะนุถนอมมิตรสัมพันธ์เก่าๆ
คงไม่มีใครที่จะอยู่อย่างมีความสุขโดยปราศจากเพื่อนหรือมิตรที่รู้ใจหรอกนะ แม้ว่าชีวิตของคุณในแต่ละวันจะวุ่นวายแค่ไหนก็ตาม คุณควรจะมีเวลาให้กับเพื่อนซี้ที่รู้จักมักจี่กันมานานซะบ้าง แวะไปหากัน เมื่อโอกาสอำนวย ชวนกันออกมาทานข้าวในช่วงวันหยุด ส่งการ์ดปีใหม่ หรือร่อนการ์ดวันเกิดไปให้ เผื่อในยามที่คุณเปล่าเปลี่ยวหงอยเหงา เศร้าทุกข์ใจ ก็ยังมีเพื่อนซี้ไว้ พึ่งพาและให้กำลังใจกันได้นะ

นอกจากนี้ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ยังสร้างความเบิกบานและคลายทุกข์ แถมยังเป็นยาอายุวัฒนะชั้นดีอีกด้วย

หมายเลขบันทึก: 281015เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2009 17:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม 2012 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

     เป็น 7 ข้อ ที่ดีมากเลย

     ขอเลยนะครับ

 

 

 

ยินดีมากเลยและขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะ

ถ้าคิดได้แบบนี้ทุกคนก็ดีนะจ๊ะ

ขอนำไปปรับใช้บ้างนะคะครูต้อย

เข้ามาร่วมเรียนรู้ครับ คนเก่งมีเยอะแล้ว สังคมต้องการคนดี เพื่อมาเยียวยาสังคม

ดีมากเลยคเขอเจริญรอยตามนะคะ

(คราวแรกคิดว่า 7 Habbit ซะอีก)

จะฝึกคิดแบบนี้

จะได้แก่งขึ้นทุกๆ วัน

555

ขอบคุณสำหรับ สิ่งดีๆ ค่ะ บางเรื่องทำยากนะคะ ต้องลองทำ อิอิ

คนเก่ง แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. เก่งและดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมเสมอ มากกว่าประโยชน์ส่วนตน

2. เก่งแต่ร้าย พยายามทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง ทำงานร่วมกับผู้อื่นไม่ได้

ถ้าคนเก่งเป็นคนดีด้วยก็จะยิ่งส่งเสริมให้เขาปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่เพราะเขามักจะได้รับความร่วมมือ การช่วยเหลือจากผู้อื่นจากการที่เขาทำเพื่อผู้อื่นอยู่เสมอ มีกัลยาณมิตรมากมายนั่นเอง แวะมาเยี่ยมค่ะ

ซักวันนึงเราจะต้องเก่งแบบนี้บ้าง โฮโฮโฮ...

ขอบคุณสำหรับ 7 ข้อคิดที่ดี ๆ คะ

การคิดแบบคนเก่งเป็นเรื่องที่น่าเรียนรู้อย่างยิ่ง ....................เพราะเราสามารถนามาประยุกต์กับหน่วยงานเราได้อย่างดียิ่ง การคิดแบบคนเก่ง..การทำงานอย่างคนเก่งเป็นเรื่องที่น่าทึ่งครับ.....และคนไม่เก่งอย่างผมสามารถคิดแบบคนเก่งได้นะครับ

7 ข้อคิด คิดแบบคนเก่ง ถ้าจะให้ดีต้องเป็นคนดีด้วย ว่าไหมคะ ครูต้อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท