นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
แถลงข่าว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับ
การจ่ายเช็คช่วยชาติให้แก่บุคลากรที่มีรายได้ไม่ถึง
15,000 บาท เพิ่มเติมอีก 6 กลุ่ม กว่า 500,000 ราย
รับเช็ครอบแรก 16 มิถุนายน 2552 นี้
รมช. คลัง กล่าวว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่
10 มีนาคม 2552 ให้ช่วยค่าครองชีพ
ของประชาชนและบุคลากรภาครัฐ คนละ 2,000 บาท จำนวน 8,803,478 ราย
ไปแล้ว
ได้มีมติเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2552 และวันที่ 21 เมษายน
2552 เพื่อช่วยเหลือบุคลากรเพิ่มเติมอีก 6 กลุ่ม ได้แก่
1. บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
2. พนักงานรัฐวิสาหกิจ
3. ครู บุคลากรด้านการศึกษาและบุคลากรอื่นในโรงเรียนเอกชน
4. บุคลากรขององค์การมหาชน
5. ทหารเกณฑ์
6. บุคลากรขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ
จำนวนบุคลากรทั้ง 6 กลุ่ม ที่มีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาท ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติรอบนี้ ประมาณ 500,000 ราย ตามหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่รับผิดชอบการสำรวจข้อมูลได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจต่าง ๆ จำนวน 56 แห่ง สำนักบริหารงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน องค์การมหาชนต่าง ๆ จำนวน 40 แห่ง สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพไทย และองค์กรที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ จำนวน 8 แห่ง
การเตรียมการเรื่องดังกล่าว
กรมบัญชีกลางได้เชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบกลุ่มบุคคลดังกล่าว
ประชุมเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 เพื่อชี้แจงถึงหลักเกณฑ์ ขั้นตอน
และวิธีการต่าง ๆ เพื่อสำรวจ
รวบรวมข้อมูลของผู้มีสิทธิที่อยู่ในสังกัด
และให้จัดส่งข้อมูลผู้มีสิทธิได้รับเช็ค ให้กรมบัญชีกลางภายในวันที่ 5
มิถุนายน 2552
เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความซ้ำซ้อนของข้อมูล
มีบางหน่วยงานข้อมูลคลาดเคลื่อนก็ส่งกลับไปแก้ไข
และส่งกลับมาภายในวันที่ 8 มิถุนายน 2552
โดยรอบแรกนี้ทางธนาคารกรุงเทพจะพิมพ์เช็ค ลงวันที่ 16 มิถุนายน
2552 หน่วยงานต่าง ๆ
รับเช็คได้ในวันที่ 15 มิถุนายน 2552
และกรณีที่ดำเนินการไม่ทันรอบแรกก็สามารถ
ส่งข้อมูลได้ถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2552 ออกเช็ควันที่ 30 มิถุนายน
2552 และได้รับเช็ควันที่ 29 มิถุนายน 2552
หลังจากนี้จะไม่มีการจัดทำเช็คช่วยชาติลักษณะนี้อีก
สำหรับขั้นตอนการรับเช็คช่วยชาติ หน่วยงานที่รับผิดชอบบุคลากรแต่ละกลุ่มจะรับเช็คที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ 2 ครั้ง คือวันที่ 15 และ 29 มิถุนายน 2552 หน่วยงานก็มีหน้าที่จ่ายเช็คช่วยชาติให้แก่ผู้มีสิทธิต่อไป ซึ่งขั้นตอนวิธีการที่จะจ่ายเช็คนั้นหน่วยงานต้องไปพิจารณาตามความเหมาะสม และถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้ถึงมือผู้มีสิทธิรับเช็คจริง ๆ โดยหลักการแล้วควรให้ผู้มีสิทธิรับเช็คด้วยตนเอง ที่หน่วยงานที่ตนเองปฏิบัติงานอยู่ หรือที่ที่หน่วยงานกำหนดตามความสะดวก
รมช.คลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า
สำหรับงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้สำหรับโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ
ที่ได้รับเพิ่มเติม 6 กลุ่มนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนของพนักงานรัฐวิสาหกิจ
ใช้ในวงเงินที่รัฐจัดสรรรอบแรกในส่วนของบุคลากรภาครัฐ 2,652
ล้านบาท
ที่อยู่ในความรับผิดชอบ
ของกรมบัญชีกลาง ซึ่งขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 700 ล้านบาท ส่วนอีก 5
กลุ่มที่เหลือต้องประสานงานกับ
สำนักงบประมาณเพื่อจัดสรรเงินงบกลาง
รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติม
สำหรับกลุ่มใหม่ ได้ส่งข้อมูลเข้ามาแล้ว ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2552 เป็นจำนวน 163,547 ราย เป็นเงิน 327,094,000 บาท จากที่ประมาณการไว้ 500,000 ราย เนื่องจากยังมีบางหน่วยงานยังไม่ได้ส่งข้อมูลเข้ามา เช่น บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น
“ที่ผ่านมามีการประเมินแล้วว่า
ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการจ่ายเช็คช่วยชาตินี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากประชาชนพึงพอใจ
และที่สำคัญเกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึงทุกภูมิภาค
จากกลุ่มแรกที่รับเช็คช่วยชาติ
8,803,487 ราย
มีการนำเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคารแล้ว 8,454,350 ราย หรือร้อยละ
96
เกิดการใช้จ่ายเงินในระบบเศรษฐกิจกว่า 16,908 ล้านบาท
แม้บางรายจะไม่นำไปใช้จ่ายเลย
ก็จะเป็นการออมไว้เพื่อสำรองค่าใช้จ่ายในระยะสั้น
สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับเช็คกลุ่มแรก ยังมีเวลาถึงวันที่
23 มิถุนายน 2552 ถ้าพ้นกำหนดแล้วก็จะนำส่งคืนคลัง” รมช.คลัง
กล่าวตอนท้าย
ไม่ทราบว่าจะทราบได้ยังงัยค่ะว่าเราได้รับเงิน 2,000 หรือไม่เพราะไม่เห็นทางกรมมีหนังสือแจ้งให้ไปรับเช็คเลยหรือว่าให้เฉพาะ คนกลุ่มที่มีประกันสังคม ข้าราชการที่เงินเดือนไม่ถึง
15,000 ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงิน เห็นมีหนังสือออกมาว่าให้นำเงินส่งคืนคลัง สำหรับส่วนที่ไม่มีคนมารับ ไม่ทราบว่าส่วนที่คืนใช่ส่วนของข้าราชการหรือเปล่าค่ะช่วยตอบหน่อย