สวัสดีค่ะ ส่งความสุขวันหยุดยาวยาวจ๊ะ
ศิลาใช้เวลานานพอสมควรค่ะ กว่าจะค้นหาเพลง “รักเป็นดั่งต้นไม้” ของหนุ่มเสกนี้เจอค่ะ เป็นเพลงร่วมสมัยของศิลาเองนะคะ ยอมรับค่ะว่ามีอายุมากขึ้น ความรู้สึกก็ยังระลึกถึงเพลงเก่า ๆ ที่มีความหมายตราตรึงอยู่
เส้นทางยาวไกลให้เดินทาง
ขอเล่าย้อนนิดหนึ่งว่า ตอนเดินไปหาซื้อเพลงนี้ในร้านขายเพลง น้องผู้ขายในร้านหยิบแผ่นซีดีของ เสก โลโซมาให้ค่ะ เราก็ตกใจมาก…นึกว่าหนุ่มเสก เปลี่ยน “look” แต่พอดูดี ๆ เราก็ “รู้ตัว” ว่าเราตกยุค หรือจะว่าไปก็คือ เราหยุดโลกไว้เพียงเท่าที่เราอยากจะรับรู้และซึมซับความรู้สึกหวานซึ้งดั้งเดิมแท้ ๆ ของเราไว้ค่ะ...
ถือโอกาสนี้ …ณ เวลานี้ ขอใช้อารมณ์ศิลปินนำเสนอบทเพลงนี้ แด่กัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ
ในระยะเวลาอันสั้นที่ผ่านมา ศิลาได้พบความพลัดพราก ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ซึ่งไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะได้พบกันอีก
แม้ไม่เอ่ยนามออกมา แต่เราท่านต่างก็ทราบดีว่ากัลยาณมิตรท่านใดที่หายหน้าหายตาไปบ้างค่ะ …
บางท่านก็หายแบบบอกลา บางท่านก็หายไปเฉย ๆ บางท่านก็ไป ๆ มา ๆ แบบนินจา…เหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ แม้กระทั่งตัวศิลาเอง ก็คิดว่าทุกอย่างมีห้วงเวลาของมันเอง อาจจะคิดแบบนี้เมื่อไหร่ก็ได้
เพียงอยากจะบอกว่าไม่ว่ากัลยาณมิตรท่านใด จะรู้สึกอย่างไร ตัดสินใจอย่างไร
โชคชะตาพาเรามาพบกันแล้ว…ความรักจึงไม่ใช่แก้วบาง (ตามเพลงหนุ่มเสกค่ะ) แต่รักเป็นดั่งต้นไม้ที่เราควรหมั่นดูแลซึ่งกันและกันค่ะ...เราผูกพันกันด้วยความรู้สึกสำนึกในหน้าที่...แม้เราอาจจะไม่ได้พบกัน แต่เราก็จะมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ผูกพันด้วยหน้าที่ที่จะทำสิ่งดี ๆ เพื่อสังคมรอบตัวเราค่ะ
ยามที่ต่างคนต่างมุ่งมั่น "ทำสิ่งดี ๆ" เพื่อสังคมส่วนรวมรอบตัว โปรดจงรู้ไว้ว่า ยังมีกัลยาณมิตรอีกหลายท่านเฝ้ามองดูความสำเร็จจากความเพียรพยายามของท่านอยู่ค่ะ
พวกเราเปรียบเหมือนชาวสวนที่ร่วมกันดูแลต้นไม้ทุกต้น (ความเป็นกัลยาณมิตร) ซึ่งหล่อเลี้ยงด้วยห้วใจให้ต้นไม้เจริญงอกงามในพื้นที่ที่ไม่มีดินแดนแห่งนี้
รักเป็นดั่งต้นไม้ค่ะ
ท่านคิดอย่างไรกันบ้างคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ศิลา
เห็นด้วยค่ะ...การจากกันตามภาระงานและหน้าที่ แต่ยังระลึกถึงนะคะ...
ขอบคุณในน้ำใจไมตรีของอาจารย์นะคะ...
ยังระลึกถึงค่ะ
สวัสดี ค่ะ
ตอนแรก เคยคิดว่า ที่เรามีการพูดคุยกันผ่าน ตัวหนังสือ แบบนี้ โดยที่เราไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ากัน มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนการพูดลอยๆ บอกลอยๆ เล่าลอยๆ
แต่เมื่อได้ สัมผัสกับมัน แม้ไม่ได้รู้จัก หรือเจอกัน อ่านจากที่มีคนเขียนเล่า เรื่องราวต่างๆ รู้สึกได้ ว่า มิตรภาพ บางที มันไม่ได้ ต้องการอะไรไปมากกว่า ความรู้สึก ดีดี ที่เรามีให้กัน
สิ่งที่เราได้ อ่าน ได้ เรียนรู้จาก บุคคลต่างๆ ในที่นี้ มันเท่ากับเปิด
โลกทรรศน์ ให้ แก่เราค่ะ ทำให้เรา มองอย่างอื่นมากขึ้น ไม่ใช่สนใจแต่ตัวเอง
ขอบคุณค่ะ
รักเป็นดังต้นไม้
รักเป็นดั่งหอยขม
รักน่ะหอยขม
อิอิ
เพลงนี้ซึ้งมาก ถ้อยคำก็กินใจ
เห็นด้วย เราทุกคนต่างมีหน้าที่ ขอให้รู้ว่ามีกันและกันก็พอ
สวัสดีค่ะ
เขียนบันทึกได้ดีมาก ชื่นชม
อีกมุมหนึ่งนะคะ ถ้าเปรียบรักเป็นเหมือนต้นไม้ เท่ากับเรามีความรักหลายแบบ ทั้งยืนต้น และล้มลุก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของความรักจริงๆ นั่นเอง ว่าแล้วก็...ถอนหายใจค่ะ เพราะเราทุกคนคงมีต้นไม้ทั้งสองประเภท ยอมรับเป็นต้นไม้ล้มลุก(ก็ได้แบบไม่ค่อยเต็มใจ...) ทีนี้ก็อยู่ที่การดูแลต้นไม้ทั้งสองประเภทให้งดงามอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไปค่ะ (ยังรู้สึกดีใจไม่น้อยเมื่อมีต้นไม้ล้มลุก เกิดให้เมล็ดพันธุ์สืบต่อความรู้สึกกลับคืนมาได้ให้เป็นที่น่าอัศจรรย์...อิอิ)
คุณศิลาเปลี่ยนภาพใหม่เมื่อไรคะ ตกใจว่าดาวลูกไก่ไม่ได้เข้ามาท่อง G2K นานมากหรือเปล่า วันที่ 2 ก.ค. มีประชุม Web 2.0 ค่ะ วันที่ 3 เดินทาง สาวน้อยชวนไปเที่ยวทะเลค่ะ(เลยอดไปร่วมสังเกตการณ์ประชุมของคุณศิลาเลย)
สวัสดีครับพี่ศิลา
ตามมาจากที่พี่แวะไปชวนเดย์จ่ะ ^_^
พี่ศิลาบันทึกได้ดีจังครับ เป็นกลางและอาวรพอประมาณ ^^
เมื่อเรารู้ว่าเพื่อนมีเหตุให้ต้องลา เมื่อนั้นเราก็จะยืนเรียงแถวโบกมือบ๊ายบาย กล่าวลา และอาจมีของติดไม้ติดมือให้กินให้ใช้ระหว่างทาง น่ารักมากๆเลยครับ
นี่ก็อีก 1 ความประทับใจครับที่เดย์ได้รับรู้ว่า โกทูโนนี้ดีน๊อ ^_^
รักเปรียบกับอะไรได้ตั้งหล๊ายอย่างครับ บางครั้งก็มีคุณค่าเกินจะหาอะไรมาเปรียบ
ขอบคุณมากๆครับผมที่ชวนมาอ่าน มีอะไรดีดีชวนเดย์มาดูอีกนะครับ ;)
สวัสดีค่ะ รักเป็นดั่งต้นไม้จริงจริงค่ะ อุดมสมบูรณ์ ชุ่มชื่น และมีกำลังใจค่ะ
รักเป็นดั่งต้นไม้ และ ต้นไม้ก็ต้องการความรักค่ะ
เอ ใครหายไปบ้างนะคะ ดิฉันหายและแว้บ ๆ จึงตกข่าวค่ะ
เป็นห่วงจัง มีอะไรหรือเปล่าคะ(มักจะเป็นเช่นนี้ คือรู้อะไรช้ากว่าคนอื่นเสมอ ๆ)
สวัสดีครับอาจารย์ ขอฝากอีกสักเพลงนะครับ " หากเราต้องจากกัน จะเป็นด้วยเหตุใด เก็บความคิดที่คล้ายกัน กับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนั้นไว้........" ด้วยรักและผูกพัน ของ เบริด์ "...อยากเห็น ยิ้มที่ชื่นบาน อยากเห็นจากเธอ อยากให้เธอ ได้มี สิ่งที่ดีเรื่อยไป........"
ขอบพระคุณ ครับ.............
โห ... เพลงรุ่นเดียวกันครับ อาจารย์ ... ;)
ความรู้สึกดีๆยังมีให้เสมอๆค่ะ
สวัสดีค่ะคุณศิลา Sila Phu-Chaya
ยามที่ต่างคนต่างมุ่งมั่น "ทำสิ่งดี ๆ" เพื่อสังคมส่วนรวมรอบตัว โปรดจงรู้ไว้ว่า ยังมีกัลยาณมิตรอีกหลายท่านเฝ้ามองดูความสำเร็จจากความเพียรพยายามของท่านอยู่ค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์
ความรัก ความจริงใจ สัมผัสรับรู้ได้เสมอค่ะ
ฝากความคิดถึงพี่ชายพอลล่าอีกคนด้วยนะคะ คิดถึงเขามากๆ เลยค่ะ
อูย บนหัวบันทึกมี "รางวัลสุดตะลึง ตึง ตึง" แล้วคร้าบ
ยินดีครับ ยินดี ;)
ภิกษุนั้น เมื่อไม่บำเพ็ญปฏิปทาที่เราตถาคต กล่าวแล้วให้บริบูรณ์ ก็ชื่อว่า เป็นผู้อยู่ไกลเราตถาคตทีเดียว เราตถาคต ก็ชื่อว่า อยู่ไกลเธอเหมือนกัน การเห็นพระตถาคตเจ้า ด้วยมังสจักษุก็ดี การอยู่รวมกันทางรูปกายก็ดี ไม่ใช่เหตุ (ของการอยู่ใกล้) แต่ การเห็นด้วยญาณจักษุเท่านั้น และการรวมกันด้วยธรรมกายต่างหาก เป็นประมาณ (ในเรื่องนี้). ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะว่าภิกษุนั้นไม่เห็นธรรม เมื่อไม่เห็นธรรม ก็ไม่เห็นเราตถาคต ดูก่อนวักกลิ เธอจะมีประโยชน์อะไร ด้วยกายอันเน่าเปื่อยนี้ที่เธอได้เห็นแล้ว ดูก่อนวักกลิ ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้น ก็เห็นเราตถาคต ผู้ใดเห็นเราตถาคต
********
ทรรศนะของพุทธองค์ข้างต้นนี้ บอกเราว่า คนที่เราไม่ได้เห็น ทั้งที่เมื่อก่อนเคยเห็ยนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน เราสามารถเห็นเขาได้ใน ญาณจักษุ (ความรำลึกถึงอยู่ในจิตใจ) การเห็นในรูปกาย นั้นอาจจะเป็นการเห็นเพียงแค่ สักแต่ว่าเห็น
แวะมาชมว่าตอบเม้นท์ได้ขำ ฮาดีอ่ะ
สวัสดี ครับ คุณ sila
ชีวิตหมุนเวียน เปลี่ยนไปทุกวัน...คนบางคนได้ความสุขเก็บไว้เต็มเปี่ยม
คนบางคนขาดโอกาส น่าเห็นใจ...โลกบางครั้งมองแล้ว สดใสสวยงาม
บางครั้งมองหมองหม่น น่าเศร้า...
คุณ sila ครับ....มิตรภาพหาได้ทุกหนทุกแห่ง บนโลกของเรานี้
มิตรภาพมีอยู่เกลื่อนกลาด...มีทั้ง หลอกลวง จอมปลอม หาแก่นแท้ของชีวิตไม่ได้
ผู้โชคดี อาจเป็นผู้กระทำ หรือถูกกระทำ และได้มาซึ่งมิตรภาพอันยั่งยืน
สุดแต่ใจ...ใครจะไขว่คว้า...ให้ได้มา
ผมเอง...มองหามิตรภาพมาตลอดเส้นทางของชีวิตตัวเองมาตลอด
มีทั้งโชดดี และร้ายสลับกันไป
แม้กระทั่งที่นี่...แรก ๆ ผมอาจไม่มีความรุ้สึกใด ๆ...เพียงแค่เห็นเป็น ความรู้ ที่มีอยู่ดาดเดื่อน บนโลก online ช่องทางหนึ่ง
อยู่ไป...เมื่อเริ่มรับแล้ว รู้สึกว่า..ทำไมไม่ให้บ้าง...อ่านบันทึกของใครหลาย ๆ คนได้แง่คิด มุมมอง ที่ตัวเองไม่เคยคิด หรือคิดไม่ถึง ....มองเห็นคำว่า "มิตรภาพ"
ที่ ปรากฎอยู่ในความรู้สึกของตัวเอง ขึ้นมาจับใจ
และไม่เคยคิดมาก่อนว่า..."พลังแห่งคำ ๆ นี้" จะมีค่าและมีความหมายอยู่ในตัวของมันเองโดยไม่ต้อง ให้ใครมาลากจูง หรือชี้นำ
ไม่ว่าอย่างไร...ก็แล้วแต่ มันไม่ใช่ยาเสพติด ที่เราจำเป็นต้องเสพ หรือขาดไม่ได้ ช่วงชีวิตของเรา...ยังต้องเดินทางกันตามเส้นทางชีวิตที่แต่ละคนขีดเอาไว้...
ผมมองในมุมมองของผม...มองสิ่งรอบตัว...มองสังคมที่ผมอยู่ ....และผมมองเจ้าสิ่งนี้ อย่างขาดเสียมิได้ ...มิตรภาพที่แม้มีเงินท่วมหัว ก็หาซื้อจากใครบางคนไม่ได้...
มาถึงวันนี้ ผมมีมิตรภาพ ที่นี่ มิตรภาพ จากใครหลาย ๆ คน และคุณ sila คือ หนึ่งในนั้น มิตรภาพ ที่ผมอยากเก็บเอาไว้ในใจ...เมื่อวันหนึ่งข้างหน้า ผมแก่เฒ่าไป ผมจะได้มีเรื่องเล่า ดี ดี จาก คุณsila และกัลยณมิตร ที่นี่ เล่าให้ลูกหลานฟัง
มาด้วยความระลึกถึง อย่างเต็มหัวใจ
ภิกษุนั้น เมื่อไม่บำเพ็ญปฏิปทาที่เราตถาคต กล่าวแล้วให้บริบูรณ์ ก็ชื่อว่า เป็นผู้อยู่ไกลเราตถาคตทีเดียว เราตถาคต ก็ชื่อว่า อยู่ไกลเธอเหมือนกัน การเห็นพระตถาคตเจ้า ด้วยมังสจักษุก็ดี การอยู่รวมกันทางรูปกายก็ดี ไม่ใช่เหตุ (ของการอยู่ใกล้) แต่ การเห็นด้วยญาณจักษุเท่านั้น และการรวมกันด้วยธรรมกายต่างหาก เป็นประมาณ (ในเรื่องนี้). ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะว่าภิกษุนั้นไม่เห็นธรรม เมื่อไม่เห็นธรรม ก็ไม่เห็นเราตถาคต ดูก่อนวักกลิ เธอจะมีประโยชน์อะไร ด้วยกายอันเน่าเปื่อยนี้ที่เธอได้เห็นแล้ว ดูก่อนวักกลิ ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้น ก็เห็นเราตถาคต ผู้ใดเห็นเราตถาคต
********
ทรรศนะของพุทธองค์ข้างต้นนี้ บอกเราว่า คนที่เราไม่ได้เห็น ทั้งที่เมื่อก่อนเคยเห็ยนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน เราสามารถเห็นเขาได้ใน ญาณจักษุ (ความรำลึกถึงอยู่ในจิตใจ) การเห็นในรูปกาย นั้นอาจจะเป็นการเห็นเพียงแค่ สักแต่ว่าเห็น
การที่เราไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้พบกัน อาจจะไม่มีความหมายเท่ากับการ เห็นเขาอยู่ในใจฐานะกัลยาณมิตรที่งดงามอยู่เสมอค่ะ
จะว่าไปศิลาก็มีกัลยาณมิตรที่คงไม่มีโอกาสพบกันหลายท่าน ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็อยู่ในใจ สักแต่ว่าเห็นในจิตค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
มาทักทายกัน ให้หายระลึกถึง
มีความสุข กับชีวิต นะครับ
เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ นะครับ
คุณศิลาก็เช่นกัน ครับ แม่อยู่ในใจ เสมอครับ
ด้วยความระลึกถึง จริง ๆ
ผมเคยเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า มิตรภาพที่แท้จริงไม่ได้เกิดง่ายๆ หากมันได้เกิดมาแล้วไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ต้นไม้แห่งมิตรภาพจะคงอยู่ตราบนานเท่านานหากว่าเพื่อนร่วมทางไม่เป็นผู้โค่นลงมาเอง ต้นที่เกิดมาก่อนเติบโตแข็งแกร่ง แรงพอจะช่วยกำบังต้นไม้มิตรต้นน้อยกว่ากลับเมินหมาง เพียงเพราะนายพรานมาแผ้วถางต้นไม้ต้นน้อยให้อยู่ตามยถา แต่เจ้าต้นใหญ่จากเคยให้ร่มบังลมให้ต้นอ่อน นับจากวันที่นายพรานมาแผ้วถางไม้น้อย เจ้าไม้ใหญ่โดดเด่นหันไปเริงร่ากับไม้ใหญ่ที่เป็นกลุ่มเดียวกัน มิใยเจ้าต้นน้อยจะพร่ำเพรียกเพียงใด หาได้ทำให้เจ้าหันกลับมาไม่ และอีกไม่นานต้นน้อยก็จะตรอมใจตายไป
ผมมาเล่านิทานสนุกๆ มอบแด่คุณศิลาครับ รับกับเพลงของคุณพอดีครับ
ห่างหาย แต่มิห่างเหิน
เข้าใจ ด้วยภารกิจ และผูกพัน
คิดถึง ด้วยความรู้สึกดีๆ
เสมอ เช่นเคย นิรันดร์ค่ะ
...