HRM ย่อมาจาก Human Resource Management ส่วน HRD ย่อมาจาก Human Resource Development
HRM เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะถ้าเราไม่สามารถ "Manage" เรื่องนี้ได้อย่างมี "ประสิทธิภาพ" ก็จะทำให้การดำเนินการต่างๆเป็นไปอย่างไม่มี "ประสิทธิผล" ตัวอย่างเช่น หากการปรับเงินเดือนไม่สัมพันธ์กับ "ผลสัมฤทธิ์" ของงาน หรือ "Performance" ของผู้ปฏิบัติงาน ในที่สุดองค์กรก็จะเสื่อมสมรรถนะลง (Low Performance) ผู้ปฏิบัติงานขาดความกระตือรือร้น เกิดวัฒนธรรมที่ว่า "เมื่อปีที่แล้วเพิ่งได้ 2 ขั้น ปีนี้ผลัดเปลี่ยนให้คนอื่นบ้างก็แล้วกัน" อะไรๆในทำนองนี้
เจ้าของบทความกล่าวว่า "สิ่งที่ผมพยายามเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งแรกก็คือ การจัดระบบ HR ใหม่ ผมต้องการให้ระบบการปรับเงินเดือนนั้นสัมพันธ์กับสมรรถนะการปฏิบัติงาน และอย่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม"
ในรอบปีหนึ่งได้มีการกำหนดให้ผู้ที่อยู่ในระดับหัวหน้าจะต้องทำการประเมิน "สมรรถนะและผลการปฏิบัติงาน" ของผู้ที่อยู่ในสังกัด ฝ่ายบุคคล/HR จะต้องนำข้อมูลนั้นมาประมวลผลในตอนที่จะต้องเสนอการปรับขึ้นเงินเดือน เราใช้เวลาค่อนข้างมากไปกับการวัด การประเมิน การให้คะแนน และการเสนอตัวเลขเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น หากระบบดี มีความชัดเจน มีตัวชี้วัดที่ละเอียด และมีการประเมินที่เที่ยงธรรม ก็จะนำมาซึ่งการยอมรับของผู้ที่ถูกประเมิน แต่ในความเป็นจริง หาได้เป็นเช่นนั้นไม่!! สัจธรรมที่ได้ก็คือ "ไม่มีการปรับเงินเดือนครั้งใด จะเป็นที่พอใจแก่ทุกคน"
ข้อคิดเห็น มีความคิดเห็นเช่นเดียวกับเจ้าของบทความที่นำเสนอ การรื้อระบบการปรับเงินเดือนโดยการหมุนเวียนนั้นควรยกเลิก แต่ควรมีการประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงาน และเน้นความเป็นธรรม อย่าประเมินจากความถูกใจ ความถูกต้อง ต้องมาก่อน
ที่มา [email protected]
พี่ณี ผมแวะมาอ่านแล้วครับ บทความดีมากครับ
ทำงานดีแต่ไม่เข้าตากรรมการ เห็นควรเปลี่ยนระบบนี้จริง ๆ
จริงๆแล้วน่าจะเกณฑ์ ผู้บริหารหลายคน อ่านหรือไปอบรมอีกถ้าหู.....ไม่มีความถ่วงจำเพาะ
คนเราต่างจิตใจ ต่างความรู้สึกนึกคิด ไม่มีใครสามารถทำสิ่งใดให้ทุกคนพอใจได้หรอกค่ะ ขอเพียงแต่ทำแล้วให้มีคนไม่พอใจน้อยที่สุดก็ดีแล้ว เพราะ "คน" ก็คือ "คน" ในอีกความหมายหนึ่งเป็นคำกริยา มันแปลว่า "ยุ่ง" นะคะ
มืข่าวดี...ดร.ดิศกุลสอนตามปกติ
ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมนะคะ
ผลประโยชน์ พวกพ้อง กับคุณธรรม แยกกันชัดเจนคะพี่ บางคนทำงานแทบตาย แต่ไม่เข้าตากรรมการก็มีมากมายนะคะ