ระเบิดสี่ทิศ ไขปริศนาธรรม พระมหาชนก จดหมายข่าวกัลยาณมิตร ฉบับที่3


ไขปริศนาธรรมจากพระมหาชนก

 

 

NASA MAP


สวัสดีครับ กัลยาณมิตร กัลยาณธรรมทุกๆท่าน

      จม.ข่าว ฉบับนี้ขอนำทุกท่านไปสู่โลกอนาคตอันใกล้ เมื่อโลกของเราติดไข้หวัดบริโภคนิยมงอมแงม มีอาการตัวร้อนและมีไข้สูง ในขณะที่ระเบิด4ลูก จากส.ค.ส.พระราชทานปี2547 เริ่มประทุให้เห็นอย่างต่อเนื่อง   คงเพียงพอที่จะทำให้ พวกเราทุกๆท่านตื่นขึ้นมาจากภวังค์

ในขณะที่ชนชั้นปกครองยังไม่มีใครคิดเตรียมการรองรับวิกฤติ หรือคิดย้ายเมืองหลวงกัน เราก็พบว่ามีข้อดีเป็นอย่างยิ่ง มิเช่นนั้นแล้วโรคบริโภคนิยมที่มีโลภะ โมหะ เป็นตัวนำนี้ ก็จะไประบาดอย่างหนักในเมืองหลวงแห่งใหม่ ธรรมชาติคงจัดสรรให้ลงตัวด้วยตัวของมันเอง มนุษย์สมควรได้รับบทเรียนครั้งสำคัญ และเห็นพิษภัยของบริโภคนิยมด้วยประจักษ์อยู่ตรงหน้า 

เมื่อพระอาทิตย์เลิกที่จะอุทัยทางทิศตะวันตก โลกอิงเงินหยวนของจีนแทนดอลล่าสหัฐ และโลกประสบกับหายนะ เมื่อถึงเวลานั้น เราคงจะหันมาเหยียดพวกผูกไท้ใส่สูทกันว่า เป็นพวกล้าหลังด้านการพัฒนาสติปัญญา แทนที่การเหยียดรากเหง้าภูมิปัญญาของเราเองอย่างที่เป็นอยู่         

 Matrix Revolutions screen capture

Finally, glowing eyes is not always a good thing!

: the matrix revolution

แม้ว่าความหลากหลายของNGO จะมีข้อดีที่สามารถเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่มทุกระดับ แต่การที่ต่างคนต่างทำ ต่างก็มีมานะ ทิฐิถือตัว ไม่สามารถรวมหรือร่วมกันทำงานได้ ก็จะทำให้คนดียิ่งอ่อนแอ ไม่แข็งแรงพอที่จะฝ่าช่วง"ทำลายตัวเอง"ไปได้ 

การที่คนที่อยู่ในตำแหน่งที่จะสามารถรวมNGOเหล่านี้ให้รักกันและร่วมกันทำงานได้อย่างเข้มแข็ง ไม่รู้บทบาทหน้าที่และความสำคัญที่ตัวเองมี ผลาญงบไปกับการทำงานสร้างภาพเสียส่วนใหญ่ และปล่อยให้คนเล็กคนน้อยทำกันตามยะถากรรม  ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังย่ำแย่ ความชั่วมีกำลังมากนี้ แถมยังมีทั้งตัวจริงตัวปลอม การรอให้ "รวมกันได้เมื่อภัยมา" คงจะเป็นการสายเกินไป 

หากนับจากนี้ไป เรามีเวลาไม่ถึง 40 เดือน สำหรับเตรียมการ เตรียมคน เตรียมเผชิญวิกฤติ สมควรอย่างยิ่งที่ยอดยุทธ์ทั้งสาย NGO และสายการศึกษาต้องหันมาสามัคคีกัน แม้ทางกายภาพมิอาจรวมกันได้ อย่างน้อยที่สุด หากช่วยกันคิดช่วยกันวางยุทธศาสตร์ไปในทิศทางเดียวกัน เราก็จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวมากนัก 

ก่อนจะมีวิธีให้คนดีมารวมตัวกัน การรู้ว่าใครคือตัวจริงตัวปลอมก็สำคัญ หรือแม้แต่มีตัวปลอมปนเข้ามา หากสามารถทำให้ตัวปลอมกลายเป็นตัวจริงได้ กำลังในการทำความดีก็จะเพิ่มขึ้น...     

