ก.พ. ชงรัฐบาลใหม่เออร์ลี 2.5 หมื่นข้าราชการ เริ่มตุลาปีงบ 2550


ก.พ. ชงรัฐบาลใหม่เออร์ลี 2.5 หมื่นข้าราชการ เริ่มตุลาปีงบ 2550

     ก.พ. เตรียมเสนอรัฐบาลชุดใหม่ตัดสินใจโครงการ “เออร์ลีรีไทร์” ข้าราชการ 2-2.5 หมื่นคน ในปีงบประมาณ 2550 หวังลดอายุเฉลี่ยของข้าราชการในระบบจากอายุเฉลี่ย 43 ปี เหลือเฉลี่ย 40 ปี ขณะที่  "วิษณุ" ระบุ  แผนเออร์ลีรีไทร์ต้องให้รัฐบาลใหม่ตัดสินใจ ชี้หากทำช่วงเศรษฐกิจไม่ดี-ควรชะลอโครงการ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้น้ำมันแพง-เศรษฐกิจชะลอตัวคาดปีนี้คนไทยว่างงานร้อยละ 2
     นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ก.พ.  ได้เชิญหน่วยงานต่าง ๆ หารือถึงโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของข้าราชการ หรือโครงการเออร์ลีรีไทร์รอบใหม่ ซึ่งกำหนดเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2550 โดยเบื้องต้นตั้งเป้าว่าจะมีข้าราชการสมัครใจเข้าร่วมโครงการระหว่าง 20,000-25,000 คน  และต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยจุดประสงค์ของโครงการเออร์ลีรีไทร์รอบนี้ สำนักงาน ก.พ. ตั้งเป้าลดอายุเฉลี่ยของข้าราชการทั้งระบบจากปัจจุบันที่อยู่ที่ 43 ปี เหลือเฉลี่ย 39-40 ปี เพื่อให้การทำงานของระบบราชการมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
สำหรับข้าราชการที่จะเข้าโครงการต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือทำราชการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 25 ปี ส่วนการให้สิทธิประโยชน์ในการจูงใจนั้น คณะกรรมการ ก.พ. ให้ความเห็นว่าควรไม่ต่ำกว่าสิทธิประโยชน์ที่ข้าราชการ  ที่เข้าโครงการเออร์ลีรีไทร์ในครั้งที่แล้ว   ขณะที่รัฐบาลจะเตรียมมาตรการรองรับไว้ เช่น การหารือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) ในการปล่อยสินเชื่อในการเริ่มต้นอาชีพใหม่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ก.พ. ได้เสนอบันทึกให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ แต่คงไม่มีการตัดสินใจดำเนินการใด ๆ เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการ โดยเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่   สำนักงาน ก.พ.จะเสนอเรื่องกลับไปให้ ครม. พิจารณาอีกครั้ง     
     นายปรีชา กล่าวว่า สำหรับโครงการเออร์ลีรีไทร์เป็นโครงการที่สำนักงาน ก.พ. ต้องเสนอตามปกติ เพราะมีหน้าที่ดูแลความเหมาะสมของกำลังคนภาครัฐในระยะยาว แต่การตัดสินใจใด ๆ จะขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ความเหมาะสมของระยะเวลาและสถานการณ์ขณะนั้น รวมถึงภาระค่าใช้จ่ายด้านงบประมาณ
ดร.วิษณุ เครืองาม รักษาการองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการเออร์ลีรีไทร์ข้าราชการเป็นนโยบายใหญ่ ซึ่งรัฐบาลรักษาการจะไปตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องรอนโยบายรัฐบาลชุดใหม่เท่านั้น ขณะที่ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เนื่องจากราคาน้ำมันมีราคาเพิ่มสูงขึ้น โครงการเออร์ลีรีไทร์ควรต้องชะลอออกไป เช่นเดียวกับการเพิ่มเงินเดือนให้กับข้าราชการทั้งระบบที่ต้องรอให้รัฐบาลชุดหน้าเป็นผู้ตัดสินใจ

     รายงายข่าวแจ้งว่า ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเคยมีโครงการเออร์ลีรีไทร์ครั้งใหญ่ 4 รุ่น คือ โครงการเออร์ลีรีไทร์ตามแผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการ พ.ศ.2540-2544 มีจำนวน 3 รุ่น มีข้าราชการสมัครใจเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 69,893 คน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100,000 คน และในปี 2547 รัฐบาลมีโครงการเออร์ลีรีไทร์อีก 1 รุ่น มีข้าราชการสมัครใจร่วมโครงการ 48,101 คน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 50,000 คน   โดยจากผลการประเมินข้าราชการที่เข้าโครงการเออร์ลีรีไทร์รุ่นที่ 1-3 หลังเข้าโครงการในระหว่างปี 2546 โดยใช้การสุ่มตัวอย่างพบว่า  กลุ่มตัวอย่าง 52.8% ไม่ได้ประกอบอาชีพ    กลุ่มตัวอย่าง 17.3% ไปทำอาชีพเกษตรกรรม    กลุ่มตัวอย่าง 8.9% ทำธุรกิจส่วนตัว    กลุ่มตัวอย่าง 4.7% ทำอาชีพรับจ้าง    กลุ่มตัวอย่าง 1.4% ไปทำธุรกิจขายตรง   และ     กลุ่มตัวอย่าง 3% ทำธุรกิจให้เช่าอาคาร เป็นต้น
     ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจปี 2549 ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากน้ำมันแพง อัตราดอกเบี้ยสูง การลงทุนและการบริโภคที่ชะลอตัวลง จะส่งผลทำให้มีการจ้างงานลดลง และการว่างงาน  จะเพิ่มสูงขึ้น โดยอัตราการว่างงานในปี 2549 คาดว่าจะอยู่ร้อยละ 2.0 เปรียบเทียบกับในปี 2548 ที่มีอัตราการว่างงานร้อยละ 1.8 เนื่องจากในช่วงที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้ ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การบริหารงานใหม่เพื่อรักษาฐานะความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการลดจำนวนพนักงานลง ซึ่งในที่สุดผู้ใช้แรงงานทั่วไปจะต้องได้รับความเดือดร้อน    ทั้งนี้ ในปี 2548 ที่ผ่านมา จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าประเทศไทยมีกำลังแรงงานรวมทั้งสิ้น 36.3 ล้านคน จำแนกเป็นแรงงานนอกระบบ มีจำนวน 22.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 62.1 ของแรงงานทั้งหมด   ในขณะที่แรงงานในระบบ     มีจำนวน 13.8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 37.9 ของแรงงานทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากำลังแรงงานส่วนใหญ่         เป็นแรงงานนอกระบบที่ไม่ได้รับการคุ้มครองสวัสดิการ และหลักประกันการทำงาน ดังนั้นเสนอแนวทางช่วยเหลือแรงงานนอกระบบ โดยควรจัดให้มีระบบการคุ้มครองประกันสังคมให้แก่แรงงานนอกระบบ สร้างมาตรการความปลอดภัยในการทำงาน สนับสนุนให้มีการรวมกลุ่ม และจัดตั้งกองทุนประกันสังคมสำหรับแรงงานนอกระบบ และจัดตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนอกระบบ เป็นต้น


กรุงเทพธุรกิจ  7 พ.ค. 49

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 27885เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2006 12:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 10:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
ร.ต.ประสิทธิ์ อาจเวทย์

ช่วยตอบทีอยากทราบว่าเงินเออร์รี่ทหารที่ลาออกปี 51-52 จะได้รับเงินตอนไหนครับตอนนี้เดือดร้อนมาก

พอช่วยหาคำตอบให้ได้ครับ

แต่การที่จะตอบคำถามนี้ได้ต้องมีข้อมูลเยอะกว่านี้ครับ เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน หน่วยงานที่ท่านลาออก การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ ที่เขียนว่า 51-52 นั้น มันกว้างไป แบบนี้ถ้าคนตอบ ตอบว่า จะได้ปี 53-54 นั่นหละ จะไม่เดือดร้อนไปอีกหรือ

แนะนำให้โทรมาคุยกันนะครับ เผื่อช่วยได้ ในวันทำงาน เบอร์ที่ทำงานผม 0-2270-0599 พอดีวันนี้วันหยุดอยู่บ้าน จำเบอร์คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ได้ครับ

เพื่อนๆทหารใครบ้างครับที่ลาออกปลายปี51ได้รับเงินบ้างรึยังที่เข้าร่วมโครงการเออรี่นะครับ

เมื่อกี้โทรมาเหรอครับ ขอโทษจริงๆ พอดีผมไม่อยู่ ไปติดต่องานมา กลับมาแล้ว พี่เขาให้เบอร์ call center ไป ลองโทรไปถามยังครับ call center เขาก็คงโอนไปให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ช่วยตอบคำถามคุณ

คำถามแบบนี้ที่จริง กรมบัญชีกลาง ต้องให้คำตอบได้ ต้องรู้ว่าเรื่องอยู่ในขั้นตอนไหน ติดขัดอะไร ต้องตอบได้

