ว่าวสองพี่น้อง เรื่องราวดีดีที่บ้านจำรุง
จังหวัดระยอง
ช่วงเดือนสามต่อเดือนสี่ (เดือนไทย)
บริเวณที่ทุ่งนาบ้านจำรุง
ชาวจำรุงและหมู่บ้านใกล้เคียงจะได้ยินเสียงลูกร้องของว่าวสองพี่น้อง
ที่ดังไพเราะทั้งวันทั้งคืน
ได้ความรู้สึกในบรรยากาศท้องทุ่งนาไปอีกแบบ
ช่วงเวลานี้อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว
ทุ่งนาไม่มีน้ำสะดวกต่อกิจกรรมว่าว เด็ก ๆ ปิดเทอม
ผู้อาวุโสในชุมชนพอมีเวลามาทำกิจกรรมที่ชอบ
คนสองวัยมาเจอกันที่ทุ่งนาด้วยกิจกรรมว่าว
เด็กได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์ในการทำว่าว
ทั้งว่าวสองพี่น้องและว่าวอื่น ๆ
ในปีนี้ (2549)
ตาบุก
ที่เด็ก ๆ เรียก มาพบผม
บอกว่าอยากให้จัดการแข่งขันว่าวสองพี่น้องให้ที
อยากเห็นว่าวสองพี่น้องได้มาประกวดประชันกัน
ผมจึงสอบถามว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
เพราะผมเองไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยก็ว่าได้
เคยเล่นว่าวมาบ้างแต่ไม่เคยทำว่าวเองซักตัว
ตาบุกบอกว่าไม่ยากแค่ขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์สักหน่อย
และให้วิทยุชุมชนบ้านจำรุงช่วยออกอากาศ
ส่วนเรื่องชวนสมัครพรรคพวกที่เป็นนักเลงว่าวเป็นหน้าที่ของเขาเอง
เราเริ่มต้นด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุชุมชนบ้านจำรุงทุกวัน
ทำป้ายประชาสัมพันธ์ติดที่บริเวณถนนสายสุนทรภู่แหลมแม่พิมพ์
ซึ่งมีผู้คนผ่านไปผ่านมาได้มองเห็น
มีผู้คนให้ความสนใจสอบถามตลอดเวลา
แต่ที่สำคัญเด็ก ๆ ในชุมชนเริ่มนำว่าวไปเล่นบริเวณทุ่งนาทุกวัน
ผู้สูงอายุมีความจำเป็นต้องทำว่าวให้กับลูกหลาน
เกิดการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน
ผู้คนในชุมชนพูดคุยเรื่องว่าวกันมากขึ้น
ผมเองเมื่อตอนตกปากรับคำ
ตาบุก
คิดเพียงว่าอยากเห็นวิถีดังเดิมของชุมชน อยากเห็น
ตาบุกซึ่งเป็นคนพลัดถิ่นจากจังหวัดสุรินทร์
อพยพมาขายแรงงานอยู่ที่บ้านจำรุงเมื่อสามสิบปีก่อน
ได้ทำในสิ่งที่เขารัก
แต่เมื่อได้ลงมือดำเนินการ
จัดการเรื่องของการแข่งขันว่าว
ได้รับการตอบรับจากชุมชนอย่างดียิ่ง วิทยุชุมชนบ้านจำรุง
ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์เรื่องของว่าวทุกวัน
กลุ่มรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นอาสาเป็นผู้ดำเนินการจัดแข่งขัน
เครือข่ายองค์กรชุมชนบ้านจำรุงทำหน้าที่ประสานงานกลาง
ผู้สูงอายุในชุมชนต้องคอยตอบคำถามเด็ก ๆ ในเรื่องของว่าวสองพี่น้อง
ได้เห็นความร่วมมือกันในชุมชนอย่างแข็งขัน เด็ก ๆ
นำว่าวไปเล่นที่ทุ่งนาทุกวัน แค่เตรียมการ
ทุกคนก็มีความสุขแล้ว
เป็นความสุขที่ไม่ต้องใช้เงินตรา
และคนที่มีความสุขที่สุดน่าจะเป็น
ตาบุกนั่นเอง
8 -9 เมษายน ได้ฤกษ์ในการประชันว่าวสองพี่น้อง
เราแบ่งการแข่งขันเป็น 3 ประเภท มีประเภทสวยงาม / เสียงดี / ขึ้นสูง
มีนักเลงว่าวมาจากหลายพื้นที่
ทั้งหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างหนองแพงพวย วังหิน ทะเลน้อย บ้านนา
หรือมาจากต่างจังหวัด อย่างจังหวัดจันทบุรีก็มา
ทุกอย่างพร้อม แต่ปรากฏว่า
คืนวันศุกร์ก่อนการแข่งขันว่าว ฝนตกลงมา
ทำให้วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นเช้าวันเสาร์
อากาศมีความชื้นลมไม่พัดเท่าที่ควร
นักเลงว่าวที่เดินทางมา ต่างผิดหวังไปตาม ๆ
กัน ไม่สามารถนำว่าวขึ้นโชว์ได้ มีปัญหาเรื่องลม
เราต้องรอลมกันทั้งวันไม่สามารถแข่งขันได้
พวกเราหลายคนภาวนาว่าวันรุ่งขึ้นลมคงจะดี
วันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์
ทุกคนนำว่าวมากันอย่างพร้อมเพรียง
ปรากฏว่าแย่กว่าเมื่อวานท้องฟ้ามีสภาพครึ้มฟ้าครึ้มฝน
ทำให้ลมไม่แรงพอที่จะเล่นว่าวสองพี่น้อง
ซึ่งเป็นว่าวที่ต้องการลมแรงกว่าปกติ จึงไม่สามารถโชว์ได้
แต่ว่าวประเภทอื่น ๆ ได้เล่นกันเป็นที่สนุกสนาน เด็ก ๆ
มีความสุขกันมาก ทุกคนมีรอยยิ้ม บางคนหัวเราะจากการบรรยายของผู้บรรยาย
ในลักษณะของว่าวแต่ละตัว
เราได้เห็นวิถีของชุมชน
ได้เห็นนักเลงว่าพูดคุยกันอย่างมีความสุข
ในเรื่องของว่าวที่ตัวนำมา เรื่องของลูกร้อง
(เป็นต้นกำเนิดของเสียงนำติดไว้ที่บริเวณส่วนหัวของว่าสองพี่น้อง)
ที่ทำมาจากต้นหวาย
แม้ว่าปีนี้
เราไม่สามารถแข่งขันว่าวสองพี่น้องได้
เพราะติดเรื่องของสภาพอากาศไม่อำนวย
แต่ชุมชนบ้านจำรุง
ได้ร่วมกันแสดงตัวตนของคนบ้านจำรุงออกมาอีกครั้ง
ทุกคนได้ร่วมกันทำงานอย่างเข้มแข็ง และเต็มใจ
มีความสุขจากการได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน
และยืนยันว่าปีหน้าเราจัดกิจกรรมว่าวอีกแน่นอน
ชาติชาย เหลืองเจริญ บ้านจำรุง 10 เมษายน 49