การทำงานเพื่อคนด้อยโอกาส : ทำตามยถากรรมหรือมีคนสนับสนุน ??
สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้เริ่มงานที่เกี่ยวข้องกับคนด้อยโอกาสมาตั้งแต่ปี 2539 ในรูปแบบของ กลุ่มอิสรชน จนพัฒนาสู่ ศูนย์กิจกรรมอิสรชน และ สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน ในที่สุด เริ่มตั้งแต่การทำงานแบบตามมีตามเกิด หรือตามยถากรรม มีเงินก็ทำ ไม่มีก็ไม่ทำ มาถึง มีก็ทำ ไม่มีก็ทำ และ ในปัจจุบัน ยังไงก็ยังจะทำอยู่ ??
กิจกรรมที่อิสรชน ได้เริ่มทำและทำมาดดยตลอด คือ การใช้กิจกรรมการเล่น กิจกรรมที่ใช้กลยุทธการเรียนรู้ที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเรียนรู้ แต่เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรม จึงจะถึงบ้างอ้อว่า ที่ผ่านมานั้น คือการเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คุณภาพชีวิต บุคลิกภาพ และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย??
หลายครั้งที่อิสรชนได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุนภาครัฐ แต่เมื่อมีการเข้ามติดตามการทำงานภายใต้การสนับสนุนกิจกรรม กลับได้ยินเสียงสะท้อนและคำถามที่เราเองก็ฟังแล้วรู้สึกงง เช่น ทำแบบนี้ได้อะไร ทำแบบนี้ ได้ประโยชน์หรือ ?? แหล่งทุนภาครัฐส่วนใหญ่ ยังมีแนวคิดแบบดั้งเดิม แม้ว่าจะมีการประเมินที่ใช้เครื่องมือที่ทันสมัยแต่ ทัศนคติของคนใช้เครื่องมือยัง มุ่งหวังผลงานที่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทันตาเห็น ไม่เข้าใจการทำงานเชิงแนวคิดที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากข้างใน ??
หลายครั้งอิสรชน ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน และภาคธุรกิจ รวมถึงประชาชนทั่วไป แต่ที่สำคัญเราได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนจาก กลุ่มที่เราทำงานเองคนละเล็กคนละน้อย บางคนใช่บริจาค ยี่สิบห้าสตางค์ ห้างสิบสตางค์ ไปจนถึง คนที่พอมีฐานะ ก็บริจาคมากหน่อย โดยที่คนเหล่านี้ ไม่ติดใจที่จะถามเราด้วยคำถามแปลก ๆ แต่เขาจะเฝ้ามองเราว่า เราทำอะไร และ ทำงานกับใคร บางคนแอบส่งกำลังใจให้เราทำงานต่อไปอย่าย่อท้อ
ถึงวันนี้อิสรชนเริ่มคิดทบทวนว่า งานที่เราทำ ควรจทำตามยถากรรมแบบนี้ต่อไป(รับเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคนเล็กคนน้อยหรือคนไม่ใหญ่ไม่โต แต่จิตใจกว้างขวาง)หรือจะขอรับการสนับสนุนเงินจากแหล่งทุนเป็นเงินก้อนใหญ่ ๆ มาทำงานกับกลุ่มที่เราทำงานด้วยดี อย่างไหนดีกว่ากัน ??
หลายคน ก็ บอกว่า ให้เรา ขอเงินก้อนใหญ่ ๆ จับปลาตัวใหญ่ มาให้คนด้อยโอกาสได้อิ่มหมีพีมัน หรือ ให้เราได้ทำงานได้อย่างยาวนานและไม่เหน็ดเหนื่อยในการทำงาน หรือหาเงินมาทำงาน แต่หลายคนก็บอกเราว่าให้ทำงานโดยรับเงินเล็กเงินน้อยเพื่อทำงานอย่างนี้ต่อไป เพราะจะได้เป็นอิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายการทำงานให้กับคนไม่เข้าใจงานที่เราทำอยู่??
แต่ก็นั่นล่ะ งานเราก็อยากจะทำอย่างต่อเนื่อง แต่คนทำงาน เองก็ต้องอยู่ไปพร้อม ๆ กับงานที่ทำ และที่สำคัญ หากเรามีเงินที่เพียงพอกับการทำงาน เราก็จะสามารถบรรเทาปัญหาที่เราทำอยู่ สร้างความสุขและการเรียนรู้ผ่านกิจกรมที่เราทำ อย่างน้อย คนด้อยโอกาสที่เขาพบทางตันได้มีเวลาพักและคิดทบทวนด้วยความสุข ภาครัฐเอง ก็จะได้ทำงานได้อย่างง่ายดายขึ้น ?? นั่นคือ เจตนาและความมุ่งมั่นของเรา
สรุปก็คือ อย่างไรเสียเราก็ยังจะทำงานที่เรารักต่อไป ในปี 2552 นี้เรายิ่งจะทำงานหนักขึ้น แม้ว่าล่าสุด เราจะไม่ได้รับการสนับสนุนโครงการจากภาครัฐเพื่อให้เรา ออกตระเวนจัดกิจกรรมตามที่เราตั้งใจไว้ แต่งานที่เราตั้งใจไว้ ก็จะพยายามทำต่อไป อาจจะช้าและได้จำนวนครั้งน้อยลง แต่ก็จะค่อย ๆ ทำต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ไม่รู้จักเหนื่อยอ่อน เพราะเรามีกำลังใจจาก เสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากคนด้อยโอกาสที่เราผ่านไปสร้างรอยยิ้มให้ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ??
หากว่าอยากจะช่วยให้อิสรชน ทำงานตามที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จลุล่วง .. ในปี 2552 นี้ เราตั้งใจจะออกตระเวนไปในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อนำกิจกรรมการเรียนรู้ไปสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้คนด้อยโอกาสให้มากจังหวัดให้มากที่สุด 6 เดือนที่ผ่านมา เราสามารถตระเวนไปแล้วมากกว่า 30 จังหวัด และจัดกิจกรรมมากกว่า 30 ครั้ง เป้าหมายในปีนี้ เราตั้งใจไว้ที่ 60 ครั้ง มีงบประมาณ ครั้งละ 2,500 บาท ช่วยสนับสนุนกิจกรรมของอิสรชนได้ นะครับ
สามารถช่วยเหลือสนับสนุนได้ไม่มีความเห็น