รู้จักเพื่อนใหม่


independent kids

      จริงๆ แล้วเราพบกันตั้งแต่วันแรก แต่ยังไม่คุ้นเคยกัน หมายถึง แอนนี่ และลูกสองคน (เอลล่า เอริค) วันนี้มีโอกาสเดินเที่ยวด้วยกัน จุดหมายคือไป community center ซึ่งมีสนามเด็กเล่น สนามฟุตบอล และทางวิ่งด้วย เราสี่คน (ฉัน แอนนี่ เอลล่า เอริค) ออกจากบ้านลัดเลาะไปทางตะวันตกผ่านบ้านหลังงามๆ หลายหลัง แอนนี่บอกว่าแถวนี้คนขายบ้านกันหลายหลัง เพราะเศรษฐกิจไม่ดี เดินผ่านเจอต้นแอปเปิ้ล พลัมด้วยปลูกกันริมถนน แอนนี่บอกว่าซัก september ก็สุก (ไว้ค่อยไปดูอีกที) แอนนี่เคยมาเก็บด้วย
      จุดหมายแรกเป็น "bird park" เหมือนสวนหย่อมเล็กๆ มากกว่า แอนนี่บอกอาสาสมัครแถวนั้นช่วยกันดูแล bird park อยู่ติดเลค มีนกอยู่บ้างแต่ไม่มาก จากนั้นก็เดินต่อไป community center เห็นมีชาวต่างชาติน่าจะอินเดียหรือใกล้เคียงมากันหลายคน คงมีสังสรรค์กันที่นี่ เราอยู่ตรงนี้กันนานพอดู ให้เด็กๆ ได้เล่น สนามเด็กเล่นเขาเป็นเหมือนกระบะทรายอันใหญ่ๆ มีเครื่องเล่นอยู่ห้าหกชิ้น เด็กๆ สนุกมาก เอลล่าชอบเล่นม้าหมุน ส่วนเอริคกระโดดไปเล่นเหมือนม้าโยกแต่เป็นสปริง แล้วก็ไปเล่นกระดานลื่น ความแตกต่างของการดูแลเด็กของพ่อแม่ไทย กับพ่อแม่ที่นี่มีอยู่หลายอย่าง
    1. เด็กๆ จะค่อนข้าง independent เช่นข้ามถนนเอง กดสัญญาณข้ามถนนเอง ไม่ต้องจูง ถึงทางแยกเขาจะหยุดเดินเอง แอนนี่บอกเอลล่าช่วยทำกับข้าวและดูน้องได้ด้วย (อ้อ เห็นรดน้ำต้นไม้ด้วย วันนี้เอาลูกบอลมาเล่นกัน แล้วเขาเอาไปเก็บ ที่เก็บมันเป็นกระบะปลูกต้นไม้ เขายังขยับลูกบอลไม่ให้โดนต้นไม้ด้วย)
    2. เด็กจะชินกับการนั่งรถเข็นมาก เพราะพ่อแม่เข็นไปทุกที่ตั้งแต่เด็ก บางทีก็พ่วงใส่รถพ่วงห้อยท้ายไปเวลาขี่จักรยาน ไม่เห็นเด็กดิ้นดุ๊กดิ๊กร้องลงเลยซักคน
    3. สถานที่ๆ พ่อแม่พาไปมักเป็นพาร์คทั้งหลาย เล่นซน เลอะเทอะเล่นไปเลย ล้มให้ลุกเอง อาจจะด้วยเขาเห็นว่าสถานที่และเครื่องเล่นปลอดภัย นอกจากนั้นสโตร์ทั้งหลายก็มักมีมุมเด็กไว้ให้เล่น คือพ่อแม่กับลูก มักมีกิจกรรมกลางแจ้งกันมากกว่าเมืองไทย เห็นของเราไปห้างตากแอร์ กับรับเชื้อโรคกันเป็นหลัก อากาศบ้านเรามันไม่เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งด้วย
      หลังจากนั้นก็เดินกลับบ้าน ระหว่างทางเจอต้นแบลคเบอร์รี่เต็มไปหมดเหมือนวัชพืช ไม่น่าเชื่อ อยู่เมืองไทยจะเป็นผลไม้ไฮโซไปได้ ฉันเลือกเดินต่อไป U village อีกครั้งเพื่อซื้อกาแฟ และดูตัวสแตมป์ให้พี่จ๋า คราวนี้ไม่พลาดหยิบกล้องไปด้วย เดินเล่นตาม trail แล้วก็ถ่ายรูปไปโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับจักรยานเพื่อส่งไปให้โอ๋ดู ให้อิจฉาเล่นๆ ฮิฮิ
      วันนี้ U village คึกคัก อาจเพราะเป็นวันหยุด และมี side walk sale ด้วย หิวมาก ว่าจะซื้อแต่กาแฟไปทานกับข้าวผัดที่บ้าน ไม่ไหวแล้วเลยซื้อซูชินั่งทานที่นั่นเลยกล่องละเกือบ 250 บาทแต่อดเอาไว้ทานสองมื้อด้วยความงก ซื้อเลย์เบคมาห่อนึงแล้วก็ grande latte อีกหนึ่ง นั่งทานใน U village นั่นแหละ แล้วเดินกลับมาที่ยูดับ แวะถ่ายรูปที่เลคแป๊บนึง บรรยากาศสบายมากมาก ขณะเดินกลับข้ามสะพาน montlake มาได้ซักพัก มองย้อนกลับไป

      โอ้ว วันนี้สะพานมันเปิดด้วย กลับมาเจอ Shirley ถอนวัชพืชหน้าบานเลยถาม Shirley บอกว่าเปิดให้เรือที่กระโดง (mast) สูงๆ ผ่านเฉพาะช่วงไม่ใช่ rush hour ไม่ได้เปิดเป็นประจำ ว้า! รู้อย่างนี้เดินกลับไปดีกว่าจะได้เห็นอีกทีไม่รู้เมื่อไหร่

คำสำคัญ (Tags): #take a walk
หมายเลขบันทึก: 271856เขียนเมื่อ 29 มิถุนายน 2009 04:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม 2012 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท