ขั้นตอนของการวิจัย
การวิจัยที่ดีจะต้องมีการดำเนินไปอย่างเป็นกระบวนการเป็นขั้นตอน
แต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้
1. เลือกหัวข้อที่จะทำการวิจัย (Selecting a topic) เป็นขั้นตอนแรกของการวิจัย เมื่อจะทำวิจัย ผู้วิจัยเองจะต้องรู้ว่าจะทำเรื่องอะไร เรื่องการวิจัยหรือหัวข้อวิจัย อาจเกิดจากความอยากรู้ ความสงสัย การฟัง การค้น การสนทนาการทำงาน หรืออาจเกิดจากสภาพแวดล้อมทั่ว ๆ ไป เป็นต้น
2. ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง (Review of literature) หลังจากกำหนดเรื่องที่จะวิจัยจะต้องศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย โดยศึกษาสาระความรู้ แนวความคิด ทฤษฎีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ในตำรา หนังสือ วารสาร งานวิจัย และผลงานวิจัยจะช่วยให้ทราบว่ามีใครบ้างวิจัย มีผลการค้นพบอะไรบ้าง มีวิธีดำเนินการอย่างไร เครื่องมือและเทคนิคการวิเคราะห์อย่างไรซึ่งจะทำให้ผู้วิจัยมีความชัดเจนในเรื่องที่จะทำวิจัยมากขึ้น
3. การออกแบบการวิจัย (Research design) เป็นโครงสร้าง (Structure) และแนวทางในการดำเนินการวิจัยเพื่อให้ตอบปัญหาวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด (Kerlinger. 1986 : 279) การออกแบบการวิจัยเป็นการวางกรอบการวิจัย ส่วนการวางแผนการวิจัยจะ ปรากฎในรูปโครงการวิจัย (Research proposal) และเป็นการวางรายละเอียดภายใต้กรอบการวิจัย
4. สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล (Instruction) ดำเนินการสร้างตามหลักและขั้นตอนการสร้างเครื่องมือประเภทนั้น ๆ ซึ่งโดยทั่วไปจะต้องศึกษาวิธีการสร้างเครื่องมือ การเขียนข้อคำถาม การให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแก้ไข การทดลองและตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ การปรับปรุงเครื่องมือ เป็นต้น
5. การเลือกกลุ่มตัวอย่าง(Sampling) ในกรณีที่ไม่ได้ศึกษาจากประชากร และจะศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง ก็ทำการเลือกกลุ่มตัวอย่าง ตามวิธีการที่กำหนดไว้
6. การรวบรวมข้อมูล (Data collection) ในการวิจัยจะใช้การรวบรวมวิธีใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อคำถามหรือเครื่องมือ เป็นต้น การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยก็จะเก็บรวบรวมจากประชากรที่ศึกษาหรือจากกลุ่มตัวอย่างที่ผู้วิจัยได้กำหนดไว้ในแบบของการวิจัย
7. การวิเคราะห์ข้อมูล (Data analysis) เป็นขั้นตอนที่ต่อจากขั้นการรวบรวมข้อมูลเมื่อผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลมาแล้วก็นำมาคัดเลือกข้อมูลที่มีความสมบูรณ์ แล้วนำมาวิเคราะห์ ซึ่งอาจจะวิเคราะห์ด้วยมือหรือวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน
8. การแปลความหมายหรือการตีความข้อมูล (Interpretation) เป็นการนำตัวเลขจากการวิเคราะห์ข้อมูลมาแปลความหมายว่าผลการวิเคราะห์เป็นไปอย่างไร ซึ่งการแปลความหมายอาจจะใช้เกณฑ์หรือใช้มาตรฐาน จึงจะทำให้แปลความหมายได้ถูกต้อง เช่น งานวิจัยเรื่องหนึ่งได้ผลของค่าเฉลี่ยในการปฏิบัติงานของพนักงานเท่ากับ 1.98 ค่า 1.98 คงยังบอกอะไรไม่ได้ถ้าไม่นำไปเทียบเกณฑ์แล้ว อาจบอกได้ว่า พนักงานมีการปฏิบัติน้อยปฏิบัติมาก ปฏิบัติมากที่สุด ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ (2538 : 229) ได้เสนอแนะในเรื่องของการแปลความหมายของข้อมูลเอาไว้ว่า ในการแปลความหมายของการวิจัย ควรแปลจากความเป็นจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่ควรใส่ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง
9. เขียนรายงานการวิจัยและจัดพิมพ์ ขั้นนี้เป็นขั้นสุดท้ายของการวิจัย ผู้วิจัยจะต้องเขียนรายงานตามรูปแบบของการเขียนรายงานการวิจัยประเภทนั้น ๆ เพื่อให้คนอื่นได้ศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดลึกซึ้งต่อไปเอกสารอ้างอิง
ล้วน สายยศและอังคณา สายยศ. เทคนิคการวิจัยการศึกษา. กรุงเทพฯ : ชมรมเด็ก, 2538.
Kerlinger. F. N. Foundation of Behavioral Research. New York : Holt, Rinehart and Winston, inc., 1986.
การประเมินหัวข้อการวิจัยว่าจะทำวิจัยเรื่องนี้ดีหรือไม่จะต้องพิจารณาประเด็นใดบ้างคะพี่อ้วน
มีอะไรอีกอ่ะคะ พี่อ้น ที่จะช่วยให้เราเข้าใจการทำวิจัยได้ดีขึ้น
ขอบคุณมากค่ะ