องค์กรอัจฉริยะ19: จากตัวตนสู่องค์กรขยายผลสู่พันธมิตร(2)
จากที่เคยเล่าในบันทึกที่แล้วว่า ผู้เขียนได้รับการติดต่อจากพันโทหญิงวิภาพร วงศ์วนากุล หัวหน้าพยาบาล โรงพยาบาลค่ายพ่อขุนผาเมือง ให้ช่วยเป็นวิทยากรในโครงการ :การประชุมสัมนาสัญจร เรื่องการพัฒนาองค์กร รุ่นที่ 1 และผู้เขียนก็ตกลงยินดีที่จะไปช่วย พวกเราได้เตรียมงานในช่วงสั้นๆ และประชุมจริงจัง 1 ชั่วโมง ในวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2552 พวกเราออกแบบกิจกรรมตามโจทย์ที่ได้รับ โดยรูปแบบกิจกรรมเป็นการนั่งกับพื้นล้อมวงเพื่อเป็นกันเอง อยู่ระดับเดียวกัน ถอดหมวก ถอดยศ แต่ในใจก็กังวลเล็กน้อย เพราะเป็นโรงพยาบาลทหาร แล้วพวกเราก็ให้ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา ชั้นยศต่างกัน นั่งในระแนบเดียวกัน ท้าทายเล็กน้อยว่าจะไปรอดหรือไม่ w ออกแบบกิจกรรมด้วยการสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ด้วยกิจกรรมแบ่งปันความสุขเล็กๆ w ดึงความเป็นตัวตนออกมาจากภาพวาด ด้วยกิจกรรมภาพวาดทายใจ w ให้บุคลากรได้เรียนรู้ตัวตนก่อน เพื่อเข้าใจตนเองและผู้อื่น ด้วยกิจกรรมผู้นำสี่ทิศ w รวมทั้งกิจกรรมที่สอนมากกว่าเรื่องการสื่อสารภายในองค์กร ด้วยกิจกรรม Lego w มีเกมส์และสันทนาการ สอดแทรกเล็กน้อย เพื่อเรียกความตื่นตัวในการเรียนรู้ ในวันที่ 13 มิถุนายน 2552 ผู้เขียนและทีมน้องจี น้องอ้อ น้องจอย เริ่มปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ ออกจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ตอน 06.30 น. ถึงที่จัดโครงการ ประมาณ 08.20 น. จัดเตรียมห้องประชุมตามที่ออกแบบไว้ เริ่มด้วยการเปิดวงโดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายพ่อขุนผาเมือง ต่อจากนั้นผู้เขียนได้ให้ทุกคนบอกความคาดหวังของการมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ หลังจากนั้นก็ทำกิจกรรมตามที่ออกแบบไว้ที่กล่าวไว้ข้างต้น ตอนเย็นมีงานเลี้ยง รวมทั้งโรงพยาบาลแจกรางวัลให้กับบุคลากรของโรงพยาบาล พวกเราขอตัวก่อนเพื่อเตรียมงานในวันต่อไป วันที่ 14 มิถุนายน 2552 ทีมพวกเราได้สรุปภาพกิจกรรมให้ดู เพื่อ จะได้รู้ว่าเพื่อนๆ ที่ออกไปรับผิดชอบหน้าที่ต่างกัน เป็นอย่างไรบ้าง และก็ได้ให้ AAR บอกถึงสิ่งที่น้อยกว่าสิ่งที่คาดหวัง รวมทั้งสิ่งที่มากกว่าที่คาดหวัง ของกิจกรรมที่ผ่านมา 1 วัน ผลก็คือ w ดี/สนุก/ตื่นเต้น/ได้เรียนรู้อะไรมาก w ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น w สนุก/ได้รู้ว่าทุกคนคิดอย่างไร w สนุก/ได้คุยกับเพื่อนบางคนที่ไม่อยากคุยด้วย w รักกันมากขึ้น/สามัคคีกันมากขึ้น w ได้เห็นทุกคนในอีกมุมมอง w กิจกรรมแฝงด้วยความรู้ w รู้จักตัวตนและเพื่อนร่วมงาน w ได้เรียนรู้การทำงานกับทีมอื่นๆ บ้าง w ได้เรียนรู้คนใหม่ๆ w เป็นกันเองมากขึ้น w ชอบสรุปภาพ w มีความสุข/ได้สาระความรู้ w ได้รู้จักนิสัยเพื่อนร่วมงานมากขึ้น w ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ w มีความสุขที่สุดที่ลูกน้องมีความสุข w ได้เห็นรอยยิ้มบางคน ที่ไม่เคยยิ้มแต่ยิ้มได้ w ประทับใจทุกกิจกรรม w ได้ข้อคิดใหม่ๆ w รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้น w รู้สึกเกินความคาดหวัง สุดท้ายพวกเราก็ได้เรียนรู้กับทีมอีกครึ่งวัน ช่วงบ่ายบุคลากรไป Walk Rally โดยทางโรงแรมจัดให้ สำหรับผู้เขียนสิ่งที่น้อยกว่าความคาดหวัง ก็คือ ทางโรงแรมมีความพร้อมน้อยมาก พวกเราไปถึง 08.20 น. กิจกรรมเริ่ม 09.00 น. พอไปถึงทางโรงแรมพึ่งจัดห้องประชุม พวกเราก็คิดว่าไปถึงจะได้นั่งนิ่งๆ ก่อนเริ่มกิจกรรม ปรากฏว่าต้องไปช่วยโรงแรมจัดห้องประชุม เพราะใกล้เวลา จัดตามรูปแบบของพวกเรา ก็ได้เรียนรู้ว่า “ดูซิจะมาเป็นกระบวนกรต้องมาเป็นพนักงานโรงแรมก่อน” สำหรับสิ่งที่เกินความคาดหวัง และประทับใจ ก็คือ ผู้นำ ทั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาล และหัวหน้าพยาบาล ที่อยู่ร่วมกิจกรรมตลอด รวมทั้งร่วมทำกิจกรรมกับบุคลากรด้วย บุคลากรทุกๆ คน ก็เข้าร่วมกิจกรรมอย่างตั้งใจ ไม่หายไปไหน ความเป็นทหารกลับทำให้พวกเราอบอุ่น ไม่น่ากลัวเหมือนที่คิดไว้ แพทย์ที่เข้าร่วมโครงการก็น่ารัก ร่วมทำกิจกรรมตลอดเช่นกัน สิ่งที่ทีมงานได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ก็มาเติมซึ้งกันและกัน ทีมงานได้เรียนรู้จากผู้เข้าร่วมโครงการ ผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้จากพวกเรา และเชื่อว่าผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และจะนำไปปฏิบัติในองค์กร และครอบครัวต่อไป
ความเห็น (6)
- สวัสดีครับ
- แวะมาเยี่ยมเรียนรู้ด้วยคน
- การทำสุนทรียสนทนาจะช่วยพัฒนาการสื่อสารของคนในองค์ให้พัฒนาได้ดีขึ้นครับ
สวัสดีค่ะ คุณจักรกฤษณ์
ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยมเรียนรู้
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะว่าการทำสุนทรียสนทนาจะช่วยพัฒนาการสื่อสารของคนในองค์ให้พัฒนาได้ดีขึ้น
hope to have this feeling here , our challenge. Everything going well. Our dream will come true soon.
till next time.
สวัสดีค่ะ อ.พิริยา
กลับมารายงานตัวค่ะ พึ่งกลับมาจากการไปอบรมกระบวนกรจิตตปัญญามาเมื่อวานนี้ค่ะ ไม่ได้อ่านBlog ไปนาน ขอบคุณนะคะที่อาจารย์ติดตามผลงานของพวกเรา
อ่านด้วยความสนใจ
เป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ
สวัสดีค่ะ คุณอุทิศ ไกรฤทธิ์
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่าน