 

 

 

 

ปริศนาธรรม ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย

 

พระราชนิพนธ์ เรื่อง"พระมหาชนก" แฝงไปด้วยข้อคิดและปริศนาธรรมมากมายที่ต้องตีความ ซึ่งมีลักษณะหนึ่งคล้ายๆกับวิธีการแบบ Zen 

ศาสนาพุทธนิกายเซนนั้นเกิดจากสมัยที่จีนหันมานับถือลัทธิเต๋ากันมาก การที่ผู้ปกครองของจีนในสมัยนั้นพยายามกำจัดศาสนาพุทธให้ออกไปจากประเทศ เป็นการบีบให้เกิดคำสอนแนวใหม่ของอาจารย์ผู้สอนขึ้น จนสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสและแพร่หลายไปได้จนถึงปัจจุบันนี้ วิธีการหนึ่งแบบเซนก็คือ ในเมื่อธรรมะมีอยู่แล้วแต่คนไม่สามารถพบความจริงนั้นๆได้โดยง่าย การใช้ฐานความรู้ ประสบการณ์ มุมมองที่แตกต่างที่มีอยู่ในแต่ละคน มาขบคิด ตีความไขปริศนาจนเกิดปัญญาขึ้น ก็จะช่วยให้สามารถเข้าถึงความจริงของธรรมชาตินั้นๆได้        

ในเมื่อ"ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย" เป็นทางออกของสังคมไทย และมหาชนได้สดับฟังธรรมจากพระองค์ ไฉนเลยที่เราทุกคนจะไม่เห็นความสำคัญ ที่จะเริ่มด้วยช่วยกันก่อตั้ง สถาบัน "ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย" ขึ้นมาฟื้นฟูชาติ
หากเรามีเวลาไม่ถึง 40 เดือน ในการก่อตั้งสถาบัน "ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย" เพื่อสร้างคนของเรา ให้มีคุณสมบัติที่เพียงพอ สามารถ"ร่วมกันทำดีอย่างมีปัญญา" เพื่อเผชิญและฝ่าวิกฤติไปได้ ดังนั้น สถาบันแห่งนี้ จึงไม่ใช่สถาบันที่มีภาพอย่างเช่นมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน เป็นสถาบันที่ไม่มีตัวตน แต่เน้นโปรเซส หรือกระบวนการในการสร้างคน โดยอาศัยทรัพยากรที่เรามีอยู่แล้วนำำมาบริหารจัดการไปสู่ทิศทางเดียวกัน โดยมีครูเป็นเพียงผู้จัดกระบวนการ และมีสรรพสิ่งเป็นผู้สอน ดุจดั่งท้องทะเลย์ที่กว้างใหญ่ล้วนสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อนำคนสู่วิชชาที่แท้จริงในชีวิตได้ 
ไขปริศนาธรรมจากพระมหาชนก


3 ขา 3 วัย
เมื่อวานนี้ คือวันที่ 25 กค.52 ที่ผ่านมา ผู้เขียนโชคดีที่ได้ไปร่วมฟัง ท่านจอมยุทธ์ทั้งหลาย ได้ร่วมช่วยกันไขปริศนาธรรมจากพระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" และสังเกตุได้ว่า ให้มีเหตุปัจจัยให้แต่ละท่านมาพบกัน โดยมีทั้งบุคคลที่อยู่ในแวดวงของการศึกษาอย่างพระมหาพงศ์นรินทร์,ครูเข้ม  การพัฒนาสังคม ชุมชนกสิกรรมธรรมชาติ อย่าง อ.ยักษ์และคณะ (สัมมากัมมันตะ) การสื่อสารความดีอย่าง พี่ตู่,พี่เช็ค ทีวีบูรพา
 (สัมมาวาจา)  พี่นักธุรกิจที่คำนึงถึงประโยชน์สุขสูงสุด(สัมมาอาชีวะ)  ดังนั้นสามขาหลักที่เป็นด้านพฤติกรรมของปู ที่เข้มแข็งจึงอยู่พร้อมกันและลงตัวแบบธรรมะจัดสรร 

