โครงการส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
โครงการส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
การดำเนินงานสหกรณ์ในประเทศไทยได้เริ่มขึ้นตั้งแต่พุทธศักราช ๒๔๕๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรอย่างยิ่งทรงย้ำอยู่เสมอให้ใช้หลักการของสหกรณ์มาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ด้วยระบบสหกรณ์จะช่วยพัฒนาอาชีพและเกษตรกรให้มีพลัง เพราะได้มีการรวมตัวกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทรงพิจารณาเห็นว่าการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ดีกินดีขึ้น รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือได้ตลอดไป ด้วยมีขีดจำกัดด้านงบประมาณค่าใช้จ่ายรัฐบาลเพียงแต่ช่วยในด้านของปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพและดูแลมิให้เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบเท่านั้นเกษตรกรจึงไม่ควรรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ควรฝึกหัดให้รู้จักช่วยเหลือตนเอง รู้จักพัฒนาอาชีพและร่วมมือร่วมใจรวมกันเป็นกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยนำหลักการของสหกรณ์มาใช้ในการพัฒนากลุ่มของตน
พระองค์จึงส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อฝึกให้เกษตรกรรู้จักวิธีดำเนินงานของระบบสหกรณ์และเกิดทัศนคติ นอกจากนี้ระบบสหกรณ์ยังเป็นพื้นฐานของการสร้างระบอบประชาธิปไตย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ให้นำระบบสหกรณ์ไปใช้ให้แพร่หลายในสถาบันทุกเหล่า ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเป็นปึกแผ่นมั่นคง
การส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นอกจากการส่งเสริมสหกรณ์ตามปกติแล้ว จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงตนเองได้ ที่สำคัญคือการน้อมนำองค์ความรู้ทั้งทฤษฎีใหม่ แนวเศรษฐกิจพอเพียง และแนวพระราชดำริต่างๆ ไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ และต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยราชการต่างๆ หลายหน่วยงาน และที่สำคัญคือจากตัวเกษตรกรเองจะต้องปฏิบัติตามจึงประสบผลสำเร็จได้ซึ่งหน่วยงานผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ คือหน้าที่ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
สำนักงานสหกรณ์จังหวัดปัตตานี ซึ่งรับผิดชอบงานเพื่อสนองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ภายใต้โครงการส่งเสริมสหกรณ์ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่จังหวัดปัตตานี ๒ โครงการย่อย คือ โครงการทุ่งลิปะสะโง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรทุ่งลิปะสะโง จำกัด และโครงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพผู้เลี้ยงปลากะพง ได้แก่สหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำยะหริ่ง จำกัด
ทุ่งลิปะโงเป็นพื้นที่แปลงใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ ๑๕,๘๔๕ ไร่ ตั้งอยู่ตำบลทุ่งลิปะโง อำเภอหนองจิก พื้นที่ส่วนนี้มักประสบปัญหาน้ำท่วมขังทำให้ราษฎรไม่สามารถทำการเกษตรได้ ต่อมาเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๑๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรที่ตำบลนี้และได้พระราชทานคำแนะนำแก่เจ้าน้าที่และราษฎร ให้ใช้ระบบชลประทานช่วยระบายน้ำพร้อมทั้งได้จัดที่ดินแปลงนี้ให้ราษฎรเข้าทำประโยชน์ในรูปหมู่บ้านสหกรณ์
จังหวัดปัตตานีได้ดำเนินการโครงการ “จัดที่ดินหมู่บ้านพระราชดำริทุ่งลิปะสะโง” พร้อมทั้งขอความร่วมมือจรากส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการเพื่อสนองพระราชดำริจัดที่ดินทำกินให้ราษฎรเข้ามาเป็นสมาชิก และให้มีที่ดินทำกินครอบครัวละ ๑๕ ไร่ พร้อมกับจัดตั้งหมู่บ้านขึ้น ๓ หมู่บ้าน มีคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นผู้วางนโยบายในการดำเนินกิจกรรมของหมู่บ้านจัดหมู่บ้านสหกรณ์ โดยมีสหกรณ์การเกษตรทุ่งลิปะสะโง จำกัด เป็นสถาบันหลักเพื่อนำการพัฒนา ดำเนินการจัดตั้งเสร็จเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๒๒ มีสมาชิกแรกตั้ง ๑๖๔ คน ทุนเรือนหุ้น ๘,๒๐๐ บาท จนถึงปี ๒๕๕๑ ที่ผ่านมามีสมาชิกเพิ่งขึ้นเป็น ๑๗๙ ราย
โครงการ ส่งเสริมพัฒนาอาชีพผู้เลี้ยงปลากะพงเป็นผลสืบเนื่องมาจากราษฎรในพื้นที่ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง ประกอบอาชีพการเลี้ยงปลากะพงในกระชังประสบปัญหากับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยนายมานพ เบญจวรรณ และพวกจำนวน ๗๙๐ ราย ได้ถวายฎีกาขอพระราชทาน ความช่วยเหลือจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๒ ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ได้ร่วมกับจังหวัดปัตานี ส่งเสริมให้ราษฎรรวมตัวกันเป็นสหกรณ์ เพื่อช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการประกอบอาชีพ อันจะเป็นสถาบันของเกษตรกรที่จะสามารถรองรับความช่วยเหลือจากภาครัฐและภาคเอกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยในระยะแรกสำนักงาน กปร.ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนด้านเงินทุนเกี่ยวกับการจัดพันธุ์ปลาและอาหารปลา โดยให้เป็นความต้องการจากตัวราษฎรเอง และราษฎรเป็นผู้ปฏิบัติ ทางการให้การสนับสนุนในสิ่งที่จำเป็น จัดหาหรือจัดให้มีเงินทุนเพื่อการพัฒนาส่วนหนึ่งต้องมาจากราษฎรเอง เพื่อให้ราษฎรมีความรู้สึกมีส่วนร่วมและรับผิดชอบต่อเงินทุน
และให้ราษฎรรวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์เพื่อรวมทุนกัน รวมคนช่วยเหลือซึ่งกันและกันร่วมกันบริหารจัดการ และเป็นศูนย์กลางเพื่อการพัฒนาทุกๆ ด้าน ได้แก่ด้านการออมทรัพย์ วัฒนธรรม สาธารณสุข และการตลาด เพื่อราษฎรจะได้ทำการค้าขายเป็น และป้องกันตนเองมิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจึงได้จัดตั้งเป็น สหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำยะหริ่ง จำกัด ประเภทสหกรณ์ประมง จดทะเบียนเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๔ สมาชิกแรกตั้งจำนวน ๓๖๐ คน มีทุนเรือนหุ้น ๔๔,๕๕๐ บาท
ปัจจุบันมีความคืบหน้าจนสามารถจัดส่งปลากะพงที่สมาชิกสหกรณ์เพาะเลี้ยงไปจำหน่ายยังประเทศมาเลเซียได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลผลิตที่เกิดความต้องการบริโภคของสมาชิก ยังมาซึงรายได้ของสมาชขิกอย่างต่อเนื่องตลอดมาจนทุกวันนี้
ความเห็น (5)
- สวัสดีครับ ขอบคุณที่นำข้อมูลดีๆ มาให้อ่าน
- ทำให้เข้าใจในเรื่องของการสหกรณ์มากขึ้น
- รบกวนคุณสารินี นำข้อมูลด้านสหกรณ์มาลงในบล๊อกอีกนะครับ
^-^ หวัดดีค่ะคุณชัยวัฒน์
^-^ ขอบคุณชัยวัฒน์มาค่ะ จะนำข้อมูลด้านสหกรณ์มาลงในบล็อกให้มากขึ้นค่ะ
^-^ ค่อยติดตามอ่านนะค่ะ
- ตามมาทักทายพี่
- มาดูโครงกาส่งเสริมด้วย
- หายไปนานเลยนะครับ
สวัสดีครับ . สารินี ไกรพจน์ เป็นเรื่องราวดีดีที่มีในสหกรณ์ ที่ทำให้พวกเราได้ทราบ รู้สึกจะมีท่านคนเดียวที่ให้ความรู้เรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพ ขอให้อยู่คู่ GTK ตลอดไปนะครับ
^-^ 
อ.ขจิต......
ผอ.ประจักษ์
