ในช่วงสงกรานต์ปีนี้ดิฉันและครอบครัวได้ซื้อทัวร์ไปเที่ยวปักกิ่ง เป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-19 เมษายน 2552 กับฟอร์เรสทัวร์ ในคณะทัวร์มีทั้งหมด 4 ครอบครัว ทั้งหมด 12 คน รวมทั้งไกด์ชาวไทย ไกด์มีลักษณะนิสัยสุภาพ น่ารักชื่อน้องตุ๊กตา เพื่อนร่วมทัวร์ของเรา ครอบครัวที่ 1 ประกอบด้วย 4 คนพ่อ แม่ ลูก พ่อเป็นชาวต่างชาติ แม่เป็นคนไทย เป็นครอบครัวทำงานบริษัทยา ลูกๆ เรียนโรงเรียนนานาชาติ ทั้งครอบครัวน่ารัก ครอบครัวที่ 2 เป็นคู่สามีภรรยาทำงานเป็นเภสัชกรทั้งคู่ นิสัยน่ารักทั้งคู่ ครอบครัวที่ 3 เป็นคู่สามีภรรยาทำอาชีพธุรกิจ นิสัยน่ารัก คุยสนุกมากๆ ครอบครัวสุดท้ายเป็นครอบครัวดิฉันเอง เราเป็นครูทั้งคู่ ลูกสาวเป็นเภสัชกร ซึ่งสรุปได้ว่าในการเที่ยวทัวร์ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับคนที่ทำงานกับยาโดยไม่ได้คาดหมาย ถึง 3 ครอบครัว ที่ดิฉันเล่าอย่างละเอียดถึงพื้นฐานของแต่ละครอบครัวเพราะว่าในการทัวร์ครั้งนี้ของพวกเรา เราเข้ากันได้ดี สนุกสนานมีความสุขกับการเที่ยว กับน้องไกด์ชาวไทยเป็นอย่างดี ในระหว่างทัวร์จะมีไกด์จีนซึ่งเป็นคนไทยที่มีสามีเป็นชาวจีนเป็นผู้นำเที่ยว น้องก็นำเที่ยวได้สนุกดี แต่ที่ดิฉันก็ติดใจบางประการคือเขาจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศจีนได้ดีมากๆ ๆ ๆ คือเขาพาคณะทัวร์ไปที่แห่งหนึ่งที่เป็นบริษัทยาโดยบอกคณะทัวร์ว่า....เดี่ยวเราจะไปชมและแช่เท้าฟรีเพราะเราเดินกันมาทั้งวัน..... ไอ้เราก็นึกว่าฟรีจริงๆ ที่ไหนได้เมื่อไปถึงเขาจัดห้องไว้เป็นห้องๆ นำคณะทัวร์เข้าไป ล่ามแปลและให้ทุกคนแช่เท้า ขณะที่แช่เท้าเขาก็แนะนำหมอแมะรักษาฟรี มีหรือที่เราจะไม่เอา (นักท่องเที่ยว 1 คน มีหมอจับเท้านวดอยู่ 1 คน ล่ามแปล 1 คน และมีหมอแมะตรวจอีก 1 คน) หมอตรวจ 2 นาที บอกดิฉันว่าคุณเป็นเส้นเลือดแดงใหญ่ข้างขวาแข็งตัว ถ้าไม่รักษาจะเป็นอัมพาต ถามดิฉันว่าจะรักษาหรือไม่ ดิฉันก็บอกว่ารักษา เขาสั่งจ่ายยาคือเห็ดหลินจือ 12 ขวด เป็น 7200 หยวน อัตราแลกเปลี่ยนวันนั้นคือ 5.88 บาท/หยวน ดิฉันเสียเงินโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่ทันรู้ตัวเกือบ 40,000 บาท ภายในเวลา 5 นาที ดิฉันถามหมอว่าทำไมสั่งเห็ดหลินจือ ทำไมไม่สั่งฟงเจียวซึ่งเป็นยารักษาอาการของโรคที่ดิฉันเป็นตามที่หมอบอก (ยาราคาถูกกว่าเห็ดหลินจือ)หมอส่งเสียงดังมาก (ดิฉันข้องใจมาก เพราะเขาเสนอรายการยาของเขาโดยเขียนชื่อยา รายละเอียดในการรักษา แต่หมอวินิจฉัยโรคแล้วสั่งยาที่ราคาแพง โดยที่สรรพคุณของยาไม่เกี่ยวข้องกับโรคที่ดิฉันเป็นเลย ดิฉันก็เลยคิดว่านี่คือยุทธวิธีการค้าขายไม่ใช่การรักษาโรค หากใครที่จะไปปักกิ่งให้ระวังในจุดนี้ด้วย ไกด์เขาจะไม่บอกนะคะ หรือว่านึ่คือมารยาทของไกด์ เย็นวันนั้นเราชาวคณะทัวร์ก็คุยกันปรากฏว่าแต่ละครอบครัวหมดเงินกับสถานที่นี้ครอบครัวละเกือบห้าหมื่นบาททุกครอบครัว เราก็เลยคุยกันขำๆ ว่าก็จับขาอยู่ 1 คน จับมือขวา 1 คน มือซ้าย 1 คน เท้าก็แช่ยาอะไรก็ไม่รู้ เราไม่รู้ตัวก็หมดตัวอย่างนี้แหละ แหย่เรื่องนี้กันได้ทุกวันจนกลับ 5 5 5 5 5...
สวัสดีครับเป็นสิ่งเตือนใจที่ดีมาก
ถูกต้มแล้วคะทำเป็นขบวนการคะ
การบริการที่หลอลวงและยัดเยียด
ทำกันเป็นนิสัยคะ
เข้ามาทักทายกันครับพี่ปริมปราง สบายดีนะครับ
ขอบคุณน้องก้ามกุ้งที่เข้ามาทักทายและส่งดอกกุหลาบมาฝาก สวยมากคะ
ขอบคุณคุณเบดูอินและน้องมะลิวัลย์ กรรชัยพลอย ที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอบคุณมากคะ
ตอนผมไปก้อมีแช่เท้า หมอแมะให้เหมือนกัน บอกว่า เป็นโน่น นี่ นั่น แต่ไม่ได้บังคับจ่ายยานะครับ อยู่ที่ความสมัครใจ กรุ้ปผมไม่ซื้อยา
ซักบาทเลย เพราะเราไปเที่ยวจีน ทุกปีอ่ะครับ และเราทำงานบริษัทยาเหมือนกัน เค้าเลย ไม่ค่อยกล้าเสนอ เท่าไรอ่ะครับ
ขอบคุณ คุณองอาจที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น กลุ่มทัวร์ของเราที่ไปพวกเราแสดงท่าทางสนใจ ตั้งใจฟังเขามากหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าส่วนใหญ่เรามีโรคประจำตัวกันอยู่ สิ่งที่เขาพูด ตรวจ แนะนำ ทำให้โดนใจของเราเกือบทุกคน ยกเว้นคู่สามีภรรยาเภสัชกรที่เขาไม่ซื้อยาเลย นอกนั้นถูกทุกคนเพราะเราแต่ละคนคือคนป่วยตัวจริง
ตามมาเที่ยวด้วยครับ (ผมว่าน่าจะมีภาพมาฝากบ้างนะครับ)
ขอบคุณ คุณsmall man ที่เข้ามาทักทายคะ อยากจะเอาภาพลงใจจะขาด แต่ทำอย่างไรก็ทำไม่ได้ กำลังพยายามอยู่คะ
ขอบคุณค่ะ คุณธรรมทิพย์ ที่แวะมาทักทาย
เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ครับอาจารย์ ขอเป็นเพื่อนด้วยคนนะครับ
สวัสดีค่ะ คุณ กัณหา แก่นวงษ์