การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักศึกษาไทยกับมาเลเซีย มหาลัยทักษิณ


หายเหนื่อยตรงสองข้างทางมีแต่ตนไม้และต้นข้าวเขียวชอุ่มสุดลูกหูลูกตา

6.00 น. เราออกเดินทางจากมหาลัยทักษิณ  สาขาป่าพะยอม บรรยากาศตอนเช้าอากาศกำลัง สบาย ๆ ไปถึงเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย  เพราะนาฬิกาเจ้าเล่ห์มันดันไม่ทำงานให้สารถีเราเสียนี่เลยตื่นยาก เห็นเธอตกใจก็น่าสงสารแล้ว  แต่เราเป็นคนนอกไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน  ได้แต่มองแบบเห็นใจ  9.25 น. เราก็ไปถึงทะเลน้อยเห็นน้ำและบัวบานมีจำนวนเยอะมาก  แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ลงเรือหางยาวมีแต่นักศึกษาและอาจารย์  ข้าพเจ้าดีใจที่เห็นทุกคนตื่นเต้น  ส่วนข้าพเจ้านั่งดื่มกาแฟ กินขนมต้ม กับ ปาตั๋งโก ร่วมกับพี่เบ็ญจวรรณ  บัวขวัญ  พอเป็นอาหารเช้า  หลังจากนั้นก็ไปจัดอาหารให้อาจารย์  เป็นข้าวผัดห่อใบบัว  ใส่ภาชนะที่ทำด้วยกะจูดเป็น  จะว่าเป็นตะกล้าก็ไม่เชิงเป็นจานก็ไม่ใช่เอาเป็นว่าใส่อาหารเมื่อรับประทานแล้วไม่หกเลอะเทอะก็แล้วกัน  เป็นสิ่งสวยงามและอนุรักษ์ของพื้นบ้านอีกอย่างที่ให้นักศึกษาทั้งไทยและต่างชาติเห็น   แต่อาหารของนักศึกษาก็ใช่ว่าแตกต่าง  เว้นแต่อาหารของน้องนักศึกษามาเลเซียเป็นข้าวหมกไก่  นม  และผลไม้เมื่อนักศึกษาทานอาหารเช้าเสร็จ เมื่ออิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อ 

                10.30 น.เราก็เดินทางต่อด้วยรถตู้และรถทัวร์   ระหว่างนั้นมีทั้งขึ้นรถและเดินด้วยเท้าทุลักทุเลพอสมควร  แต่มันก็หายเหนื่อยตรงสองข้างทางมีแต่ตนไม้และต้นข้าวเขียวชอุ่มสุดลูกหูลูกตา รู้สึกสดชื่น  แล้วเราก็ไปดูวงจรการทำฝายทดน้ำเข้านา  การหว่าน และการปลูกข้าว แต่ละระยะข้าว  การปลูกพืชผสมผสานตามคันนา   นอกจากนั้นยังไปดูการสาธิตวิธีถอนตนกะจูด  เอ้!..เห็นเขาถอนง่าย ๆ จึงลองถอนดูบ้าง เอ้า!...ยากนี่หว่า  เมื่อเขาถอนได้ก็นำไปตากแห้งก่อนยอมสีและสานเป็นกะจูดที่สวยงาม  ราคาไม่แพง   เทียบกันไม่ได้เลยกับการเสียเวลา  แรงงาน  และภูมิปัญญาชาวบ้าน คนสูงอายุทั้งนั้นนั่งทำอยู่เด็กรุ่นใหม่มาเรียนในเมืองทำไม่เป็นกันหมดแล้ว  ดังนั้นหากเห็นของแบบนี้พยายามอย่าต่อราคาเลยนะค่ะ 

นอกจากนี้ยังไปดูการซ้อมข้าวเพื่อให้ได้ข้าวซ้อมมือที่เรียกว่า  ข้าวสังหยดซึ่งมีทั้งชนิดตำกับครกด้วยมือ  และใช้ครกสีข้าว   ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ผลิตขึ้นโดยภูมิปัญญาชาวบ้าน   ก็จะได้เป็นข้าวสังหยดสีแดงระกำ  จมูกข้าว  และ รำข้าว แต่ก่อนบรรจุต้องนำมาร่อนเพื่อแยกเอากากออก  เหลือรำข้าวแท้ ๆ นำมาใส่แคปซูนขาย 100 เม็ด  80  บาท  หรือนำมาใส่ในการแฟแทนคอฟฟี่เมท  กากจากรำข้าวก็นำมาผสมน้ำ หรือนมขัดหน้า  ที่น่าเสียดายคือ  ยังชื้นง่ายทำให้สารอาหารที่มีอยู่มากเสื่อมในเวลาอันสั้นอย่างนี้เราก็ไม่สามารถทำผลิตพันธ์เพื่อส่งออกขายทั้งในและต่างประเทศได้   นอกจากนี้ยังเห็นการแปรรูปเป็นไอศกรีม  ขนมต่าง ๆ ตามความคิดสร้างสรรค์ของคน ๆ นั้น  หรือกองทุนนั้น ๆ

คงจะเห็นภาพและจับประเด็นได้นะค่ะใครมีความคิดดี ๆ

 

หมายเลขบันทึก: 270986เขียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2009 14:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน 2012 10:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท