ผู้อ่านทุกท่านรู้จักไข่เค็มไชยา ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มะขามเพชรบูรณ์ ฯลฯ ทราบไหมคะว่าสินค้าเกษตรที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานเหล่านี้จำเป็นจะต้องได้รับความคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546
ตราสัญญลักษณ์
ที่มาของภาพ pcoc.moc.go.th/pcoc/phatthalung/fram2.htm
พระราชบัญญัตินี้มีความสำคัญอย่างไร ขอสรุปความโดยย่อก่อนค่ะว่าพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 ช่วยส่งเสริมการรวมตัวของผู้ผลิตในชุมชน และส่งเสริมให้ชุมชนพัฒนาคุณภาพและชื่อเสียงของสินค้า ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือกันระหว่างบริษัทเอกชนและชุมชนในการผลิตและพัฒนาสินค้าในระดับระหว่างประเทศเพื่อช่วยสร้างความชอบธรรมของการปกป้องชื่อเสียงสินค้าไทย ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นการคุ้มครองเพียงชื่อเสียงของสินค้าเท่านั้น แต่ไม่ปกป้องตัวภูมิปัญญาความรู้โดยตรง
ขอนำเสนองานเขียนที่ผู้เขียนได้ศึกษาไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดังนี้ค่ะ
กฎหมายคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของไทย
เนื่องจากไทยมีนโยบายที่จะให้ความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทางด้านการค้าของประเทศ โดยการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ผลิตในท้องถิ่นมีความต้องการที่จะเสริมสร้างและรักษาภาพลักษณ์ในสินค้าที่ผลิตจากท้องถิ่นของตน และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนสับสนหรือหลงผิดในแหล่งภูมิศาสตร์ของสินค้า โดยกำหนดให้มีการขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์สำหรับสินค้าที่มาจากแหล่งภูมิศาสตร์ และห้ามการใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์อันจะทำให้เกิดความสับสนหรือหลงผิดในแหล่งภูมิศาสตร์อันแท้จริงของสินค้าที่ระบุในทะเบียน ในขณะเดียวกันนโยบายนี้ก็เป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีที่ไทยมีตาม Articles 22 - 24 ของความตกลงว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้าในภาคผนวกท้ายความตกลงมาร์ราเกซจัดตั้ง WTO แต่กฎหมายของไทยที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับนโยบายการให้ความคุ้มครองและรองรับพันธกรณีดังกล่าวข้างต้นได้ จึงจำเป็นต้องยกร่างกฎหมายคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ขึ้นมา ปัจจุบันพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 ได้ถูกประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว โดยมีผลใช้บังคับในวันที่ 28 เมษายน 2546 เป็นต้นไป
http://cmi-rsc.ricethailand.go.th/images/gi_rice.jpg
1 สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ได้รับความคุ้มครอง
การคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์โดยทั่วไป อาจแบ่งได้เป็น 2 ระดับ คือ
(1)ระดับปกติ ใช้กับสินค้าทั่วไป โดยมุ่งป้องกันมิให้มีการ
นำสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไปใช้ในลักษณะ ที่จะทำให้คนสับสนหลงผิดในแหล่งที่มาของสินค้านั้น เช่น ผู้ผลิตไข่เค็มที่เชียงใหม่ ไม่สามารถใช้คำว่า “ไข่เค็มไชยา” กับสินค้าของตนได้ หากทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด คิดว่าไข่เค็มของตนมาจากอำเภอไชยา
(2)ระดับพิเศษใช้กับสินค้าเฉพาะอย่าง (ที่กำหนดไว้ใน
กฎกระทรวง) เป็นการห้ามการใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นั้นทุกกรณี แม้จะไม่ได้ทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดก็ตาม เพื่อคุ้มครองไม่ให้มีการแสดงให้ทราบถึงแหล่งภูมิศาสตร์ของสินค้าโดยใช้คำว่า “ชนิด” หรือ “แบบ” หรือคำทำนองเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความตกลงระหว่างประเทศ TRIPS ได้กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำที่ทุกประเทศสมาชิก WTO จะต้องให้ความคุ้มครองสินค้าประเภทไวน์และสุรา ในระดับพิเศษ ตัวอย่างการคุมครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในระดับพิเศษนี้ เช่น ผู้ผลิตไวน์ในประเทศไทยไม่สามารถใช้คำว่า “Bordeaux” ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการอ้างโดยอ้อม เช่น ผลิตแบบ Bordeaux หรือชนิดเหมือน “Bordeaux “หรือแม้จะได้ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าเป็นไวน์ที่ผลิตในไทยก็ตาม เป็นต้น
2 สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ไม่อาจขอรับความคุ้มครอง
ตามมาตรา 5 “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ขอขึ้นทะเบียนสำหรับสินค้าใดต้องไม่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
(1) เป็นชื่อสามัญของสินค้าที่จะใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
(2) เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือนโยบายแห่งรัฐ”
กรณีชื่อสามัญ ตามมาตรา 3 ได้จำกัดความไว้ดังนี้
“ชื่อสามัญ หมายความว่า ชื่อที่รู้จักกันโดยทั้วไปว่าเป็นชื่อที่ใช้เรียกขานสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง”
คำเรียกขานสินค้าใดก็ตามเมื่อเป็นที่รู้จักจนติดปากกันทั่วไปก็จะมาขึ้นจดทะเบียนไม่ได้ เช่น คำว่า “ชาจีน” มิได้หมายความถึงชาที่ผลิตจากจีนเสมอไป แต่เป็นลักษณะของชาชนิดหนึ่งที่ดื่มเป็นถ้วยเล็ก ๆ ไม่นิยมเติมนมหรือน้ำตาล ซึ่งแตกต่างจาก “ชาฝรั่ง” ที่นิยมเติมนมหรือน้ำตาลเพื่อปรุงรสเพิ่มรสชาติ นอกจากนี้แล้ว สายพันธุ์พืชหรือสายพันธุ์สัตว์ทั้งสายพันธุ์ที่มีชื่อซ้ำกับชื่อท้องถิ่นและเป็นชื่อเฉพาะโดยไม่เป็นชื่อท้องถิ่นก็ไม่สามารถนำมาขึ้นทะเบียนได้อยู่แล้ว เช่น มะม่วงพันธุ์เขียวเสวย สุนัขพันธุ์บางแก้ว แมวสีสวาด เป็นต้น
นอกจากกรณีดังกล่าว ตามมาตรา 6 สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของต่างประเทศที่ไม่ได้รับความคุ้มครองในประเทศนั้น หรือที่ไม่มีการใช้ในประเทศนั้นอีกต่อไปก็จะขอขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ไม่ได้เช่นกัน
3 เงื่อนไขการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
สินค้าที่ใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์มักจะเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยม เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษหรือมีลักษณะเฉพาะที่เกิดจากอิทธิพลสิ่งแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ เช่น สภาพแวดล้อม ดิน ฟ้า อากาศ ของแหล่งภูมิศาสตร์นั้นๆ ตลอดจนทักษะความชำนาญและภูมิปัญญาของกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในแหล่งภูมิศาสตร์นั้นๆ ประกอบด้วย สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์มีความแตกต่างจากทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่น กล่าวคือ ผู้เป็นเจ้าของไม่ใช่บุคคลหนึ่งบุคคลใดแต่เป็นกลุ่มชนที่เป็นผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์นั้นๆ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ผลิตที่อาศัยอยู่ในสถานที่หรือแหล่งภูมิศาสตร์ และผู้ประกอบการเกี่ยวกับสินค้าที่ใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นั้นเท่านั้น ที่มีสิทธิผลิตสินค้าดังกล่าวโดยใช้ชื่อแหล่งภูมิศาสตร์นั้นได้ ผู้ผลิตคนอื่นที่อยู่นอกแหล่งภูมิศาสตร์จะไม่สามารถผลิตสินค้าโดยใช้ชื่อแหล่งภูมิศาสตร์เดียวกันมาแข่งขันกันได้ สิทธิในลักษณะดังกล่าวนี้นักวิชาการบางท่านเรียกว่า “สิทธิชุมชน” ซึ่งไม่สามารถนำสิทธิที่ได้รับไปอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้ต่อได้ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่แหล่งภูมิศาสตร์เท่านั้นที่มีสิทธิใช้
www.pattayaadvertising.com/news/news_silk.html
ผ้าตีนจกแม่แจ่ม จ. เชียงใหม่
www.prdnorth.in.th/ct/news/viewnewsN.php?ID=0...
เงื่อนไขสำคัญในการขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ได้แก่ คุณภาพ ชื่อเสียง หรือคุณลักษณะเฉพาะอื่นๆ ของสินค้าที่จะใช้กับสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นั้น จะต้องมีความสัมพันธ์กับท้องถิ่นหรือสถานที่ภูมิศาสตร์นั้น ตัวอย่างเช่น กรณีของไข่เค็มไชยาที่มีลักษณะเฉพาะที่นักชิมทั้งหลายติดใจ คือไข่แดงที่ใหญ่และแดงสดนั้น เป็นผลมาจากอาหารตามธรรมชาติที่เป็ดกินและมีอยู่เฉพาะในท้องถิ่นนั้นเท่านั้น ดังนั้น แม้จะนำเป็ดพันธุ์เดียวกันไปเลี้ยงที่จังหวัดอื่น ก็จะไม่ได้ไข่ที่มีลักษณะเดียวกันกับที่ได้จากการเลี้ยงในอำเภอไชยา เช่นนี้ถือได้ว่าคุณภาพของไข่เค็มไชยานั้นมีความสัมพันธ์กับท้องถิ่นนั้นแล้ว
www.thaingo.org/.../content2/show.pl?0124
หากท่านใดสนใจเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และสินค้าเกษตรกรรมที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายนี้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบันทึกของกัลยาณมิตรใน gotoknow และ learners ของเรานี่เองค่ะ ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมไว้ดังนี้
ปารินุช
กรมทรัพย์สินทางปัญญา
http://gotoknow.org/blog/ouioui/45814
LiLa
การคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาตร์ : ทิศทางและแนวโน้ม
http://gotoknow.org/blog/geo/45203
ดร.แป้น
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (ตอน 1)
http://learners.in.th/blog/praphasri5/65164
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (ตอน 2)
http://learners.in.th/blog/praphasri5/65176
กฎหมาย คือ กติกา ของคนกลุ่มใหญ่ แต่หลายท่าน ใช้กฏ ของตนเอง หรือ ใช้ ความรู้สึก ครับ
div#title{font-size:small; color:##99FFFF;background:#0066CC
url(http://gotoknow.org/file/pirachaya/Miracleoflove1.jpg)
no-repeat center; ;}
แล้วจะมาดูนะครับ
สวัสดี ครับ คุณ sila
ผมเข้ามาชื่นชม ผลงาน ครับ
ชอบ ความคิดที่หลากหลาย ในความเป้นคุณ sila
แต่ผมว่า ผมมีบางสิ่ง ที่คิดคล้าย ๆ คุณ sila อยู่หลากเรื่อง นะครับ
ระลึกถึง..ครับ
ต้องกลับแล้วครับ...วันนี้ฟ้าไม่ใส...แต่ใจคนซิสวย
ไปแล้ว ครับ
ขอโทษที่ไม่ได้มาทักทายนานเลยนะคะ
ยุ่ง ๆ ค่ะ
หลังประเมินสมศ. ก็ญาติไม่สบายอีก
ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ
มาอ่านความรู้ค่ะ น้องไม่ค่อยรู้เรื่องกม. อะไรเท่าไหร่
รู้เพียงกม.หัวใจ ค่ะ J … เดี๋ยวพี่จะหาว่าฟุ้งไปเรื่อย
ผลิตภัณฑ์ชาวบ้านที่ผ่านมาถูกขโมยลิขสิทธิ์ไปเยอะเลยค่ะ
แม้แต่ลิขสิทธิ์ ต่างๆ ค่าใช้จ่ายในการจดสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ต่างๆ แพงมากค่ะ
เอาผักพื้นบ้านมาฝากค่ะ