ทาสของเทคโนโลยี
ในยุคโลกาภิวัตน์ เป็นโลกไร้พรมแดนที่การติดต่อสื่อสารอยู่ในวงแคบขึ้น ซึ่งมีวิทยาการ ในการสื่อสารข้อมูลจากอีกฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างรวดเร็วและเห็นความแตกต่างระหว่างอดีตกับปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในปัจจุบันได้มีผู้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและสนองความต้องการของมนุษย์ไว้อย่างมากมาย เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีดังกล่าว มีความเกี่ยวข้องกับทุกคนแม้กระทั่งการเรียนการสอนไม่ว่าจะเป็นในระบบหรือ นอกระบบก็ยังใช้เทคโนโลยีเป็นตัวนำในการเรียนการสอน สิ่งเหล่านี้สามารถอำนวยความสะดวกให้เราได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของการติดต่อสื่อสารทำให้เราติดต่อสื่อสารกันได้เร็ว สะดวก และง่าย แต่ถ้าเรามองกันให้ลึกลงไปในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อเรา เราอาจมองเห็นโทษของมัน เหมือนดาบสองคมก็ว่าได้ หากเรารู้จักใช้โดยระมัดระวังก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ปัญหาที่หนักในตอนนี้คือ การที่วัยรุ่นใช้โทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตกันอย่างไร้ขอบเขต ใช้อย่างบ้าคลั่ง ใช้อย่างไร้สาระ รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต ใช้เวลากับมันอย่างมากจนลืมเวลาที่จะพักผ่อน ออกกำลังกายหรือพูดคุย ทำกิจกรรมกับคนในครอบครัว คนที่เรารัก หรือบางคนอาจถึง กับผลการเรียนตกต่ำจนไม่อยากเรียนอีกต่อไป
และปัญหาที่เราพบกันบ่อยขึ้นก็คือ การพูดคุยออนไลน์พบกันในโลกไซเบอร์ที่ใช้ในการพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลได้โดยเห็นหน้าคู่สนทนา เมื่อคุยกันถูกคอกันก็นัดมาพบกัน ตามมาด้วยการล่วงละเมิดทางเพศ การฆาตกรรม การชิงทรัพย์ จนทำให้บางคนถึงกับเสียอนาคตไปเลยก็มี ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่พบมากก็คือ เกมคอมพิวเตอร์ ฟังดูแล้วไม่น่าจะมีพิษสงอะไรมากนัก เพราะเป็นเกมเล่นเฉย ๆ แต่เราจะทราบหรือไม่ว่าเกมคอมพิวเตอร์ได้ส่งผลเสียต่อเด็กวัยรุ่นที่ขาดสติสัมปชัญญะจนเสียผู้เสียคนมามากต่อมากแล้ว เกมก็เหมือนกับของหลาย ๆ อย่างในโลกนี้มีทั้งด้านบวกและด้านลบ ถ้ารู้จักใช้หรือใช้อย่างพอเหมาะพอดีก็จะเกิดประโยชน์ แต่ถ้าไม่รู้จักใช้หรือใช้มากเกินไปก็จะก่อให้เกิดโทษได้ด้วยเหมือนกัน
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะเข้ามาให้ความสำคัญ สอดส่อง ดูแลเยาวชนของเราให้ใช้เทคโนโลยีข่าวสารอย่างถูกต้องเหมาะสม สืบค้นและใช้ข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ รู้เท่าทันเทคโนโลยี อย่าให้ ความง่ายที่มากับเทคโนโลยี กลายเป็นเครื่องสร้าง "ความมักง่าย" ให้เยาวชน สร้างนิสัย หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ไม่อยากเรียนรู้ ไม่อยากใช้ความคิด จนต้องกลายเป็นคน "โง่ดักดาน" "โง่ถาวร" ไปเลยก็ได้ การใช้เครื่องมือจากเทคโนโลยี ถ้าให้ดีต้องสอนเด็กให้รู้จักใช้กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เลือกที่จะรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์หรือปฏิเสธข้อมูลที่ให้โทษหรือไร้สาระ สื่อมวลชนเองก็ควรรับผิดชอบต่อสังคมโดยการนำเสนอข้อมูลที่สร้างสรรค์ และจรรโลงสังคม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ก็จะกลายเป็นทาส ของคนที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัวแทนที่จะเป็นนาย หรือเป็นเครื่องทำลาย และปิดกั้นการเรียนรู้ ของมนุษย์ อย่างที่เป็นอยู่มากมาย ในสังคมไทยปัจจุบัน
ไม่มีความเห็น