ชื่อเรื่อง การพัฒนากลุ่มขนมจีนสมุนไพรสู่เศรษฐกิจพอเพียง บ้านเหล่าราษฎร์พัฒนา
หมู่ที่ 11 ตำบลประชาพัฒนา อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม
ผู้วิจัย สถิตย์ แท่นทอง ผุ้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
ผู้อำนวยการศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอวาปีปทุม ตำบลหนองแสง
อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม 44120
ปีพิมพ์ 2551
บทคัดย่อ
การวิจัยการพัฒนากลุ่มองค์กรชุมชนแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง บ้านเหล่าราษฎร์พัฒนา หมู่ที่ 11 ตำบลประชาพัฒนา อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน 3 ประเด็นหลักๆ คือ 1) เพื่อศึกษาบริบททั่วไปของบ้านเหล่าราษฎร์พัฒนาที่ส่งผลต่อการดำเนินงานพัฒนากลุ่มองค์กรชุมชนแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง 2) เพื่อพัฒนากลุ่มองค์กรชุมชนในการบริหารจัดการสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง 3) เพื่อประเมินศักยภาพของกลุ่มองค์กรชุมชนแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเหล่าราษฎร์พัฒนาในการศึกษาในครั้งนี้ ใช้วิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการ แบบมีส่วนร่วม ( Participatory Action Research) เป็นหลัก โดยนำวิธีการและเครื่องมือวิจัยที่หลากหลายมาใช้ในการศึกษาทั้งการศึกษาจากเอกสาร และการศึกษาข้อมูลภาคสนาม การลงมือปฏิบัติ การสังเกตการสะท้อนกลับ ปรับปรุงพัฒนากิจกรรมของกลุ่ม ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากผู้รู้ประเภทต่าง ๆ ทั้งผู้ที่มีบทบาทภายในและนอกชุมชนเหล่าราษฎร์พัฒนา พื้นที่ในการศึกษา บ้านเหล่าราษฎร์พัฒนา หมู่ที่ 11 ตำบลประชาพัฒนา อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มเป้าหมายและกลุ่มผู้ร่วมวิจัย แยกเป็นผู้วิจัยหลัก คือ ผู้อำนวยการศูนย์บริการการศึกษานอกอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 คน ผู้วิจัยร่วม จำนวน 2 คน คือ ครูอาสาศูนย์การบริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอวาปีปทุม และนักวิจัยชาวบ้าน จำนวน 20 คน คือ ผู้นำที่เป็นทางการ จำนวน 5 คน ผู้นำที่ไม่เป็นทางการได้แก่ผู้นำกลุ่มอาชีพ จำนวน 5 คน ตัวแทนกลุ่มองค์กรชุมชน 10 คน รวม 20 คน รวมจำนวนทั้งหมด 22 คน ขั้นตอนการศึกษาครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ซึ่งปรับปรุงมา
จาก ฉลาด จันทรสมบัติ (2547 : 9) มาสรุปกำหนดขั้นตอนการวิจัย 3 ระยะ คือ ศึกษาชุมชนและการประเมินก่อนการดำเนินงานโครงการ ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการประเมินระหว่างการดำเนินงานโครงการ การสรุปบทเรียนและประเมินผลหลังการดำเนินงานโครงการ
สรุปผลการวิจัย
ด้านบริบทชุมชน บ้านเหล่าราษฎร์พัฒนา มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 74 หลังคาเรือน ประชากร 329 คน แยกเป็น ชาย 172 คน หญิง 157 คน มีการตั้งถิ่นฐานและความเป็นอยู่เหมือนกับชุมชนชนบทอีสานทั่วๆ ด้านเศรษฐกิจประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักทำนา
ด้านการศึกษาบริบทชุมนาที่ส่งผลต่อการดำเนินงานพัฒนากลุ่มองค์กรชุมชนแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินงานในระยะผู้วิจัยใช้วิธีการศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง และลงพื้นที่เพื่อพบปะกลุ่มองค์กรชุมชนเป้าหมาย โดยมีขั้นการดำเนินงาน คือ ศึกษาชุมชนและค้นหาทีมแกนนำ จัดทำแผนการดำเนินงานการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของกลุ่มองค์กรชุมชนในการพัฒนาองค์กรชุมชนแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง จัดทำเครื่องมือตัวชี้วัดความสำเร็จในการดำเนินงาน และประเมินผลกลุ่มองค์กรชุมชนก่อนการดำเนินงาน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ผู้วิจัยจะนำไปวางแผนพัฒนากลุ่มในขั้นตอนต่อไป
ด้านการพัฒนากลุ่มองค์กรชุมชนในการบริหารจัดการสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง หลังจากที่ผู้วิจัยได้ทราบบริบทและสถานการณ์ของชุมชนและกลุ่มองค์กรเป้าหมาย จึงได้ผลักดันให้กลุ่มองค์กรได้นำแผนการพัฒนากลุ่มองค์กรชุมชนแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้อย่างจริงจัง โดยมีขั้นตอนการดำเนินงาน คือ สร้างความตระหนักในการดำเนินงาน ด้วยวิธีการจัดกิจกรรมให้กลุ่มองค์กรชุมชนได้ไปศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบในการพึ่งตนเอง ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลให้กลุ่มองค์กรเป้าหมายดำเนินงานได้บรรลุตามเป้าหมายในระดับหนึ่ง สรุปบทเรียนและทบทวนแผนการดำเนินงาน แล้วมีการประเมินผลระหว่างดำเนินงาน ตามแบบประเมินตัวชี้วัดความสำเร็จที่สร้างขึ้น พบว่า โดยภาพรวมกลุ่มแปรรูปขนมจีนสมุนไพรมีพัฒนาการในการดำเนินงานระหว่างดำเนินการอยู่ในระดับสูง
ด้านการประเมินศักยภาพของกลุ่มองค์กรชุมชนแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง
ผู้วิจัยได้ประเมินผลหลังสิ้นสุดโครงการ พบว่า โดยภาพรวมกลุ่มองค์กรชุมชนมีความสามารถต่อการพัฒนากลุ่มองค์กรชุมชนแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง อยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้เพราะกลุ่มยังขาดความรู้และประสบการณ์ในการทำงานทั้งด้านการบริหารจัดการกลุ่ม การผลิต การตลาด และการเงินบัญชี ผู้วิจัยมีความเห็นว่าหากต้องการที่จะพัฒนากลุ่มองค์กรชุมชนแห่งการเรียนรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง ที่เป็นจริงจำเป็นต้องมีการสนับสนุนและพัฒนาไปอีกระยะหนึ่ง
ไม่มีความเห็น