คิดบวกเพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาง่ายขึ้น


มุมมองของท่านต่อปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการแก้ไขปัญหา

จากการอ่านบทความจากนิตยสาร"คนทำงาน"ในเรื่องคิดบวก(Positive Thinking)เพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาง่ายขึ้น สรุปความได้ว่าการแก้ไขปัญหาเหมือนกับการวางแผนการดำเนินงานโดยจะต้องเริ่มต้นให้ดีก่อนเหมือนคำพูดที่ว่า "วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง"

ดังนั้นเริ่มต้นปัญหาด้วยการมองในมุมบวกการแก้ไขปัญหาก็จะดูง่ายขึ้น ปัญหาก็ดูจะมีทางออก ผู้ร่วมงานก็จะรู้สึกดีไม่รู้สึกกดดันส่งผลทำให้บรรยากาศการทำงาน ไม่ตึงเครียด ผู้ที่ทำงานด้วยก็จะรู้สึกดี ในทางตรงกันข้ามถ้าเราเริ่มต้นด้วยการมองมุมลบ โลกทั้งโลกดูมืดไปหมดปัญหาดูยากขึ้นไปทันทีแนวทางแก้ไขก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ผู้ร่วมงานก็รู้สึกกดดัน บรรยากาศการทำงานอึมครึมจะทำอะไรก็ดูยากไปหมด ผู้เขียนได้สรุปปัญหาได้ 2 มุมใหญ่ ๆ คือมุมลบและมุมบวกซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้ดังนี้ เช่น

ความคิดที่มองมุมลบ

1. น่าเบื่อมาก ๆ

2. เกิดขึ้นอีกแล้วหรือเนี่ย

3. ทำไมต้องเป็นเราในการแก้ปัญหา

4. ทำไมไม่มีใครมาช่วยเราแก้ไขปัญหานี้บ้าง

ความคิดที่มองในมุมบวก

1. เป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถ

2. ทุกปัญหามีทางออกเสมอ เราทำได้

 3.สนุกดีมีอะไรให้ทำอีกแล้ว

4.ได้มีโอกาสพบเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆและได้ศึกษา ค้นหา ทดลองอะไรใหม่ ๆ

การแสดงออกที่มองในมุมลบ                    การแสดงออกที่มองในมุมบวก

1.โวยวายน่าเบื่อมากๆ                          1.  วิเคราะห์ข้อมูลด้วยความรอบคอบ       

2. โมโหง่าย(จุดเดือดต่ำ)                      2.  ใจเย็น 

3. ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี                       3. ควบคุมอารณ์ได้ดี

4. ตื่นตระหนกทำให้ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล 4.นิ่ง วิเคราะห์ด้วยเหตุและผล

5.ลน(ไม่นิ่ง)ขาดความน่าเชื่อถือ      5.มีความน่าเชื่อถือและสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

      ดิฉันอยากจะฝากข้อคิดของ ท่าน ว.วชิรเมธี เรื่อง คิดบวก ชีวิตบวก เพื่อจะทำให้ท่านมีแรงที่จะต่อสู้กับชีวิตต่อไปค่ะ

1.เวลาเจองานหนักให้บอกให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ

2. เวลาเจอปัญหาซับซ้อนให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ

3. เวลาเจอความทุกข์หนักให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนิน  ชีวิต

4. เวลาเจอคนตำหนิให้บอกกับตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ

5. เวลาเจอคนนินทาให้บอกกับตัวเองว่า นี่คือการสะท้อนว่าเรายังเป็นคนที่มีความหมาย        

6. เวลาเจอความผิดหวังให้บอกกับตัวเองว่า นี่คือวิธีธรรมชาติกำลังสร้างภูมคุ้มกันให้กับชีวิต

7. เวลาเจอความป่วยไข้ให้บอกกับตัวเองว่า นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี

8. เวลาเจอความพลัดพรากให้บอกกับตัวเองว่า นี่คือบทเรียนของการรู้จักหยัดยืนด้วยขาของตนเอง

9. เวลาเจอลูกหัวดื้อให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสทองของการพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง

10. เวลาเจอแฟนทิ้งให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนิจจังที่ทุกชีวิตมีโอกาสพานพบ

11. เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้วให้บอกตัวเองว่า นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวัง

12. เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจให้บอกตัวเองว่า นี่คือความอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง

13. เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อนให้บอกตัวเองว่า นี่คืออุทาหรณ์ของชีวิตที่ไม่น่าเจริญรอยตาม

14. เวลาเจอคนเลวให้บอกตัวเองว่า นี่คือตัวอย่างชีวิตที่ไม่พึงประสงค์

15. เวลาเจออุบัติเหตุให้บอกตัวเองว่า นี่คือคำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด

16. เวลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้งให้บอกตัวเองว่า นี่คือบททดสอบว่า “มารไม่มีบารมีไม่เกิด”

17. เวลาเจอวิกฤตให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทพิสูจน์สัจธรรม”ในวิกฤตย่อมมีโอกาส”

18. เวลาเจอความจนให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต

19. เวลาเจอความตายให้บอกตัวเองว่า นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์

สรุปได้ว่าเมื่อพบปัญหาที่เกิดขึ้น สิ่งแรกต้องมี สติ ไม่วิตกกังวล เพื่อทำให้มีสมาธิ มองปัญหาให้ออกว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร หาข้อมูลให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ หาสาเหตุและแนวทางแก้ไขโดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือมุมมองของท่านต่อปัญหาที่เกิดขึ้น จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการแก้ไขปัญหาและการที่จะเลือกมองมุมใดนั้นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักอยู่สองประการคือ หนึ่ง สภาพแวดล้อม หรือสถานการณ์ ณ ขณะนั้น สอง ควรฝึกฝนจนสามารถมองอะไรเป็นแง่บวกโดยถ้าท่านหมั่นฝึกฝนจนมีความชำนาญ นอกจากปัญหาที่สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายแล้วชีวิตของท่านก็จะมีความสุขแน่นอน

ทีมา http://www.siaminfobiz.com/mambo/content/view

 

หมายเลขบันทึก: 273831เขียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2009 21:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 15:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

มองโลกในแง่ดีชีวิตก็มีสุขเห็นด้วยค่ะครูเปิ้ล

ผมเองก็จบบริหารราม ร่น 12 นี่เอง

ผมอยากให้ผ้ที่มีประสบการณ์ด้านบริหารและมีความสำเร็จได้แสดงความคิดเห็นหรือ เล่าถึงการดำเนินงานมาส่ความสำเร็จ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผ้ที่สนใจเพิ่มพูนความร้ ประสบการณ์

กว่าจะมาเจอกันได้นะพี่เปิ้ล add ไม่ได้เลย เมื่อเจอกันแล้วต้องขอชมผลงานหน่อยนะค่ะ

บทความน่าสนใจมากค่ะ การคิดในแง่บวกเป็นประโยชน์แก่ตัวเราแล้ว ยังทำให้คนที่อยู่รอบข้างเราหรือ ทำงานร่วมกับเราได้อย่างสบายใจ ผู้บริหารแบบนี้ได้ใจลูกน้องแถบทุกราย มีทั้งบารมี มีทั้งกำลังพล

จะแวะมาเยี่ยมบ่อยๆ นะค่ะพี่เปิ้ลชอบมากค่ะได้ความรู้ดี

น้องโอ๋จ๊า

สวัสดีค่ะ ครูเปิ้ล

ปาล์ม ม.3/1 รายงานตัวค่ะ

มาแสดงความคิดเห็นให้แล้วนะคะ

เรียนท่านอาจารย์จินพร "คิดเชิงบวก สะดวก สร้างสรรค์ ครับ"

ขอขอบคุณแง่คิดดีดีที่นำมาเสนอครับ

สวัสดีคะ ครูเปิ้ล

มารายงานตัวคะ ม.3/1

คิดบวกเข้าไว้ ใจจะได้เป็นสุข ^^

เห็นด้วยกับบทความของครูเปิ้ลค่ะ ถ้าคิดดีและรอบคอบปัญหาจะหนักหนาเพียงใดเราก็ฝ่าฟันไปได้

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านผลงานค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท