เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ สร้างความห่วงใยให้กับคนไทยทั้งชาติ หลายฝ่ายได้ช่วยกันเสียสละ ให้ความร่วมมือช่วยเหลือตามวิถีทางของตนในรูปแบบต่างๆ เท่าที่สามารถจะทำได้ ชมรมข้าราชการและครูอาวุโสของกระทรวงศึกษาธิการ (ช.อ.ศ.) ก็มีความห่วงใยในสถานการณ์ไม่น้อยกว่าฝ่ายอื่นๆ เพราะเราเป็นชมรมที่เกิดจากการรวมตัวของข้าราชการอาวุโสและครู ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ส่วนมากก็เกษียณราชการแล้ว เราเคยทำงานการศึกษา ใกล้ชิดกับเด็กและเยาวชน เรามีความห่วงใยเป็นพิเศษกับเด็กและเยาวชนของชาติในภาคใต้ ว่าเขาเรียนหนังสือกันอย่างไร ครูลำบากมากน้อยแค่ไหน มีขวัญและกำลังใจเหลืออยู่เพียงใด
ด้วยความห่วงใยดังกล่าว ชมรมจึงได้จัดโครงการสร้างขวัญและให้กำลังใจกับครูในภาคใต้ ชายแดน เช่นในปีพ.ศ.2550 ได้ร่วมกับชมรมกอล์ฟกระทรวงศึกษาธิการ จัดหาเงินช่วยเหลือครูภาคใต้ที่เดือดร้อนเนื่องจากเหตุการความไม่สงบ ได้เงินส่งไป 1,000,000 บาท และได้ตามไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนและครูในปี 2551
และเมื่อเร็วๆนี้ คือเมื่อวันที่ 20-22 มกราคม 2552 ชมรมฯ โดยความสนับสนุนของเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อให้ขวัญและกำลังใจแก่ครูในภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง ผู้ไปทุกคนล้วนเคยเป็นผู้บริหาร หรือนักวิชาการระดับสูงของกระทรวง ฯและครูเก่า รวมทั้งสิ้น 8 คน แถมมีเจ้าหน้าที่จาก สพฐ ไปด้วยอีก 2 คน คณะจึงนับรวมได้ 10 คนพอดี ทุกคนมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะไปเยี่ยมโรงเรียนในเขตพื้นที่ความไม่สงบให้ได้ โดยไม่กลัวภัยอันตรายใดๆ จะว่าไม่กลัวก็ไม่เชิงเสียทีเดียว อาจารย์ศิริ รอดบุญธรรม อดีตผู้อำนวยการวิทยาเขตราชมงคลพระนครศรีอยุธยา ที่ร่วมเดินทางไปด้วย (อาจารย์ศิริ อายุสัก 76 ปี เห็นจะได้) เปิดเผยความในใจหลังจากกลับมาแล้วว่า
ผมตื่นเต้นเมื่อเครื่องบินถึงสนามบินหาดใหญ่ แต่พอลงไปเห็นทุกอย่างเรียบร้อย มีคนมาดูแลต้อนรับ และไม่มีอะไรน่ากลัว ก็สบายใจขึ้น
อาจารย์ศิริคงจะกลัวๆกล้าๆ แต่มีความกล้ามากกว่าความกลัว
คณะเดินทางถึงสนามบินหาดใหญ่ตอนเช้า แล้วขึ้นรถตู้โดยสารที่ทางเขตพื้นที่การศึกษาสงขลาเขต 3 ที่อาจารย์ศลใจ ผู้อำนวยการเขตจัดเตรียมให้ รับไปที่อำเภอสะบ้าย้อยของสงขลาทันที เรามุ่งไปโรงเรียนสะบ้าย้อยวิทยาซึ่ง เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา อยู่ใกล้กับที่ว่าการอำเภอ แต่ที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ซุ่มยิงจนทหารหาญต้องพลีชีพกันหลายคน ชมรมฯเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง มามอบเงินเพื่อจัดระบบบริหารห้องสมุดอิเล็กโทรนิกส์ ตอนนี้ระบบบริหารห้องสมุดที่เรียกว่า E-library เสร็จแล้ว เราชื่นชมในความพยายามจัดห้องสมุดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ได้อย่างดี ภายใต้สถานการณ์ยากลำบาก มาคราวนี้เลยมามอบเกียรติคุณบัตร ของมูลนิธีศาสตราจารย์ดร.ก่อ สวัสดิพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมการอ่านไว้ให้ คิดว่าถ้าดร.ก่อ ยังมีชีวิตอยู่ ท่านคงจะชื่นใจที่เห็นครู นักเรียน ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษามารับเกียรติคุณบัตรกันมากมาย โรงเรียนดีใจที่คนมาเยี่ยม โรงเรียนเตรียมการต้อนรับอย่างดี เด็กนักเรียนที่นี่เก่งมาก นำคณะชมโรงเรียนได้อย่างคล่องแคล่ว นำผลงานมาอวด แถมจบรายการด้วยการนำข้าวยำมาเลี้ยง ทำให้คณะอิ่มท้องไปตามๆกัน ผมติดใจในฝีมือเข้าไปในครัวถามหาคนทำ ปรากฏว่าคนทำเป็นคนเหนือ เป็นคนเชียงใหม่ มาเป็นสะใภ้คนใต้อยู่นาน เลยเกิดความเชี่ยวชาญเรื่องการทำอาหารแบบใต้ เป็นอย่างนั้นไป
วันรุ่งขึ้นคณะได้เดินทางไปจังหวัดนราธิวาส ไปเยี่ยมโครงการรินน้ำใจสู่ใต้พี่ช่วยน้อง ฟังชื่อคงไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร คงต้องอธิบายกันเล็กน้อย โครงการนี้เป็นการนำครูโรงเรียนมัธยมศึกษาจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียงไปช่วยติวให้นักเรียนภาคใต้ ที่ไปพบและพอจำได้ก็มี เช่นจากโรงเรีนสวนกุหลาบนนทบุรี ภปร.ราชวิทยาลัยนครปฐม ระยองวิทยาคม เป็นต้น ผู้บริหารโรงเรียนก็ไป ครูก็ไป เห็นบรรยากาศในห้องเรียนแล้วประทับใจผู้ไปเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง นักเรียนมาจากที่ต่างๆ มาฟังคำบรรยายแน่นห้องเรียน ทุกคนตั้งใจฟังครูสอน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหญิง คลุมผม แสดงว่าเป็นมุสลิม ดังนั้นที่ใครว่าสตรีมุสลิมไม่ค่อยสนใจการศึกษานั้นไม่เป็นความจริงเลย เมื่อลองคุยกับนักเรียนดู พบว่านักเรียนมีความมุ่งมั่นกับการเรียนมาก ชมว่าครูที่มาสอนดี ได้ความรู้มาก ทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับการเตรียมสอบคัดเลือกในสาขาที่ชอบยิ่งขึ้น ลองคุยกับครูที่ไปสอน เช่น อาจารย์สมลักษณ์ จากโรงเรียนเบญจมราชาลัย ครูวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษสาขาเคมี เธอชื่นชมนักเรียนมาก บอกว่าปีหน้าถ้ามีโครงการเช่นนี้จะอาสามาอีก เมื่อถามว่ามาใต้กลัวไหม เธอตอบว่าไม่กลัวเลย
ภาระกิจสำคัญอีกประการหนึ่งในการมาใต้ครั้งนี้ คือการไปเยี่ยมโรงเรียน ฝ่ายจัดได้เตรียมให้ไปเยี่ยมที่โรงเรียนบ้านปาลัส ที่จังหวัดปัตตานี โรงเรียนนี้ต้องแยกจากถนนใหญ่ไปถนนย่อยสัก4-5 กม. ขณะที่คุยกันมาในรถเพลินๆ ก็มีคนเปรยว่า เมื่อตอนขามาไม่มีรถทหารนำ แต่ทำไมตอนนี้จึงมีทหารนำ พูดได้ไม่เท่าไร รถก็เริ่มแยกจากถนนใหญ่ หลายคนจึงร้องอ๋อเข้าใจ ว่าเป็นภาระกิจของทหารที่จะต้องดูแลความปลอดภัย ดังนั้นที่หลายคนคิดว่าเรามากันเงียบๆ ไม่มีใครทราบนั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด
ที่โรงเรียนบ้านปาลัส ผมได้พบกับผู้บริหารและครูจากโรงเรียนเครือข่าย ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา และนักเรียน คณะฯมีสมุดหนังสือและขนมมาฝากนักเรียน โรงเรียนนี้จัดการศึกษาตั้งแต่อนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 มีนักเรียน 300 คนเศษ ฟังการบรรยายแล้วรู้สึกว่าครูมีความยากลำบากในการทำงานพอสมควร เพราะชาวบ้านยากจน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1-3 ซึ่งเป็นการเปิดแบบขยายโอกาส มีนักเรียนเพียง 16 คน ในขณะที่ชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษามี 300 คน ถามว่าเหตุใดเด็กจึงไม่เรียนต่อ คำตอบคือเด็กไปเรียนต่อโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงเหลือนักเรียนน้อย คงต้องเป็นปัญหาให้กระทรวงศึกษาธิการคิดว่าจะแก้ปัญหาเช่นนี้ได้อย่างไร
โรงเรียนนี้ยังขาดแคลนหลายอย่าง ฟังว่าทั้งโรงเรียนมีคอมพิวเตอร์เพียง 2 เครื่อง เวลาฝนตกหนักน้ำจะท่วมโรงเรียน เพราะอาคารเรียนสร้างมานาน ในขณะที่รอบข้างถมดินยกระดับสูงขึ้น ทำให้พื้นห้องเรียนอยู่ต่ำกว่าสนามหญ้า ถึงกระนั้นเด็กทุกคนร่าเริงแจ่มใส ผู้ปกครองให้ความสนใจกับโรงเรียนดีมาก แต่ก็คงช่วยโรงเรียนได้ไม่มากนัก เพราะฐานะค่อนข้างยากจน และผู้ปกครองมีการศึกษาน้อย
กำลังชมโรงเรียนกันเพลินๆ มีคนมากระซิบว่า โรงเรียนนี้มีลวดหนามแบบทหารใช้ ล้อมไว้ ชาวบ้านกระซิบบอกว่าเมื่อไม่กี่วันนี้มีคนจะมาเผาโรงเรียน ชาวบ้านเห็นเสียก่อนจึงช่วยกันไว้ได้ และทำให้ผู้มาก่อความเดือดร้อนเสียชีวิตไป 2 คน ผู้ตรวจราชการกระทรวง คุณประดิษฐ์ ได้ยินเข้าก็บอกว่า ไม่ต้องกลัวอะไรหรอก รถผมมีเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ รับรองไม่มีการระเบิด พวกเราก็มองหน้ากันเหมือนจะตั้งคำถามว่า จริงหรือ
มาครั้งนี้ ทุกคนมีความรู้สึกตรงกันว่า ครูใต้ต้องการขวัญและกำลังใจ นักเรียนใต้ก็ใฝ่ใจต่อการศึกษาไม่น้อยกว่าที่อื่นๆ เราภูมิใจที่ได้อาสามาทำหน้าที่ให้กำลังใจต่อครูใต้ และจะกลับไปบอกให้คนอื่นมาช่วยด้วย ส่วนคณะของชมรมข้าราชการและครูอาวุโสของกระทรวงศึกษาธิการนั้น จะมาอีกอย่างแน่นอน
ดร.พนม พงษ์ไพบูลย์
ประธานชมรมข้าราชการและครูอาวุโส
ของกระทรวงศึกษาธิการ
ไม่มีความเห็น