การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในโรงเรียน


โรงเรียนต้องพัฒนาครูและบุคลากรให้สามารถปรับตัวและมีความยืดหยุ่นพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในโรงเรียน

 

                การประยุกต์ใช้หลักการบริหารทรัพยากรมนุษย์สามารถส่งเสริมและผลักดันให้โรงเรียนเป็น High Performance Organization (HPO) หากโรงเรียนต้องการเป็น HPO ต้องมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง สอดคล้องกับแนวความคิดการประกันคุณภาพและวงจร Deming ที่มุ่งเน้น การพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าเพื่อนำความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ดังนั้นโรงเรียนต้องมีความพร้อมและสร้างศักยภาพของโครงสร้างภายในเพื่อเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และมีความสามารถเด่นชัดในการบริหารจัดการเป็นเลิศ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนาผู้บริหารและครูให้มีภาวะผู้นำเพื่อนำทุกคนในองค์กรให้มีค่านิยมร่วมในการทำงานอย่างมีอุดมการณ์เพื่อพัฒนาประเทศชาติ โรงเรียนต้องกำหนดนโยบายส่งเสริมให้ครูสร้างนวัตกรรมทางการเรียนการสอน สนับสนุนให้ครูทำการวิจัยและพัฒนา และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเสริมให้โรงเรียนมีความคล่องตัวในการบริหารและจัดการสารสนเทศ มุ่งเน้นความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรร่วมกันแบบประสานพลัง

 

            ในการมุ่งสร้างวัฒนธรรมสู่ความเป็นเลิศนั้น ครูและบุคลากรต้องได้รับการพัฒนาให้มีวินัยในการปฏิบัติงาน อีกทั้งพัฒนาการควบคุมตนเองถึงระดับมีความสามารถสร้างแรงจูงใจในตนเองและเป็นแบบอย่างให้กับเพื่อนครู มุ่งสร้างความรู้ใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตนเองและเพื่อนครู  

 

            โรงเรียนจะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่องนั้น โรงเรียนต้องสร้างคนเก่ง ให้มีกระบวนการพัฒนาสายอาชีพ ซึ่งต้องกำหนดสมรรถนะของครูเป็นเบื้องต้น และประเมินว่ามีใครบ้างที่เป็นไปตามเกณฑ์หรือไม่ถึงเกณฑ์ โรงเรียนควรให้ความสำคัญในการพัฒนาคนที่เก่งแล้วให้เก่งมากขึ้นไปอีก ส่วนครูที่มีสมรรถนะไม่ถึงเกณฑ์ ก็พัฒนาให้มีสมรรถนะเป็นไปตามเกณฑ์  

 

            นอกเหนือจากนี้ โรงเรียนต้องดูด้วยว่ามีความสามารถในการทำให้คนเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน ซึ่งหมายถึงโรงเรียนต้องสำรวจครูและบุคลากรว่ามีความสามารถหรือไม่ ถ้าไม่มีขาดสิ่งใดที่โรงเรียนควรสนับสนุนส่งเสริมให้ครูและบุคลากรมีความสามารถเพียงพอที่จะคิดหากระบวนการในการพัฒนาผู้อื่นที่ต้องการพัฒนาต่อไป และโรงเรียนต้องตระหนักเสมอว่าทุก Implementation มี impact ดังนั้นต้องบริหารจัดการให้ดีและมีความรอบคอบอย่างที่สุด 

 

            โรงเรียนต้องพัฒนาครูและบุคลากรให้สามารถปรับตัวและมีความยืดหยุ่นพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยปรับกระบวนทัศน์ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งอาจต้องใช้กิจกรรมกลุ่มเพื่อช่วยในการเปลี่ยนแปลงแนวคิด จาก No alignment จนกระทั่งเป็น Full alignment หรือเรียกได้ว่าเป็น High Performance Organization ซึ่งต้องมีการประเมินทั้งภายนอกและภายใน โรงเรียนจึงต้องมีการประเมินภายในและจัดทำรายงานการพัฒนาคุณภาพประจำปีของโรงเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาในรอบปีการศึกษาต่อไป และในการขอรับการประเมินจากภายนอกโดยองค์การมหาชน  

 

            แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนจึงควรกำหนดให้ครอบคลุมการบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน และในส่วนของการกำหนดอัตรากำลังควรใช้สมรรถนะเป็นฐาน ความก้าวหน้าในสายงานให้เป็นไปตามการบริหารผลการปฏิบัติงาน และการทำให้การบริหารทรัพยากรมนุษย์มีความโปร่งใส นั้นต้องสรรหาคนให้ดี และส่งเสริมให้ครูในโรงเรียนได้ศึกษาต่อ โรงเรียนควรสร้างคนเป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นตัวอย่างในการพัฒนาคนในอนาคต และโรงเรียนต้องสร้างความพร้อมให้คนที่มีอยู่มีความสามารถที่แตกต่างจากที่อื่นและเป็นผู้ที่ปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ ดังนั้น ฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ของโรงเรียนจึงต้องเป็นหน่วยที่รองรับเป้าหมายดังกล่าว ต้องมีการประเมินผลการปฏิบัติงานไล่ลงมาจากระดับผู้บริหาร ระดับหัวหน้าฝ่าย หัวหน้ากลุ่มสาระ และระดับครูผู้สอน ไปจนถึงครูพี่เลี้ยง แม่บ้าน คนขับรถ คนสวน ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ต้องตั้งรายละเอียดของแต่ละส่วนงานเพื่อทำให้สามารถวัดผลการปฏิบัติงานได้เป็นรายบุคคล และมาพิจารณาว่าจะต้องพัฒนาเป็นรายบุคคลอย่างไรให้เป็นวงจร นอกเหนือจากนี้ระบบการประเมินต้องผูกไว้กับระบบตอบแทน ซึ่งต้องให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนมากที่สุด

 

ผู้เขียน วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com)

 

จากบทความข้างต้น ผู้ศึกษามีความเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง  ต่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในโรงเรียน  เนื่องจากระบบการศึกษาต้องอาศัยบุคลากรทีมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพในการส่งเสริม สนับสนุนและให้ความรู้แก่นักเรียน ให้เป็นผู้ที่มีคุณลักษณะ เก่ง  ดี  มีสุขดังนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักกับการหล่อหลอม และ               สร้างคนให้เป็นผู้พร้อมในหลักเกณฑ์ดังกล่าว  จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีบุคลากรที่มีความรู้  ความสามารถ  ความชำนาญ ในการถ่ายทอดความรู้  ส่งเสริม และพัฒนา  หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการสร้างคนให้เป็นผู้มีความสมบูรณ์แบบของความเป็นมนุษย์  ดังนั้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในโรงเรียนจึงต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง  ตราบใดที่โลกเราก้าวสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม....ผู้ที่ได้ชื่อว่ามีหน้าที่ สร้างคนก็จำเป็นต้องพัฒนาตนเอง เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกเช่นเดียวกัน....ในทำนองเดียวกันหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องก็ต้องเล็งเห็นถึงความสำคัญ  ให้การสนับสนุน และส่งเสริมให้บุคลากรในหน่วยงานของตนมีการพัฒนา และก้าวหน้าในสายงานอาชีพด้วยเช่นกัน

หมายเลขบันทึก: 278358เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2009 12:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 22:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

โอ้..เยี่ยมยุทธ์ จริงๆ เจ้านาง ข้าน้อยขอคารวะ

พูดอีกก็ถูกอีกค่ะอาจารย์เอก ก่อนที่จะพัฒนาเยาวชนของชาติ ต้องพัฒนาที่ตัวครูก่อน เพราะครูเป็นแม่พิมพ์ เป็นแม่แบบ ถ้าแม่พิมพ์ไม่มีคุณภาพ แม่แบบไม่ได้มาตรฐาน ผลิตผลที่ออกมาก็คงบิดเบี้ยว ไม่สวยงาม ตรงกันข้ามถ้าแม่พิมพ์ดีมีคุณภาพ ผลิตผลที่ออกมาก็มีคุณค่าได้มาตรฐาน เป็นที่ต้องการของสังคมและประเทศชาติ ในอนาคตไม่ต้องกลัวว่าจะขาดแคลน คนเก่ง คนดี คนมีฝีมือ นี่คือจุดเริ่มต้นเมื่อคนในประเทศมีการพัฒนา ประเทศต้องเจริญก้าวหน้าจริงแท้แน่นอน

การพัฒนาเป็นสิ่งที่ดี ข้อแรกครูในโรงเรียนต้องพูดภาษาเดียวกันก่อน สร้างความเข้าใจให้ตรงกัน จริงมั้ยคะ พี่เอก

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้PPP

ในฐานะที่เรามีหน้าที่ " สร้างมนุษย์"  เราท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับการศึกษาของเด็กไทยและการจัดระบบการศึกษาไทยในปัจจุบันคะ ?????

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท