สอนการเก็บน้ำหมักออกจากถัง หลังจากที่มาสาธิสอนการเตรียมวัสดุ วิธีการทำไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ได้ระยะเวลา ๑๕ วันพอดี น้ำหมักแต่ละชนิดครบกำหนดเปิดได้ทุกคนได้เห็นหน้าตาของน้ำหมักแต่ละชนิด
กลับมาแล้วครับการฝึกทักษะการทำอาหารสัตว์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากที่ว่างเว้นไประยะหนึ่ง วันนี้วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๒ (เช่นเคยครับต้องทำหนังสือขออุนุญาต ผอ.ประจำบ้านก่อน อิอิ.) วันนัดหมายของอาจารย์แดง ที่จะมาสอนการเก็บน้ำหมักออกจากถัง หลังจากที่มาสาธิสอนการเตรียมวัสดุ วิธีการทำไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ได้ระยะเวลา ๑๕ วันพอดี น้ำหมักแต่ละชนิดครบกำหนดเปิดได้ทุกคนได้เห็นหน้าตาของน้ำหมักแต่ละชนิด
เริ่มจากการบีบกรองเอาน้ำหมักจากพืชสีเขียวสด โดย อ.แดง ได้ให้ทุกคนลองชิมเพื่อจำกลิ่นและรสเอาไว้ หากผิดจากนี้แสดงว่าเสีย ไม่ลองไม่รู้ บีบแล้วแยกเก็บเศษไว้รอทำอาหารสัตว์ ถัดมาก็น้ำหมักจากผลไม้สุก นำหมักหอยเชอรี่ ก็ทำแบบเดียวกัน
น้ำหมักแต่ละชนิดเอามาเรียงกันรอการเปิดและกรองบรรจุขวด
ลักษณะของน้ำหมักเปลือกไข่ที่เมือกรองแล้วเรียกน้ำแคลเชียม มีกลิ่นเหมือนบ่อน้ำพุร้อนเลย
การกรองเอาน้ำหมักผลไม้
น้องๆนักเรียนช่วยกันบรรจุน้ำหมักทั้ง ๗ ชนิด
คุณจเรและน้องรัชนีกร เขียนชื่อน้ำหมักแต่ละชนิดพร้อมใส่เลขลำดับกำกับเพื่อใช้ทีละขวดตามหมายเลขไม่สับสนเปิดใช้หลายขวดเพราะขวดที่เปิดแล้วใช้ได้แค่ ๔๕ วัน ถ้ายังไม่ด้เปิดเก็บได้ ๓ เดือน
น้ำหมักแต่ละชนิดที่ใส่ขวดเรียบร้อยแล้ว
เรียงตามลำดับให้ดูสีและปริมาณที่ได้เพื่อเป็นแนวคิดเวลาจะทำครั้งต่อไป
กากหอยเชอรี่เอามา ๑ ก.ก.ผสมกับรำละเอียด ๑๐ ก.ก.ราดน้ำหมัก ๗ ชนิด ปั้นเป็นก้อนเป็นอาหารให้ ปลาดุก กบ จระเข้ ตะพาบน้ำ
กากหอยเชอรี่และกากพืชสีเขียว กากผลไม้ กากสมุนไพร ที่แยกกองให้ดูก่อนที่จะสาธิตนำมาคลุกรวมกันใช้เป็นอาหารสัตว์ได้โดยเอาส่วนที่คลุกแล้วมา ๑ ก.ก. ผสมกับรำละเอียด ๑๐ ก.ก.ราดน้ำหมักทั้ง ๗ ชนิด เอาให้หมูไก่กิน
สับต้นกล้วยไว้หมักทำอาหารในคราวต่อไป
อ.แดงสรุปการสาธิตการเก็บให้เข้าใจอีกครั้ง พร้อมกับสั่งการบ้านที่จะต้องเตรียมในวันที่ ๗ กรกฏาคม ๒๕๕๒ ไว้ด้วย