บทเรียนที่ ๒ មេរៀនទី២
สระ
บทนี้มาเรียนสระกัน สระเมื่อนำไปประกอบกับพยัญชนะจะทำให้เกิดเสียงที่มีความหมายต่างๆ กันไปตามตัวพยัญชนะและสระที่ประกอบกัน สระในภาษาเขมรมีหน้าตาแบบนี้ค่ะ
เรามาทำความเข้่าใจเบื้องต้นกันก่อนนะคะ สระในภาษาเขมร ๑ ตัวจะมี ๒
เสียง นั่นก็หมายความว่า
เมื่อสระตัวใดไปประกอบกับพยัญชนะอโฆษะก็จะออกเสียงแบบหนึ่ง
และเมื่อสระตัวเดียวกันนี้ไปประกอบกับพยัญชนะโฆษะก็จะออกเสียงอีกแบบหนึ่ง
เช่น สระ ា
ประกอบกับ ក
(កា)
ออกเสียง กา
เมื่อประกอบกับ គ(គា)
ออกเสียง เกีย เป็นต้น
หลักการทำความเข้าใจง่ายๆ ก็คือว่า
เสียงแรกเป็นเสียงสำหรับอโฆษะ
เสียงที่สองเป็นเสียงของโฆษะ
เป็นอย่างไรบ้างบทเรียนนี้ยากไปไหม ขยันท่องจำและเขียนให้คล่องมือ ประเดี๋ยวเดียวก็จำได้แล้ว อย่าลืมนะคะสิ่งสำคัญที่สุดคือสระแต่ละรูปจะมีสองเสียง
หมายเหตุ
๑. การ
เขียนคำอ่านภาษาไทยเทียบเสียงกับภาษาเขมรอาจจะทำได้ไม่สมบูรณ์นักเพราะสระบางเสียง
ไม่สามารถเขียนเทียบเสียงกับภาษาไทยได้ตรง
แต่ก็อนุโลมว่าผู้เรียนจะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับภาษาไทย
๒. ระบบ Phonetic ที่ใช้ในบทเรียนนี้อ้างอิงจากหนังสือ Cambodian System of Writing and Beginning Reader with Drills and Glossary by Franklin E. Huffman
ជំរាបលា Good Bye
ขอบพระคุณมากครับ สำหรับความรู้ด้านภาษาอีกภาษาหนึ่ง
เป็นอารยธรรมที่่น่าศึกษาอีกเรื่องหนึ่งทีเดียว
ยิ่งได้ความรู้จากการถ่ายทอดจากผู้รู้
ติดตรงที่เรียนตอนอายุมากนี้ไม่รู้จะจำอันไหนก่อน อันไหนหลัง
ภาษาเขมรเป็นภาษาที่เรียนไม่ยาก (ง่ายกว่าการเรียนภาษาไทย) หลักการง่ายๆ คือ จำและเขียนพยัญชนะและสระให้ได้แม่่นยำเท่านั้น ก็เรียนภาษาเขมรได้แล้วค่ะ ลองติดตามต่อไปนะคะแล้วจะรู้ว่าอายุไม่ใช่เรื่องสำคัญต่อการเรียนภาษาค่ะ
สนใจเรียน ภาษาเขมรค่ะ แต่ยังไม่เข้าใจเรื่องสระ เข้าค้นหาสระได้แล้วแต่ไม่รู้ความหมายของสระ
ท่านใดพอจะส่งให้วาดได้บ้างไหมคะ เอาแบบว่า สระเขมร มีคำแปลด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
ถ้าคุณวาดขยายความคำว่า "ความหมายของสะระ" ให้ชัดเจนกว่านี้น่าจะเข้าใจในความต้องการของคุณวาดได้มากกว่านี้นะคะ สระในภาษาเขมรก็เหมือนกับสระในภาษาไทยที่มันมีหน้าที่ประกอบกับตัวอักษร (พยัญชนะ) ทำให้เกิดคำใดๆ ก็ตามที่มีความหมายต่างกันออกไป แต่สระในภาษาเขมรมันมีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือ สระหนึ่งรูปจะมีสองเสียง คือ จะออกเสียงแบบหนึ่งเมื่อไปประกอบกับพยัญชนะอโฆษะ แต่ถ้าสระตัวเดียวกันนี้ไปประกอบกับพยัญชนะโฆษะก็จะออกเสียงอีกเสียงหนึ่ง เช่น สระ ិ ถ้าประกอบกับพยัญชนะอโฆษะ กอ (ក) / កិ ก็จะออกเสียงา้ว่า เก๊ะ แต่เมื่อสระตัวเดียวกันนี้ไปประกอบกับพยัญชนะโฆษะ โก (គ) គិ ออกเสียงว่า กิ๊ ด้วยประการฉะนี้ค่ะ
เรียน อาจารย์อักษรา
ได้ผ่านเข้ามาในไซท์ของอาจารย์ พบบทเรียนภาษาเขมรบทที่ ๒ เรื่องเกี่ยวกับสระในภาษาเขมร ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้หนูกำลังเรียนภาษาเขมร เพราะชอบภาษานี้ แต่ไม่ทราบว่าสติปัญญาจะพอเรียนได้หรือเปล่า เพราะไวยากรณ์ภาษานี้ยากจังเลยค่ะ อ่านเรื่องสระและสรุปสั้น ๆ ของอาจารย์แล้วก็พอเข้าใจค่ะ
แต่ที่เขียนถึงอาจารย์วันนี้เพราะอยากให้อาจารย์อธิบายเรื่อง สระที่ซ้อนกันอยู่หลายตัว สระเหล่านี้ผู้สอนยังไม่บอกว่ามีไว้เพื่ออะไร และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการออกเสียงไปอย่างไร เช่น สระที่เหมือนสระเอในภาษาไทย แต่ยังมีเลข ๖ อยู่บนสระเออีก หรือการนำตัวพยัญนะวางไว้ใต้พยัญชนะ สิ่งเหล่านี้มีกฏเกณฑ์การใช้อย่างไรบ้างอยากให้อาจารย์ช่วยอธิบายค่ะ
ขอขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าค่ะ
เยาวดี
พยัญชนะที่ซ้อนพยัญชนะนั้นเราเรียกว่าเชิงพยัญชนะ พูดง่ายๆ คือเป็นคำจำพวกคำควบกล้ำและคำที่มีสองพยางค์+ ค่ะ
เรียน อาจารย์อักษรา
ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะสำหรับคำตอบที่กระจ่างขึ้น แต่ก็ยังอยากรบกวนให้อาจารย์อธิบายกฏไวยากรณ์และการนำเชิงพยัญชนะไปเขียนข้างล่าง เพราะนอกจากมีเชิงพยัญชนะข้างล่างตามที่อาจารย์ตอบแล้ว ยังมีสระหน้าพยัญชนะต้น และสระตัวที่ ๒ อยู่ข้างบน และสระตัวอื่นอยู่หลังพยัญชนะอีก
อีกประการหนึ่ง อยากเรียนขอคำแนะนำจากอาจารย์เรื่องหนังสืออ่านประกอบ ไม่ทราบว่าตำราเล่มไหนที่พอซื้อมาอ่านในยามที่ไม่เข้าใจจริง ๆ
หวังว่าคงไม่รบกวนอาจารย์มากเกินไปนะคะ
ด้วยความขอบพระคุณและความเคารพอย่างยิ่ง
เยาวดี
เยี่ยมที่สุดเลยครับ
สนใจมาก ทราบจากอาจารย์ว่าสระมี๒เสียงครับ
ค้นคว้าหลายที่ พบที่นี่แห่งเดียวที่ให้ความรู้ได้ครบสูตร สมบูรณ์ที่สุด แต่ยังงงในบทที่ ๒๓ เรื่องตัวเจิงใต้พยัญชนะวรรค (ในวรรคที่ ๑ แตกต่างจากวรรคอื่น ๆ)