หลังจากโทรถาม call center แล้วได้ผล ยังไง เล่าให้ฟังด้วยนะครับ

ร.ต.ประสิทธิ์ อาจเวทย์

ถามบรรณารักษ์ผมลาออกปลายปี51ตอนนั้นออกราชกิจจาแล้วว่าได้ทุกชั้นยศแต่ทําไมสอบถามกลับตอบว่าเค้าเริ่มโครงการปลายปี52ถึงจะได้ทุกชั้นยศจริงหรือไม่แล้วกลุ่มที่ไม่ได้ปลายปี51จะยกยอดมารับกลุ่มปี52หรือไม่พอจะมีโอกาศอยู่มั้ยตอบช้านิดนึงคือคอมเจ้งครับ

ร.ต.ประสิทธิ์ อาจเวทย์

แล้วเอกสารที่ส่งไปทําไมยังไม่ตีกลับหรือยังมีโอกาศหรือเค้าไม่ส่งกลับช่วยตอบที

สวัสดี 6. ร.ต.ประสิทธิ์ อาจเวทย์ [IP: 124.157.144.5]

เช้านี้ผมมาทำงานแล้วครับ ดูคำถามแล้วผมก็ยังงงๆ อีกเหมือนเดิมครับ ที่ว่า

ตอนนั้นออกราชกิจจาแล้วว่าได้ทุกชั้นยศ คืออะไรครับ ถ้าเป็นเงินเออรี่ ตอนที่เขารับสมัครให้เออรี่และถ้าคุณสมัครเข้าร่วมโครงการคุณก็ต้องได้สิครับ เกี่ยวอะไรกับชั้นยศ ข้าราชการประเภทอื่นๆ ก็มีหลายๆ ซี เหมือนกัน เขาก็ยังได้

แต่ทําไมสอบถามกลับตอบว่าเค้าเริ่มโครงการปลายปี52ถึงจะได้ทุกชั้นยศ มาถึงตอนนี้ผมก็เลยงงเลย

กลุ่มที่ไม่ได้ปลายปี51จะยกยอดมารับกลุ่มปี52หรือไม่ ก็ไม่ได้สิ ถ้าไม่เป็นไปตามโครงการตั้งแต่ต้น แต่ถ้าถูกต้องก็ต้องได้

แล้วเอกสารที่ส่งไปทําไมยังไม่ตีกลับหรือยังมีโอกาศหรือเค้าไม่ส่งกลับช่วยตอบที อันนี้ต้องถามผู้ที่เีกี่ยวข้องโดยตรง ผมอยากรู้จังว่าคุณถามใคร คือ ถ้าเป็นผมทำงานหรือตอบคำถาม ผมต้องตอบให้ชัดเจนกว่านี้ ถ้าแบบนี้เท่ากับถามแล้วไม่ได้คำตอบอะไรเลย ผมแนะนำให้เข้ามาที่กรมบัญชีกลางเลยดีกว่า เอาเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วย เข้ามาถามเจ้าหน้าที่เลยว่าติดขัดที่อะไรกันแน่ คือ ผมคิดว่า ข้าราชการทำงานต้องชัดเจน ตอบคำถามที่อยู่ในความรับผิดชอบได้ ไม่ใช่ งงๆ

ขอบคุณครับ

  ใจเย็นๆนะครับ คุณประสิทธิ์ ต้องเข้าใจระบบราชการครับ ลองตรวจสอบดูดีๆนะครับว่าติดอยู่ขั้นตอนไหนกันแน่ ผมเห็นคนอื่นเค้าเออรี่กันเยอะนะครับ   ผมเคยติดตามงานเกี่ยวกับระบบราชการบ่อยครับ  ถ้าไม่ตาม รับรองว่าไม่ได้แน่นอนครับ  ขั้นแรก ติดตามเอกสารที่คุณประสิทธิ์ทำครั้งแรก หรือที่ยื่นครั้งแรกที่หน่วยงานไหน ให้ตามที่หน่วยงานนั้นครับ  ใครเป็นคนรับเอกสารคุณประสิทธิ์  แล้วเค้าส่งไปที่หน่วยงานไหน แล้วตามต่อที่หน่วยงานนั้น .....สรุปว่าต้องตามทุกขั้นตอนจริงๆครับ  เป็นทุกหน่วยงานครับ ขอย้ำว่าทุกหน่วยงานจริงๆ

ผมคิดว่าไล่ตามทุกขั้นตอนดีกว่าครับ  ดีกว่าอยู่เฉยๆ นะครับ   ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

[email protected]  

ลองตรวจสอบที่ เว็บไซต์อินเทอร์เน็ตกรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th/  สอบถามเงิน " เออร์ลี่ 51 -52 " ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท