วันนี้มารายงานตัวพร้อมมีเรื่องเล่ามาสู่กันฟังค่ะ ก่อนอื่นขออภัยอย่างมากที่ขาดหายไปนานแสนนาน แต่ที่หายไปใช่ว่าจะห่างจากเบาหวานนะ กำลังคิดค้นวิธีการ และการเข้าสู่ชุมชนเพื่อให้ได้แก่นแท้อย่างสไตล์ วิถีชุมชน เอาเป็นว่า การดำเนินงานของทีมเบาหวานครั้งนี้ มี 3 รูปแบบ คือ 1. การตั้งรับที่โรงพยาบาล คือกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อน 2. กลุ่มที่รับบริการที่ สอ. คือกลุ่มที่ควบคุมน้ำตาลได้ 3 . อีกกลุ่มพิเศษคือ การให้บริการที่ชุมชน หรือ ศสมช. ที่จะมาเล่าสู่กันฟังในเรื่องนี้ เดิมทีแล้ว หมู่บ้านอูนยางคำ อยู่เขตรับผิดชอบของ ศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลนาหว้า เป็นบ้านแฝดรวมกันจำนวน 3 หมู่บ้าน คือ หมู่11-13 ทั้ง 3 หมู่ มีจำนวน 380 หลังคาเรือน 436 ครอบครัว ประชากรรวม 1,853 คนชาย 857 คน หญิง 996 คน มีผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 42 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา บ้านอูนยางคำเป็นหมู่บ้านที่อยู่ไกลจากโรงพยาบาลนาหว้าซึ่งเป็นสถานที่ให้บริการ ระยะทาง 10 กิโลเมตร ในการไปรับบริการ ผู้ป่วยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งละ 40-60 บาท และต้องตื่นแต่เช้า เพื่อไปให้ทันเพื่อน เพราะเหมารถไปพร้อมกันเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย บางครั้งทำให้เกิดภาวะเครียด นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะกังวล เกี่ยวกับการเดินทาง ทำให้ผู้ป่วยเบาหวาน ไม่มาตามนัด การรักษาที่ไม่ต่อเนื่อง การควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ผู้ป่วยเบาหวานเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง
ดังนั้นศูนย์สุขภาพชุมชนร่วมกับชุมชนชาวบ้านอูนยางคำ ร่วมกันคิดค้นแนวทางแก้ไข โดยการวางแผนและจัดทำรูปแบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานโดยชุมชน เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็ว ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและครอบครัว ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย และที่สำคัญ ผู้ป่วยเบาหวานได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องใกล้บ้าน ใกล้ใจ จึงมีการจัดการให้บริการที่ศูนย์ ศสมช.หมู่ 11 โดยใช้กองทุนหมู่บ้านร่วมกันบริจาค ค่าอาหาร ข้าวต้มตอนเช้า โดยผู้ป่วยและญาติ ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้เรามองเห็นในมุมมองผู้ปฏิบัติงานในชุมชน กองที่สุขภาพ ไม่ได้มาจากภาครัฐที่เดียว เกิดมาได้หลายทาง ยิ่งเป็นกองทุนที่ก่อเริ่มจากชุมชนทำให้อยู่ยืนนาน และสร้างความภาคภูมิใจแก่ชุมชน บรรยากาศของการให้บริการ เป็นกันเอง และผู้ป่วยที่เคยควบคุมน้ำตาลไม่ได้ทำให้เราปรับเรื่องยา กับการวิถีการดำเนินชีวิต ให้สอดคล้องกับการกินยา การควบคคุมน้ำตาลจะได้ในระดับปกติเป็นส่วนมาก ในกลุ่มผู้ป่วยที่มารับบริการที่ชุมชน
ดีใจครับ ที่ได้อ่านเรื่องของนาหว้า
อยากเห้นวิธีการจังครับ จะได้ขอเรียนรู้ด้วย
ต้องขอแสดงความดีใจร่วมกับชาวชุมชนบ้านอูนยางคำ ที่มีเจ้าหน้าที่เอาใจใส่ดูแลชนิดใกล้ตัว ใกล้ใจ อบอุ่นจริงๆ ครับ
อบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง อบอุ่นไปพร้อมๆ กับผู้ป่วยทั้ง 42 ท่าน (หนึ่งในนั้นท่านคือพ่อตา และแม่ยายผมเอง)
ผมเองแม้ว่าจะไม่ได้อยู่บ้านอูนฯ แต่ผมก็เป็นเขยบ้านอูนฯ ครับ เป็นเขยที่นานทีปีหนถึงจะหอบลูกเมียไปเยี่ยมเยือนสักครั้งหนึ่ง
ซึ่งรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นธรรมชาติที่คงความเป็นอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นความสมบูรณ์แบบแบบดั้งเดิม
ที่ยากเหลือเกินจะพบพานในยุคสมัยนี้ แต้ที่นี่บ้านอูนยางคำยังคงมีเหลืออยู่ สู้นะครับคุณวิภาสินี ขอบคุณจริงๆ ครับ ขอบคุณมาก
อยากกลับไปทำงาน โรงพยาบาลแถวบ้านจัง คิดถึี๊งบ้าน
ผมก้อว่านะครับ แถวบ้านผมยังมีวิถีชาวบ้านแบบดั้งเดิมอยู่ หมู่บ้านยังมีความเป็นพี่เป็นน้องกันอยู่ มีความสามัคคีกลมเกลียวกัน รู้สึกภูมิใจครับที่ได้เกิดที่นี่