เป็นที่น่าประทับใจที่ได้มีโอกาสร่วมฟังการสนทนาครั้งนี้และรู้สึกว่าต่อไปข้างหน้านี้
แม้ไม่ง่ายแต่ก็พอจะมีความหวัง... 

เสียดายที่ผู้เขียนมิอาจจดจำบทสนทนาอันมีค่าของแต่ละท่านได้หมด โดยสามารถจับใจความคร่าวๆได้ดังนี้คือ

พระมหาพงศ์นรินทร์ กล่าวถึงที่มาและต้นเหตุแห่งความเสื่อมที่แท้จริงของสังคมไทยในปัจจุบัน และ ธรรมที่จะยับยั้งความเสื่อมของสังคมนั่นคืออปริหานิยธรรม 7 โดยเรียบเรียงเป็นคำคล้องจองสามารถจำง่ายๆดังนี้ 
หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ พร้อมทำกิจไม่เกี่ยงก่อนหลัง ตั้งมั่นหลักการไม่หาญหัก 
 เคารพรักนักปราชญ์ ผู้เฒ่าผู้ใหญ่ คุ้มกันภัยเด็ก สตรี มวลหมู่ไม่ให้หวาดหวั่น 
 เคารพในชาติ ศาส-กษัตริย์ ศูนย์รวมใจ  สั่งสมและส่งเสริมให้พระดี คนดี มีกำลังนำสังคม
และเหตุการณ์ล้มต้นมะม่วงเทียบกับสถานการณ์ที่เกิดในปัจจุบัน 

อ.ยักษ์ กล่าวถึง การที่คนพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่องได้มาพบกัน เพราะพูดไปคนอื่นก็ไม่เข้าใจ และจะหาว่าเพี้ยน คนที่มีฝุ่นผงในตาน้อยนั้นหายาก, การแตกแยกของสังคมเป็นก๊กเหล่าที่จะเกิดขึ้นอย่างน้อย5ก๊ก การเตรียมคนทั้งสามเจนเนอเรชั่น คือ คนแก่ วัยกลางคน และเด็ก เป็น มือ 1 2 3 การเปลี่ยนสมรภูมิรบ... และคณะกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวถึงเวลาของการเตรียมการที่มีเพียง 40 เดือนนับจากนี้ 

ครูเข้ม กล่าวถึงความเป็นโมหะภูมิและอวิชชาของมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน สถาบันเปลี่ยนนิสัย ที่ท่านรู้จักและสัมผัสคลุกคลีอยู่ในฐานะครู และ....ยุทธวิธีรางจืด ยุทธวิธีตำลึง ฯลฯ ที่จะนำไปใช้  

ขอบคุณพี่ตู่ พี่เช็ค และจอมยุทธ์ทุกๆท่าน ที่มาร่วมคิดร่วมถอดรหัส ปริศนาธรรมในครั้งนี้ และลืมไม่ได้ที่พี่ท่านหนึ่งได้กล่าวว่า เรามีหนี้แผ่นดินที่ต้องใช้ หากพระองค์ท่านทรงใช้เวลา 11ปีในการพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกขึ้นมา เราก็ควรใช้เวลาศึกษา พินิจพิเคราะห์ และอ่านหนังสือเล่มนี้11ปีเช่นกัน  

คำกล่าวของอ.ยักษ์ ที่เตรียมคนทั้ง3เจนเนอเรชั่น ทำให้ผู้เขียน คิดถึง "Kid volunteersที่เคยกล่าวไว้ในจม.ข่าวฉบับก่อนหน้านี้ รวมถึงเหตุการณ์ที่ เด็กๆ เยาวชนไทยทำดีถวายในหลวง กว่า 50 โรงเรียนจากทั่วประเทศ ที่ทำความดีผ่านนวัตกรรมโครงงานคุณธรรม และจะมาร่วมค่ายและแสดงนิทรรศการที่อิมเพ็ค Hall 9 เมืองทองธานี ในวันที่ 30 31สค และ 1 สิงหาคมนี้  หากกัลยาณมิตรทุกท่านต้องการส่งเสริม สนับสนุน เป็นกำลังใจให้เยาวชน ได้กลับไปทำความดีก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้โครงงานคุณธรรมในโรงเรียนชุมชนของตนต่อไป เชิญมาร่วมชื่นชม 
บุตรหลานของท่านที่ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาของเด็กและชุมชนของตัวเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ และทุกท่านจะมั่นใจได้ว่านี่คือตัวอย่างของการเตรียมคนที่สำคัญของเจนเนอเรชั่นที่สาม ซึ่งสามารถทำให้เรามีความหวังที่จะฝากอนาคตและปัจจุบันของชาติไว้ในมือพวกเขาเหล่านี้
 
.................................................................................................     

พระราชาตรัสว่า " เป็นพระคุณของท่านอาจารย์ เราแน่ใจว่าถึงกาลที่จะตั้งสถาบันแล้ว 
เป็นสัจจะว่าควรตั้งมานานแล้ว เหตุการณ์ในวันนี้แสดงความจำเป็น 
นับแต่อุปราช จนถึงคนรักษาช้างรักษาม้าและนับแต่คนรักษาม้าจนถึงอุปราช 
และโดยเฉพาะเหล่าอมาตย์ล้วนจาริกอยู่ในโมหภูมิทั้งสิ้น 
พวกนี้ขาดทั้งความรู้วิชาการ ทั้งความรู้ทั่วไป คือความสำนึกธรรมดา 
พวกนี้ไม่รู้แม้แต่ประโยชน์ส่วนตน พวกนี้ชอบผลมะม่วง แต่ก็ทำลายต้นมะม่วง
"


เราต้องการคนที่ทนเห็นสภาพสังคมที่เป็นอยู่ไม่ได้
และมีสัมมาทิฐิพอที่จะลุกขึ้นมา "ร่วมกันทำดีอย่างมีปัญญา"อย่างกัลยาณมิตรทุกท่านนี่ละ
และทั้งหมดนี้
ท่านจะเห็นความจำเป็น "มาเริ่มด้วยช่วยกัน" ในการก่อตั้งปูทะเลย์มหาวิชชาลัยหรือไม่นั้น 
ก็ขึ้นอยู่กับอนาคตที่ท่านจะเลือกกระทำแล้ว

............................................................................................................................................

ข่าว ประชาสัมพันธ์และเชิญชวนกัลยาณมิตรมา "เริ่มด้วยช่วยกัน"

  
 
ขอเชิญชวนกัลยาณมิตรทุกท่าน มาร่วมกันชื่นชม เป็นกำลังใจ ให้กับเยาวชน ที่ร่วมกันทำความดีผ่านนวัตกรรมโครงงานคุณธรรม 
 
ร่วมเป็นเจ้าภาพอาหารและของว่าง ในการเข้าค่ายของคณะครูและเด็กๆนักเรียนกว่า300 ชีวิต จาก 59 โรงเรียนทั่วประเทศ 
  
หรือร่วมให้ทุนการศึกษา ผ้าป่ากองทุนให้เยาวชนกลับไปสร้างศูนย์เรียนรู้โครงงานคุณธรรม ที่จังหวัด ท้องถิ่นในโรงเรียนของตน 
ได้ในวันจัดค่าย  ตามกำลังจิตศรัทธาครับ  


 ขออนุโมทนา
  
หมายเลขบันทึก: 280377เขียนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2009 15:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 04:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท