บนถนนคนมีธรรม


ความเกรงใจ

         ข้าพเจ้าเรียนป.โท อยู่ ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อวานข้าพเจ้าไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาที่มหาวิทยาลัยเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องการสร้างเครื่องมือ  อาจารย์นัดข้าพเจ้าเวลา  15.00 น. ข้าพเจ้าไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย  เพื่อเตรียมความพร้อม เมื่อไปถึงที่ห้่องอาจารย์พบว่าท่านไม่อยู่ จึงโทร.หา ท่านให้ข้าพเจ้าไปพบที่สภาคณาจารย์  (ข้าพเจ้าเรียนที่ม.นี้ทั้งตรี และโท ยังไม่ทราบเลยว่าอยู่ตรงไหนเนื่องจากม.เปลี่ยนแปลงไปมาก) จึงสอบถามเส้นทาง  และไปยังที่นัดหมาย 

           ข้าพเจ้าพบว่าอาจารย์ยังคุยอยู่กับอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ข้าพเจ้าจึงรอ และมองบรรยากาศรอบ ๆ ชั้นที่ข้าพเจ้ายืนอยู่เป็นชั้นล่าง เป็นสถานที่สำหรับให้อาจารย์ได้พักผ่อน ดื่มชา กาแฟ มีร้านถ่ายเอกสารและมีห้องที่เป็นของอาจารย์อย่างเป็นสัดส่วนน่าจะจัดไว้สำหรับประชุมย่อย ๆ แต่เมื่อสังเกตพบว่า คนที่เข้ามาพักผ่อนนั้น ไม่น่าจะใช่คณาจารย์ น่าจะเป็นนักศึกษา แปลกดีเหมือนกันข้าพเจ้าคิดในใจ  สักพักอาจารย์โทร.ให้ข้าพเจ้าเข้าไปพบ  เมื่อปรึกษาวิทยานิพนธ์ได้ระยะหนึ่ง ปรากฏว่ามีนักศึกษาเข้ามาในห้องที่ข้าพเจ้าและอาจารย์นั่งอยู่ และเอ่ยปากขอยืมเก้าอี้ อาจารย์ของข้าพเจ้าถึงกับงงว่า เข้ามาได้อย่างไร ในเมื่อห้องนี้เป็นห้องของคณาจารย์

           ตรงนี้แหละที่ข้าพเจ้าถึงกับกระจ่าง ป้ายหน้าอาคารเขียนว่า "สภาคณาจารย์" แต่กลับมีแต่นักศึกษาที่ไม่ทราบว่าเป็นป.ตรี หรือป.โท ป.เอก เข้ามาใช้บริการปะปนกันไปหมดแถมยังเข้ามาละเมิดสิทธิ์ของอาจารย์เป็นการไม่สมควรยิ่ง ทุกวันนี้ความเกรงใจนั้นหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร  คนมักจะเคยชินกับการทำอะไรตามใจตนเอง ในเมื่อไม่มีใครเอ่ยปาก ว่าอะไร เขาก็ทำตามอำเภอใจ ไปเรื่อย ๆ สิ่งที่พบอีกบ่อย ๆ คือ การแซงคิว มักจะมั่ว ๆ เดินไม่เป็นแถวแล้วแซงคิวผู้อื่น ตรงนี้ถ้าหากทุกคนตระหนักในใจว่าคนที่มาก่อนได้ก่อน มาหลังได้ทีหลัง คงจะดี

          เช่นกัน สิ่งเหล่านนี้เรียกว่าความเกรงใจ ซึ่งหาได้ยากยิ่ง  ข้าพเจ้าเคยมีโอกาสได้สอนในโรงเรียนสองภาษาแห่งหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าก็พอจะสนทนาภาษาอังกฤษได้บ้างพอเข้าใจ ครูต่างชาติบอกกับข้าพเจ้าว่าสิ่งที่คนไทยมีแต่ต่างชาติไม่มี คือ ความเกรงใจ และถ้ามองให้ลึกในความเกรงใจนี้ทำให้สังคมไทยแต่เก่าก่อนอยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย แม้จะมีข้อเสียอยู่บ้างในด้านการปกครอง แต่ก็ทำให้คนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข และมีน้ำใจให้กันเสมอมา

         เราควรตระหนักถึงคำว่า ความเกรงใจกันไหม ? ท่านคิดเห็นเป็นประการใด

หมายเลขบันทึก: 277626เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2009 08:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แวะมาอ่านบันทึกสิ่งที่ดีๆ และมีคุณธรรม

สวัสดีครับ คุณวีระพร

        ผมคนหนึ่งที่ชอบเดินบนถนนคนมีธรรม แต่ชอบเดินคนเดียว อ่านบันทึกคุณแล้ว ให้นึกถึงกระทรวงวัฒนธรรม ไม่ทราบจะมีอะไร มีวิธีไหนจะสร้างมนุษย์ขึ้นมาได้บ้าง โครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ของแต่ละมหาวิทยาลัย น่าจะหันมาให้ความสนใจกันมากหน่อย งบประมาณที่เอามาแข่งขันกันสร้างวัตถุเสียใหญ๋โต น่าจะเอามาสร้างตรงส่วนนี้มากกว่า.

       

ขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่าน ช่วยกันคิด วันละนิด ปกิบัติให้เกิดผล เริ่มต้นจากตนเองให้เป็นปกติวิสัย บอกลูกหลานคนใกล้ชิดคงจะได้ผลเพิ่มมากขึ้น เข้มงวดกันหน่อยกับลูกหลานของท่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท