นกแอ่นกินรัง หน้าที่ 33


ใต้เงาปีก

นกแอ่นกินรังหน้าที่ 33

ประโยคเด่นวันนี้ โรแมนติค ล่วงหน้าไปถึงเดือนกุมภานั่นเลยทีเดียว

บันทึกหน้าที่ 32 เราทายใจกันว่า แม่นกจะไข่กี่ใบ มีคนเดาเข้ามาสองร้อยกว่าคน แต่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร 2 คน (อืม..แสดงว่า rating บันทึกของครูเล็ก ดีมาก ) ก็เลยขยายเวลา เปิดโอกาสให้นักอ่านมือใหม่ และเพื่อนเก่า ปีเว้นปี เข้ามาทายกันอีกสักหน่อย จึงค่อยเฉลย

***********************

บันทึกหน้านี้จึงเป็นเรื่องเสริม แต่ก็มีแย๊บถึงนกอีแอ่นอยู่หน่อย

ก่อนสงกรานต์จนสงกรานต์เลยล่วง ครูเล็กตะลอนทัวร์ทางภาคใต้ ด้วยภาระกิจลับ

เรื่องหนึ่งที่ไม่ลับก็คือ การตะเวนดำ(ผิวน้ำ) ดูปะการัง ทั้งภาคใต้และอ่าวไทย

ทำไมจึงชอบ ตามประวัติศาสตร์การเรียน ของครูเล็ก ป.ตรี วิชาโททางวิทยาศาสตร์ทางทะเล ป.โท ก็ทำวิจัยที่เกี่ยวเนื่องกับทะเล จนถึงบัดนี้วัยสายแล้ว ก็ยังต้องสอนวิชาที่ต้องไปทะเล-แนวปะการังอยู่

ความงามของปะการังไทย ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ใกล้สุด แค่แสมสาร  เกาะสีชัง จนถึงเกาะสมุย เกาะพงัน และภูเก็ต ในครั้งกระโน้น(10-20ปีที่แล้ว) มันงามจาดนัก  ครูเล็กจึง มักและม่วนกับการตีโป่ง เล่นน้ำทะเล เอาลูกมะพร้าวมาเป็นทุ่นลอย(โห รุ่นไหนเนี่ย) และดำผิวน้ำดูปะการังเป็นที่สุด 

ชักชวนเพื่อนๆ และลูกศิษย์ลงทะเลกันทุกปี ปีละ 2-3 ครั้ง เฮฮาเติมน้ำยาแอร์ในใจกันมาตลอด  หากว่าวันไหนไม่ไปดูนกในป่า ดูฟ้า และดาว +++++ทราบเหตุผลแล้วดิ ว่าทำไม blog จึงเดินช้า +++ก็ปีหนึ่งๆ เติมน้ำยาแอร์กันสัก 3 เดือนเต็มได้มั้ง แล้วที่เหลือก็ต้องรับใช้ราชการบ้างดิ ครูดีเด่นนะเนี่ย

เมื่อก่อนครูเล็กตะลอนเอง ไม่พึ่งทัวร์ แต่ระยะหลังๆ 10 ปีมานี้ เริ่มใช้บริการทัวร์ ทั้งวันเดย์ทริป และแบบเหมากลุ่ม 3 วัน 2 คืน ราคาและสถานที่ก็ตามดีกรีของกลุ่มที่ไปด้วย ทั้งโลโซ จนถึงไฮซ้อ

ถ้าไปกับทัวร์ จะรู้เลยว่า ทำไมทรัพยากรไทยจึงล้มหายตายจาก เหลือแต่ซากปะการังด้านๆ

ไม่ว่าทัวร์ระดับไหน  ก็พบเห็นนักท่องเที่ยวหลายรูปแบบเหมือนกันหมด

นอกจากธุรกิจประมง น้ำเสีย แล้ว ธุรกิจท่องเที่ยวนี่แหละที่ปล้นปะการัง ทีละน้อย

อยากเจอจังนักท่องเที่ยวที่ "ระมัดระวังไม่เหยียบปะการรัง" แต่ก็ไม่มี

มีแต่กลุ่มของครูเล็ก (ไม่ได้โม้ หรืออวดตัว แต่เรื่องจริง เพราะว่าพวกเราลอยตัว ไม่เป็นพวกเหนื่อยง่าย ไม่หยุดยืนบนปะการัง นอกจากบนก้อนหิน  เอาหัวเป็นประกันได้ และครูเล็กก็รู้จักปะการรัง ว่าต่างจากก้อนหินอย่างไร เพื่อนเราเหนี่อยก็ไม่ลงอีก  ดีกว่าไปยืนหอบกลางน้ำทะเล เพื่อนว่า ...เดี๋ยวดำเพิ่ม..มันไม่ใช่นักอนุรักษ์หัวชนฝาหรอก)

นักท่องเที่ยวทุกคนถูกเตือนให้ระวังเม่นทะเลหนามยาวสีดำ... ย้ำนักให้ถอยห่าง แต่ไม่มี และบางที อาจจะ...ไม่เคยมี  tour leader คนไหนบอกลูกทัวร์ของเขาก่อนลงน้ำ ว่าดำดูอย่างไร ระมัดระวังอย่างไร แม้แต่สอนการใช้หน้ากาก และสนอร์คเกิล ก็ไม่มี  เขาคง assume ว่าลูกทัวร์ของเขาใช้เป็นทุกคน รู้เรื่องปะการังกันทุกคน

 คนนำเอง ที่มีตีนกบ สนอร์กเกิล ดำน้ำเก่งมาก ก็ยังเหยียบปะการังขณะพักสอดส่ายสายตาดูแลความปลอดภัย 

ดูแลน่ะดี แต่การยืนบนปะการังสมอง ไม่ดีเลย ปะการังสมองคล้ายกับก้อนหิน อาจจะไม่รู้จัก(ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ?)

แต่พวกเขาก็ทำตามกฏคือผูกทุ่นเรือในที่ที่จัดไว้ให้

บางจังหวัด แบบ one day trip มีนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติ ถูกส่งมาจากหลายบริษัททัวร์รวมกันในเรือหนึ่งลำ การบริการดี จนถึงดีมาก ตามเกรดของราคา ถ้าเอ่ยชื่อเรือ เดี๋ยวถูกครหาว่ามีค่าสินจ้างให้โปรโมต

แต่ที่จะเอ่ยต่อไปนี้ คนที่นั่น โดยเฉพาะ "ททท จังหวัด" คงบอกว่า อย่าเอ่ยเลย

ที่เขียนตรงนี้ ไม่ได้อยากตำหนิไปเรื่อยเปื่อย แต่เขียนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (ให้เกิดประโยชน์ เกิดการปรับปรุง)เผื่อฟลุก ผู้มีอำนาจ ผู้บริหารบางคนมาอ่าน อาจจะฉุกคิดแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับธุรกิจทัวร์ทะเลไทยก็ได้

ทัวร์ทะเลอันดามัน บางจังหวัด ที่แบบ one day trip มีเรือขนาดใหญ่ รับนักท่องเที่ยวเป็นร้อย คนนำทัวร์ทั้งเหยียบปะการัง และแม่บ้านในเรือก็ทิ้งเศษอาหาร (น้ำแกง) ลงไปในน้ำทะเล ส้วมและสิ่งปฏิกูลน่ะ คาดว่าจะมีท่อตรงลงทะเลอยู่แล้ว

นักท่องเที่ยว 50 % มีวัฒนธรรมให้อาหารปลาเพื่อความเพลิดเพลินเจริญตาของพวกเขา ปลาก็ enjoy eating กันถ้วนหน้า กฏแห่งวิวัฒนาการถูกสั่นคอน

เคยมีนิสิตป.โท ที่ม.นเรศวร (คณะเกษตรฯ)ทำวิจัยถึงผลกระทบของนักท่องเที่ยวดำน้ำ(ทั้ง scuba และ snorkling) ต่อแนวปะการัง ก็พบว่า พวกดำน้ำผิวน้ำมักจะทำร้ายปะการังมาก แต่ไม่ได้เอ่ยถึง tour leader ซึ่งเราเห็นว่า มีทำร้ายปะการังเองกะตา

พวกดำน้ำลึกscuba ก็มักเป็นการเตะ สัมผัส แม้แต่ก๊าซจากการหายใจ และปัสสาวะก็มีผลกระทบ ! พวกให้อาหารปลาก็อีก

ก็คงต้องมีงานวิจัยต่อไปว่า ปลาจะเป็นโรคอะไรบ้าง วันๆ มันกินแต่ขนมปัง และjungle food ประเภทอาหารขบเคี้ยว

ขณะว่ายน้ำ ครูเล็กก็สร้างกระแสน้ำอุ่นอยู่บ่อยๆ ถึงมาปล่อยปัสสาวะในห้องน้ำบนเรือ มันก็ลงไปสู่ทะเลอยู่ดี  นี่คือผลกระทบจากการท่องเที่ยว ครูเล็กเองก็สร้างผลกระทบด้วย

ตามเกาะที่มีหาดทรายให้แวะพัก นักท่องเที่ยวเอาน้ำขวดไปดื่ม แล้วก็ลืมหยิบขวดเปล่ากลับ ผู้นำทัวร์ก็มองไม่เห็น ชายหญิงในชุดว่ายน้ำสะดุดตา จะงามยิ่งขึ้นถ้าพวกเขาหยิบขยะกลับมาด้วย

ตอนที่ว่ายน้ำเข้าไปในถ้ำที่มีเกาะข้างใน พวกเราจะใส่ชูชีพเกาะกันไป ลากโดยผู้นำทัวร์ ที่โผล่อีกที ก็เป็นปล่องเห็นท้องฟ้า เห็นหาดทรายสวย...จำได้ไหม คือ รัตนชาติแห่งทะเล

เมื่อก่อน  เราจะว่ายเข้าไปอย่างเงียบๆ มองย้อนออกมาหน้าถ้ำ เห็นน้ำสีมรกตและหินหน้าถ้ำสีดำ พอถึงปล่องถ้ำ ก็เห็นหาดทรายสวย ต้นไม้เขียว น้ำทะเลสีมรกตอีก มันงามแบบบริสุทธิ์ ถ้าคุณเงียบเสียง มันจะตะลึง และขอบคุณคนค้นพบคนแรก

ครูเล็กมา 3-4 ครั้งแล้ว ทุกครั้งจะเห็นสีมรกต  แต่ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลง 

คนนำทัวร์คงจะเห็นว่าว่ายน้ำเงียบๆ นักท่องเที่ยวอาจจะกลัว ก็เลยเชียร์ให้ตะโกนกันกึกก้อง ความงามสองข้างทาง ทั้งก่อนลอดเข้าไปและภายในปล่อง ถูกกลบด้วยเสียงโห่ ฮุยเลฮุย และนกหวีด ปี๊ด ปี่ ปิด

พอเข้ามาก็เห็นป้ายปูน แบบคล้ายๆ unseen บอกชื่อสถานที่ให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายรูป ตันตาอยู่บนหาด

ความเป็นธรรมชาติ ความบริสุทธิ์ของมัน ความเป็นต้นฉบับ ถูกข่ม--ขืนไปเสียแล้ว

************

ถ้ำที่จังหวัดสตูล มีเพื่อนชาวblogแนะนำว่าเป็น "unseen" ก็ต้องไป

unseen จริงๆ คนขับรถเป็นคนในพื้นที่(ตรัง) ยังหลง อ้อมไปอ้อมมา สุดท้ายมาอยู่ที่เดิม ต้องถามทาง3-4 ครั้ง เราหลงไปเกือบ 50 กม.เพราะเล่นซ่อนหากับป้ายบอกทาง คนขับยกนิ้วยืนยัน มัน unseenจริงๆ (ฮา..)

แต่ถ้ำภูผาเพชร ดีตรงที่สวยใช้ได้ และจัดการ+ รายได้ลงสู่ชุมชน มีคนท้องถิ่นนำทาง แม้วันนั้นแกจะนึกรายละเอียดไม่ได้มาก (อาจเป็นเพราะว่าลุงแกจะกลึ่มๆ มีกลิ่นละมุดสุกอยู่สักหน่อย อย่าไปว่าเขา ต้องให้กำลังใจ ที่แกบีนเขาขึ้นไปได้ ไม่มีหอบ  คนไม่มีแอลกอฮอล์ยังหอบแฮกๆ  แกคงขึ้นมาด้วยพลังงานสำรองนี่เอง..)

ที่ไม่ unseen ก็คือ ขยะ ที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้ กะป้ายของบริษัท ทัวร์และรีสอร์ทน้อยใหญ่ที่ปะชันขันแข่งให้เตะตาคน มันรกรุงรังสายตา มากกกก....

 จนนกแอ่นฟ้าทางภาคใต้เกาะสายไฟให้ดูเห็นๆ ยังอาจไม่มีใครเห็นเท่าป้ายเหล่านั้น

ในป้ายบอกชัดเจนถึงชื่อรีสอร์ท สถาที่ตั้ง และเบอร์ติดต่อ แต่ไม่มีเจ้าไหนบอกราคา

การล่องแก่งเจ็ดคต หรือลำน้ำใกล้ๆ นั้นก็ดี น้ำยังสะอาด ต้นจิกน้ำ ออกดอกแดง มีสีสัน วันนั้นเพื่อนๆชาวมุสลิมพายเรือ กะลูกๆหลานๆ เป็นเพื่อนกันไปตลอดลำน้ำ

พวกเขายิ้มแย้มทักทายให้คนหน้าจืดอย่างพวกเราด้วยไมตรี แม้นว่าจะไม่เอ่ยวจีใดๆ พวกเราก็หน้าบานรออยู่แล้ว ด้วยเหลือบแลเห็นความคมคายสวย-หล่อในตัวพวกเขากันทุกคน เป็นความสวยความงามทั้งผู้คนกับต้นไม้ใบหญ้า และสายน้ำ (สายน้ำกลั่นแกล้งบ้าง ทำให้เรือหลายลำคว่ำไป พอได้เฮ)  

ล่องแก่งที่นี่ก็ทำธุรกิจกันโดยชาวบ้าน ต้องหยุดขยะและน้ำเสีย  ต้องหยุดทุบหม้อข้าว ด้วยการโค่นไม้ข้างลำน้ำมาทำresort แบบกระท่อมรจนากันมากๆ หรือไม่ก็เปิดเพลงสติงกันลั่นคุ้งน้ำ อย่างที่เห็น

ถ้ำเล เขาโกรบแห่งตรัง ต้องเขียนถึง จัดการโดย อบต. เช่นกัน มีคนในพื้นที่นำทางพายเรือเข้าไปในถ้ำ ลัดเลาะและขึ้นชมถ้ำเป็นระยะ ตัวถ้ำมีความงาม คนพูดอธิบายชี้นั่นชมนี่ไม่หยุด คงเหนื่อยน่าดูเพราะว่าพยายามให้รายละเอียด (เขาอบรมกันมาดี)

นักท่องเที่ยวเสียวววว  มักๆ ก็ตอนที่ท้องน้ำแตะเพดานถ้ำ แล้วดันมีเรือของเราคั่นอยู่ตรงกลางนี่ซิ !!!!

คิดดูว่าพุงอันพลุ้ยกับจมูกแฮ่นๆ ของเรา จะแตะผนังถ้ำหรือไม่ ทันใดนั้น เราต้องคำนวณค่าทำศัลยกรรมตกแต่งในอนาคตอันใกล้  แต่..ก็รอดมาได้

ไม่รู้จะตบรางวัลเท่าไร ที่คนพาย รักษาใบหน้าเดิมของพวกเราเต็มที่  ออกมาได้แบบไม่มีขีดข่วน มีแต่บางคนเสียหน้า ที่ร้องตายว้ายกรีดกันลั่นถ้ำ (คนนำทางก็บอกว่า แม้แต่ชาย ก็อาจแต๋วแตกได้)  จะเป็นข้ออ้างไปทำศัลยกรรมซักหน่อย ก็ไม่มีข้ออ้างซะและ

การเดินทางครั้งนี้เชคได้แต้ม "ดีมาก" เท่าๆ กับ "ยังต้องปรับปรุง"

ใครมีวิธีแก้ส่วนที่ยังต้องปรับปรุงข้างบน ก็ระดมกำลังสมองกันดู เสร็จแล้วจัดทัวร์ และรีสอร์ท ที่ไม่เป็นอย่างข้างต้น แล้วครูเล็กจะเป็นคนแรกที่ซื้อทัวร์สีเขียวนี้ ร่วมกับวงค์วานญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงผู้ซึ่งมี "การท่องเที่ยวเป็นสรณะ " รับรองพวกเราเป็นสมาชิกถาวร

ขอบคุณทุกคนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวมาจ้า

*************

ยังมีอีกที่หนึ่ง ที่ต้องเขียนไว้ เพราะว่าเขาทำดี

อันที่จริงแนวปะการังที่ไหนๆ ทั่วโลก ก็มีทั้งเสื่อม และทรง (เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตนะ เราต้องยอมรับความจริงข้อนี้ เพราะปัญหามลภาวะ การประมง และประชากรมนุษย์ การบริโภคก็มากขึ้น ปลาในแนวปะการังก็หมดไป)

แต่ก็มีหลายภาคส่วนทำงานเพื่อฟื้นฟูปะการังไทย ทั้งกองทัพเรือ กรมประมง ข้าราชการและเอกชนหลายราย ต้องตบมือให้แปะแปะยกกำลังสิบเมกกาวัตต์ให้ดังลั่นไปล้านแปดเดซิเบล

อ.ประสาน แสงไพบูลย์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ แห่ง ม.รำไพพรรณี จันทบุรี ก็เป็นคนหนึ่งที่ทำงานเกี่ยวกับการฟื้นฟูปะการังไทย มาตลอด เขาและทีมงานปลูกปะการังที่แสมสาร 20-25 ปีมานี้ (เพื่อนครูเล็กเอง เขาทำดี ไม่สรรเสริญก็ไม่ได้แล้ว ยังใช้ให้เพื่อนเป็นวิทยากรสอนนิสิต ม.น.อยู่เสมอเลย อันที่จริงเขาสอนให้ความรู้กับคนมามากมายนับไม่ถ้วน ทั้งคนภาคเหนือยันภาคใต้เป็นลูกค้าเขาหมด เขาคิดค่าปลูกปะการัง ถูกมาก.....ค่าอาหารแมวยังแพงกว่า บางคณะเอานักเรียนมาเต็มคันรถจากแดนไกล ขอนอนในแค้มป์ฟรี อ.ประสานก็ให้ แต่สุดท้ายได้ยินว่าคณะนี้จะไปเล่นดรีมเวิร์ลต่อ กำลังใจคงซุดฮวบ!!!)

ตอนนี้เขาได้รับโอกาสไปฟื้นฟูปะการังที่เกาะหวาย (ใกล้เกาะช้าง ตราด) เจ้าของresort เห็นดีเห็นงาม สร้างอาคารจัดนิทรรศการถาวร ให้ความรู้เกี่ยวกับปะการรัง การปลูกปะการัง ให้กับนักท่องเที่ยว

อ.ประสานบอกว่า ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ดูงานเรื่องฟื้นฟูปะการรังจากคนทั่วโลกเลย คนไทยอย่าน้อยหน้า ต้องแวะชม 

เราว่านะ  ถ้าเรือทุกลำแวะมาที่นี่ก่อนและสอนนักท่องเที่ยวสักหน่อยว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ทำร้ายปะกรรังโดยไม่รู้ตัว ก็จะดี (เรือของเราก็แวะตอนขากลับอีก)

(tour leader นั่นแหละต้องได้รับการสอนมากๆ ) 

เกาะช้าง  ก็ถือว่ายังมีปะการังดี leaderพาดำน้ำที่เป็นลูกหลานชาวบ้าน  ซึ่งหากได้รับการอบรมให้ระมัดระวังเรื่องปะการรังเพิ่มขึ้นอีก จะดีมากๆ เพราะว่า พวกเขามีใจบริการ  พาไปดำผิวน้ำดูที่นั่นที่นี่ จนเราเหนื่อยแฮก กล้ามเนื้อล้า ผสมกับคลื่นที่ถาโถมเรือ ทำเอาต้องโก่งคอให้อาหารปลาไปตามๆ กัน

เป็นสีสันและความประทับใจ เจ้าของที่พักและเจ้าของสวนผลไม้ที่เกาะช้างใต้ ยังมีน้ำใจแบบไทยๆ 

ก่อนสงกรานต์ จนถึงเลยล่วงสงกรานต์แล้ว ทริปทะเลหลายๆ ที่ ทั้งล่องใต้และตะวันออก ขอบคุณที่ยังเห็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส อาหารตรังอร่อยมาก สตูลยังสวยอยู่ ยำสาหร่ายจากสตูลก็แซบ  ชาวสวนจันท์ และเกาะช้างก็ยังเฮฮา

ได้ไปมาหาสู่เพื่อนเก่า เพื่อนแก่ ชีวิตนี้จะเอาอะไรมากเนี่ย นักท่องเที่ยวเป็นสรณะก็มีเท่านี้แหละ

อันที่จริงครูเล็กสงวนนกอีแอ่นไว้เฉพาะยามพิเศษจริงๆ จึงจะพูดถึงเธอ  ยามที่ท่องเที่ยวไป จะไม่เอาเธอมาเกี่ยวพัน (งานวิจัยมันมักทำให้เครียด)

แต่ท่องเที่ยว 2-3 เดือนมานี้ ทุกที่ที่ท่องไป ตาก็ยังเหลือบแลหาเพื่อนเก่าอย่างคุณนกอีแอ่นอยู่นะ ไม่ได้ตัดสวาทจากเธอหรอก จึงรู้ว่า หลายพื้นที่ที่ไป  อยู่ใต้เงาปีกของเธอ 

เผ่าพันธุ์ของนกอีแอ่นบ้านยังมีอีกเยอะ เพราะว่าเธอสร้างรังตลอดปี ไม่หนีหน้าไปไหน(ไม่อพยพ) ใครจะอัญเชิญเข้าบ้านของตน ด้วยกระบวนท่าอย่างไร ก็ทำกันเน้อ

ตรัง สตูล กระบี่ จันท์ ตราด ขยายจำนวนมากขึ้น มันเข้ามาหาถึงในตลาด

หลายคนคงอยากจะอยู่ใต้เงาปีกของเธอ และอยากให้เธอมาอยู่ใต้เงาหลังคาบ้านของคุณบ้าง  ....ใช่ไหมล่า??

