ปีการศึกษา 2552 ได้รับโอกาสให้เป็นกรรมการวิทยานิพนธ์ และเป็นเลขาด้วยเพื่อการจับปูใส่กระด้ง และจัดการเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้นักศึกษาได้จบ และสำเร็จกันทุกๆคน
ปีนี้มีมาลงชื่อทำวิทยานิพนธ์ 56 คน จัดการหาอาจารย์ที่ปรึกษาให้ได้จนครบทุกคน และพร้อมในการเสนอหัวข้อในการทำงาน มีโครงการต่างๆมากมายที่น่าสนใจ โดยมีแนวทางในการเสนอหัวข้อดังนี้
. นโยบายและข้อแนะนำแนวทางการเสนอหัวข้อวิทยานิพนธ์ทางสถาปัตยกรรม ปี
การศึกษา 2552 ให้นักศึกษาเลือกเสนอหัวข้อวิทยานิพนธ์โดยให้เป็นไปตามนโยบายและแนวทางการ
เสนอหัวข้อวิทยานิพนธ์ โดยให้พิจารณาประเด็น ดังต่อไปนี้
3.1 หัวข้อวิทยานิพนธ์ที่มีความเหมาะสมที่นักศึกษาสามารถเลือกมานำเสนอ ควรมีลักษณะดังนี้
3.1.1 เป็นอาคารทุกประเภทที่เข้าข่ายงานสถาปัตยกรรมซึ่งสร้างสรรค์สังคม และไม่ขัดต่อ
ศีลธรรมอันดีงามของประเทศ
3.1.2 เป็นโครงการที่มีความเป็นไปได้ มีความชัดเจนในด้านแนวคิดและองค์ประกอบทาง
สถาปัตยกรรม สามารถนำไปสู่การศึกษาและจัดทำรายละเอียดการออกแบบ โดยมี
วัตถุประสงค์และขอบเขตการศึกษาที่ชัดเจน สามารถนำไปพัฒนาและจัดทำแนว
ทางการออกแบบแก้ปัญหาได้
3.1.3 เป็นโครงการที่มีความสำคัญในระดับนโยบาย หรือสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์
การพัฒนาประเทศ
3.1.4 หากเป็นโครงการประเภทอาคารพาณิชยกรรม ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเชิง
เศรษฐศาสตร์ จะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในระดับเบื้องต้น เพื่อ
แสดงให้เห็นถึงโอกาสและความเป็นไปได้ของโครงการ
3.2 โครงการที่เหมาะสมกับการเป็นโครงการวิทยานิพนธ์ ควรมีขนาดของโครงการไม่ใหญ่ และไม่
เล็กจนเกินไป โดยให้คำนึงถึงระยะเวลาที่เหมาะสมและกำลังของผู้ทำวิทยานิพนธ์ และต้อง
แน่ใจว่าไม่เกิดปัญหาอุปสรรคในการเก็บข้อมูล
3.3 ห้าม เสนอหัวข้อและที่ตั้งโครงการซ้ำกับหัวข้อวิทยานิพนธ์ในปีการศึกษาก่อนหน้านี้ 2 ปี
3.4 ห้าม เสนอหัวข้อโครงการและอาคารที่มิได้มีที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
3.5 ห้าม เสนอหรือคัดลอกผลงานจากหัวข้อและที่ตั้งซ้ำกับหัวข้อวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัย/
สถาบันการศึกษาอื่นๆ ในกรณีนี้ หากพิสูจน์ได้ว่าฝ่าฝืนในภายหลัง จะถูกพิจารณาให้ ตก (F)
ในวิทยาวิทยานิพนธ์
3.6 หัวข้อที่เสนอสามารถใช้หัวข้อที่เป็นโครงการจริงทั้งภาครัฐและเอกชนได้ แต่ทั้งนี้ในภาคการ
ออกแบบจะต้องมีแบบที่เป็นผลงานของนักศึกษาเองเท่านั้น ห้ามคัดลอกแบบจริงมาส่งโดย
เด็ดขาด หากฝ่าฝืนและพิสูจน์ได้ในภายหลัง ถือว่า ตก (F) ในวิชาวิทยานิพนธ์
3.7 กรณีอื่นใดที่นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น คณะกรรมการจะพิจารณาเป็นรายๆ ไปแล้วแต่
กรณี โดยผ่านการเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ในหัวข้อนั้นๆ
การทำวิทยานิพนธ์ เป็นการตั้งโจทย์และแก้ไขปัญหาทางสถาปัตยกรรม โดยการนำความรู้ที่ได้เรียนมาตลอดห้าปีมานำเสนอ และพิสูจน์ให้อาจารย์เห็นว่าตนมีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะออกไปประกอบอาชีพ และรับใช้สังคม
ในระบบของ สถาปัตย์ สจล. ที่ปฎิบัติกันมา คือจะมีการแต่งตั้งกรรมการห้าท่าน ที่จะดูนักศึกษาทั้งหมดในการขึ้นนำเสนองานขั้นสุดท้าย และมีที่ปรึกษาของนักศึกษา โดยสัดส่วนไม่เกิน อาจารย์หนึ่งท่านต่อนักศึกษาสามคน ที่จะดูแล ให้คำแนะนำ ระหว่างปี ก่อนที่จะส่งไปเสนองานในขั้นตอนสุดท้าย
เทอมหนึ่งนี้เป็นการทำภาคนิพนธ์ หรือ book part ที่จะมีข้อมูลต่างๆ เพื่อจะประกอบการออกแบบในเทอมสอง design part ต่อไป
เป็นนิสิตชั้นปี5กำลังจะเสนอหัวข้อวิทยานิพนธ์ค่ะ แต่ยังไม่มีหัวข้อจะไปนำเสนออาจารย์เลยค่ะ กลุ้มที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร