การบริหารเวลาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ชีวิต
กองส่งเสริมและพัฒนาเครือข่าย
เมื่อพูดถึงเวลาคงไม่มีใครไม่รู้จัก คงไม่มีใครไม่เคยสัมผัสกับคำว่า"เวลา" และคงไม่มีใครที่ไม่เคย
ลิ้มรสของคำว่า "เสียดายเวลา" เคยถามตัวเองบ้างหรือไม่ว่าทำไมคำว่า "เสียดายเวลา" จึงเกิดขึ้นกับ
ชีวิตเรา และคำคำนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตคนเรา มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเรารู้สึกเคยชินกับ
มันไปแล้ว
ถึงแม้จะมีนักคิดนักเขียนออกมาพูดกันตลอดเวลาว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า ซื้อหาไม่ได้ ขายไม่ได้
หยิบยืมไม่ได้ ขอใช้ล่วงหน้าไม่ได้ กักตุนไม่ได้ สะสมไม่ได้ แบ่งปันไม่ได้ และที่สำคัญไม่มีใครเป็นเจ้าของ
เวลาที่แท้จริงเพราะเวลาเป็นกฎธรรมชาติอิสระที่ทุกคนได้มาเท่าเทียมกันทุกคนมีเวลาบนพื้นฐานเดียวกัน
คือวันละ 24ชั่วโมง ชั่วโมงละ 60 นาที ไม่ว่าคุณจะอยู่ท่ไหนของโลก เชื้อชาติอะไร สัญชาติใด คุณก็มี
เวลาเท่าเทียมกัน แต่ความสำคัญอยู่ที่ใครจะใช้เวลาได้คุ้มค่ากว่าใครเท่านั้น
เราคงเคยเห็นเพื่อนหลายคนที่เกิดมาพร้อม ๆ กัน สิ่งแวดล้อมไม่แตกต่างกัน เรียนหนังสือมา
พร้อม ๆ กัน เข้าทำงานพร้อม ๆ กัน แต่นับวันความแตกต่างในชีวิตเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุด
ห่างไกลกันจนแทบจะเรียกว่าคนละชั้นหรือคนละระดับไปเลยก็มี ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง
คือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเวลาในชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกันนั่นเอง
คนส่วนมากใช้เวลาอ่านหนังสือเพื่อให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้น คนหลายคนใช้เวลาอ่านหนังสือเพื่อพัฒนา
ความรู้ คนบางคนอ่านหนังสือเพื่อต่อยอดของความรู้และคนบางคนอ่านหนังสือเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่
ดังนั้นเราไม่สามารถบอกได้ว่าคนอ่านหนังสือเรื่องเดียวกันในเวลาเดียวกัน จะได้ผลตอบแทนที่เหมือน ๆ
กันสิ่งสำคัญอยู้ที่คนคนนั้นได้ใช้โอกาสแห่งเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
ถ้าเราอยากจะรู้ว่าเราทำเวลาตกหล่นในชีวิตมากน้อยเพียงใด ของให้เราลองนำเอาจำนวนความ
สำเร็จที่ได้มาในปัจจุบันหารด้วยเวลาในชีวิตที่ผ่านมา เพื่อดูว่าความสำเร็จนั้น ๆ ใช้เวลาเฉลี่ยเท่าใด คน
บางคนใช้เวลาทั้งชีวิตกว่าจะได้บ้านมาสักหลัง แต่คนบางคนใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็สำเร็จแล้ว บางคนอาจ
จะคัดค้านและไม่เห็นด้วยเพราะแต่ละคนมีฐานะแตกต่างกัน แต่ถ้าเราลองคิดดูให้ดีจะพบว่าทุกคนเกิดมา
บนพื้นฐานเดียวกัน ถึงแม้บางคนจะเกิดมาบนกองมรดกกองเงินกองทอง ในขณะที่บางคนเกิดมาบนกอง
ขยะแห่งความยากจนก็ตาม แต่บทสรุปของชีวิตก็คือ คนเรามีหนึ่งสมองและสองมือเหมือนกัน
เราจะเห็นว่าในสังคมนี้ มีคนเคยรวยมากมายที่กลายมาเป็นคนจนแทบจะไม่มีกิน เราจะเห็นคนเคย
จนที่แทบจะเอาชีวิตไม่รอดกลายมาเป็นคนรวยเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับ สิ่งเหล่านี้แหละที่ชี้ให้เห็นว่าความ
แตกต่างภายนอกของคนไม่ได้เป็นสิ่งที่จีรังยั่งยืนเท่ากับสิ่งที่อยู่ภายในตัวของเราเอง ดังนั้นเราอย่าไปหา
เหตุมาอธิบายตัวเองให้ดูดีเลยว่า ที่เราเป็นอย่างนี้เพราะเราไม่มีโน่นไม่มีนี่เหมือนคนอื่นเขา เราต้องหัน
กลับมาทบทวนและมองตัวเองว่า เราได้ใช้เวลาที่ผ่านมาคุ้มค่าและเพิ่มค่าให้กับชีวิตมากน้อยเพียงใด
ในชีวิตของเราทุกคนก็เหมือนกัน ถ้าเรามีเป้าหมายชัดเจน มันจะบอกเราเองว่าอีกห้าปีข้างหน้า
เราจะต้องทำอะไรบ้าง อีกหนึ่งปีข้างหน้าเราต้องมีอะไรบ้าง เดือนหน้าเราต้องทำอะไรบ้าง และมันจะบอก
เราแม้กระทั่งว่าวันนี้ เวลานี้เราจะต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งจะทำให้การใช้เวลาของเราทุกวินาทีตอบปัญหาได้ว่า
เราใช้เวลาในแต่ละช่วงไปเพื่ออะไรและใช้อย่างไร
การที่หลายคนชอบยกตัวอย่างให้เราคิดตามว่าถ้าเรามีเวลาเหลือเพียงเจ็ดวันในชีวิตนี้มีอะไรบ้าง
ที่เรายังไม่ได้ทำและอยากจะทำก่อนที่จะไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่สามารถจำลองการใช้เวลา
ในชีวิตของเราให้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น สิ่งนี่คงจะคล้าย ๆ กับสำนวนที่ว่า "ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา"
โดยสรุปก็คือการบริหารเวลาสำคัญอยู่ที่เราได้กำหนดเป้าหมายชีวิตไว้ชัดเจนหรือยัง ในแต่ละช่วงเวลา
เราได้จัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมในชีวิตได้ดีเพียงใด
฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿
ลองแวะมาชิมกันเด้อ......
น่ากินทั้งนั้น.... ขอเรียงลำดับเป้าหมายก่อนเด้อค่ะ
คนเราควรบริหารเวลาให้ถูกต้องเพื่อเป้าหมายที่ดีของอนาคตที่เราตั้งเป้าหมายไว้
ขอบคุณมาก ๆเลยคร่ะ
เป็นเนื้อเรื่องที่น่าสนใจดีมาก รูปน่ากิน
เนื้อหาดีมากเลยค่ะ
ขอบคุณครับ ผมอ่านแล้วก็นำไปใช้ได้อะครับ
แต่การตังการโพส์รกๆๆหน่อยอะครับ
น่ากินมากค่ะ
แล้วก็เรื่องเวลา ดิฉันขอขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณคับที่ให้ความรู้ ผมจะนำกลับไปใช้กับตัวเอง
ช่างเปนเรื่อง ที่ น่าสนใจ
ขอบคุนที่ให้ความ รู้ นะ ครับ
สุด ยอด อิอิ
ขอบคุณครับที่ชี้แนะความสำเร็จในชีวิตมาให้ ผมเป็นคนชอบการชี้แนะเรื่องนี้มาก
ให้ข้อคิดได้ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่ทำให้หนูรู้จักค่าของเวลามากขึ้นและไม่ยึดติดกับเงินทองของนอกกายมากเกิดไป และหนูจะตั้งเป้าหมายของชีวิตและทำให้ได้โดยใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ
ผมอยากเขียนได้บ้างครับ
อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
แต่ก็ได้ความรู้หลายอย่าง
ขอบคุณมากครับ
คงไม่มีใครที่ไม่เคย
ลิ้มรสของคำว่า "เสียดายเวลา"
เคยถามตัวเองบ้างหรือไม่ว่าทำไมคำว่า "เสียดายเวลา"
จึงเกิดขึ้นกับชีวิตเรา
โดนใจมากเลยค่ะกับประโยคข้างบน ^^
ลองถามตัวเราเองกับเวลาที่ผ่านมา
และทำวันนี้ให้มันดีที่สุด ><~
ขอบคุณครับ ที่ยอมเสียเวลามาแนะนำกระทู้นี้ ขอบคุณครับ...
ในตอนนี้หนูอยู่ในวัยเรียนที่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอแต่โดยส่วนตัวของหนูเองไม่ค่อยชอบเสียเวลาไปกับการนอนเวลาว่างชอบอ่านหนังสือและยิ่งเป็นหนังสือที่เกียวกับคณิตศาสตร์ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่เลยแต่หนูคิดว่าหนูใช้เวลาในแต่ละวันได้คุ้มค่านะคะเพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบอยู่เฉยๆแต่รักสงบแต่ในบางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองสงสารตัวเองเพราะว่าไม่ค่อยมีเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนอะไรๆก็อ่านแต่หนังสือและบางครั้งก็ถึงกับไม่ทานข้าวเลย จากที่หนูได้อ่านมาเบื้องต้นก็จริงนะคะเพราะว่าคนเรานั้นแบ่งเวลาไม่เหมือนกันและสุดท้ายนี้หนูก็อยากขอบคุณกับความรู้ดีๆที่ได้นำมาฝากไว้ค่ะ bye...bye
ตอบคุณโอ๊ดไม่ยากหรอกครับค่อย ๆ ศึกษาเดี๋ยวก็รู้ไปเอง
คงต้องตั้งเป้าหมายก่อน เพื่อที่จะบริหารเวลาได้ถูก
ขอบคุณค่า......ที่แวะมาเยี่ยมชมนู๋.......
มาร่วมเรียนรู้ครับ
ตรงใจเป๊ะ
เวลามีค่าจริงๆ เนอะพี่
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด นี่ใช่เลย