 

ครูเล็ก

  

 

 

คำสำคัญ (Tags): #นกแอ่นกินรัง
หมายเลขบันทึก: 263540เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2009 15:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ผมคนหนึ่งก็ชอบท่องเที่ยวแบบครูเล็กนี่เหละ แต่มีหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวยโดยเฉพาะ กะตังค์อันน้อยนิด เก็บเอาไว้ซื้อข้าวสารหุงให้ลูกเมียกินก่อน ทะเลจังหวัดตรัง ผมเลยไปดำน้ำ(หัวจมลงไปไม่เกิน 1 ฟุต)เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว เป็นความประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งในชีวิต แต่หลังจากที่ไปเมื่อ 3 ปีก่อน ก็พบว่า มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะปะการัง ตกใจหมดเลยว่าที่เคยเห็นสวยๆมันหายไปไหน ปะการังที่มีหลายๆสี ทำไมเป็นสีขาวๆเทาๆไปหมด รู้สึกใจหายจริงๆ ทำให้ผมเริ่มศึกษาชนิดของปะการังและปลาทะเล ทำให้เวลาไปเที่ยวจะทำสนุกยิ่งขึ้น.... บันทึกหน้านี้เห็นแค่เงานกอีแอ่นจริงๆ

แฟนๆหายหมด...

สวัสดีค่ะ...อาจารย์

วันนี้หนูได้เรียนวิชา ECBกับอาจารย์

หนูเลยอยากเข้ามาอ่านเรื่องราวของนกแอ่นกินรัง

จริงๆแล้วหนูชอบสัตว์เกือบทุกชนิด

แต่น่าเสียดายที่ภาควิชาของเราเปิดวิชาเกี่ยวกับสัตว์น้อยไปหน่อย

หนูเลยยังลงเรียนได้ไม่จุใจ

ที่ลงแล้วถูกใจจริงๆก็เพิ่งมี หอย กับ ผึ้ง ที่เรียนไปเทอมที่แล้ว

นอกนั้นก็ยังเหมือนคนอื่นๆทั่วไป คือ เรียนเอาเกรด

ตอนนี้ที่หนูอยากรู้จากอาจารย์ก็คือ จะได้ไปทริปตอนไหนค่ะ

เพราะหนูอยากไปมากๆค่ะ

หนูเพิ่งได้ไปดำน้ำครั้งแรกใน ทริปหอย ที่อาจารย์ประสุข พาไป

หนูเห็นหอยเม่นซะส่วนใหญ่เลยค่ะ คราวนี้เลยอยากดูปะการังเยอะๆบ้างค่ะ

อ้อ...ที่อาจารย์เขียนเรื่องนกแอ่นกินรัง ไว้เยอะมากๆเลยค่ะ

หนูจะทยอยอ่านนะคะ หนูอยากเห็นนกแอ่นกินรังตัวเป็นๆ ค่ะ

ประสบการณ์ของอาจารย์น่าตื่นเต้นดี

ขอบคุณที่เผยแพร่ให้อ่านนะคะ...

ขอบคุณค่ะ

ความประสงค์จะเป็นจริงทุกประการ ได้เร็วๆ นี้

แต่จะให้ดี ลงวิชา Invertebrate Zoology ด้วย แล้วหมั่นเก็บออม

อืม ถ้าทำได้ตามนี้ แม้แต่ "หมอเดา" ก็แม่น ฮ่า

.....นอกนั้นก็ยังเหมือนคนอื่นๆทั่วไป คือ เรียนเอาเกรด...ไม่อาว ไม่พูดดด

ถ้าเป็นครูเล็กนะ ให้ A รอไว้ในกระเป๋าก่อน..ปะมีหยอด (ถือว่ามีความกระตือรือร้น เรียนด้วยปุ๊บ ใฝ่หาความรู้ปั๊บ)

อย่างที่บอก มี A ไว้แล้วทุกคน แต่มันจะเป็นไปตามกรรม action = reaction อูยยย

อย่าลืมชวนผมด้วยนะครับ

20 วันผ่านไป...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท