บทกวี 16 ปี กลุ่มป่งใบ โดย อณูทิพย์ ธารทอง


อณูทิพย์ ธารทอง หรือ กบน้อย ศิษย์จรัสแห่งมหาสารคาม กวีลีลาหวาน

รวมบทกวีคัดสรรของ   อณูทิพย์  ธารทอง

เพื่อคัดกรองรวมเล่มร่วมกับผองเพื่อนกลุ่มวรรณกรรม ป่งใบ

ธนาธิปไตย

............................................................................................

พิมพ์ครั้งแรกที่  ฐานสัปดาห์วิจารณ์  9 - 15  กันยายน  2538

 

ยังร่วมดำรงวงจรอุบาทว์

เงินยังประกาศอำนาจยิ่งใหญ่

ยังซ่อนเร้นโฉมหน้าประชาธิปไตย

เพราะหัวใจอ่อนแอแพ้ค่าเงิน

ประชาธิปไตยจากหัวใจเน่าเน่า

เป็นของเก่าที่เริ่มใหม่อย่างผิวเผิน

อุปสรรคดาหน้าเข้าเผชิญ

ซ้ำซากเกินกว่าจะสาธยาย

ยังเห็นการเมืองเป็นเรื่องธุรกิจ

เข้าใจผิดครรลองทั้งสองฝ่าย

ทั้งผู้เลือกผู้สมัครร่วมทำลาย

เกียรติศักดิ์ศรีทั้งหลายของตัวเอง

ประชาธิปไตยคงได้แค่ในฝัน

แม้สร้างวันผ่องไพอย่างรีบเร่ง

เพราะเงินตราเสพหัวใจอย่างครื้นเครง

จึงบรรเลงเพลงปีศาจกล่อมสังคม

เพราะหัวใจขายให้เขาเหยียบย่ำ

ด้วยราคาที่แสนต่ำจึงขื่นขม

หลงกิเลสตัวเก่าจึงเศร้าตรม

ทุกข์ระทมแต่ละยามสาม-สี่ปี

เป็นผู้แทนแต่ในนามตามเงินซื้อ

ไม่นับถือเสียงประชาหลบหน้าหนี

เจ็บไม่จำเลยนะประชาชี

ตราบชาตินี้ยังเป็นข้า(ทาส) หากหน้าเงิน

 

อณูทิพย์  ธารทอง

 

 

ถึงเผด็จการรุ่นสุดท้าย

...................................................................................

พิมพ์ครั้งแรกที่  แนวหน้าสุดสัปดาห์  16 - 21  กันยายน  2537

 

ถึง ตระกูล ผู้ผงาด และอาจหาญ

ทั้งพี่น้องวงศ์วาน ผู้ยิ่งใหญ่

นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เจ้าจะไม่มีโอกาส  องอาจลาย

เพราะเจ้าลืมเพื่อนผอง เจ้าของประเทศ

เจ้าเข่นฆ่า ไล่เฉด สาปสูญหาย

จะยืนหยัด ต่อต้านเจ้า จนวันตาย

เหล่าพี่น้องทั้งหลาย จะร่วมแรง

ขอลูกหลานว่านเครือ ที่เหลืออยู่

จงรับรู้ ประชาทัณฑ์ นั้นกร้าวแกร่ง

เผด็จการนั้น บทเรียน ราคาแพง

อย่าได้คิดขันแข่ง ยื้อแย่งมา

ถ้ากระสัน อยากเป็นใหญ่ในประเทศ

อย่าขับไส ไล่เฉด หรือเข่นฆ่า

ค่อยคืบคลาน ไต่บันได ดินสู่ฟ้า

ผ่านภูใหญ่ ไพรหนา ด้วยฝ่าฟัน

อย่าได้คิดเอาอย่าง มาทางลัด

จะนำสู่ความวิบัติ อย่างมหันต์

อย่าเอาเปรียบเพื่อนพ้อง กดขี่กัน

เพราะคงมีสักวัน   เจ้าเพลี่ยงพล้ำ

ฝากผ่าน ถึงเผด็จการรุ่นสุดท้าย

อย่าได้คิดมุ่งหมาย เข้ากรายกล้ำ

เคยหนาวเหน็บเจ็บแล้ว จะต้องจำ

หากขืนทำอีกเมื่อใด  โทษแขวนคอ

 

อณูทิพย์  ธารทอง

 

ผญา  :  คึดฮอดเจ้า

.........................................................................................................................

พิมพ์ครั้งแรกที่  กรุงเทพธุรกิจจุดประกายวรรณกรรม  6  พฤศจิกายน  2536

ในอกอ้ายฮนฮ้อน           คะนิงหาอุกอั่ง

       ลุกยืนนั่งบ่เป็นสุข              ระทมทุกข์แลงเช้า

           คึดฮอดเจ้าน้องหล่า         หน้าขาวมาเปิ่นเหวิ่น

เห็นผู้อื่นหลงเอิ้น                คึดว่าเจ้ามาหา

            ใจผวาสีหน้าเศร้า                    คล้ำหมองหม่นมาเหิง

สั่งลมฝากไปเถิง               ยอดพธูซูมื้อ

           หรือว่าเจ้าลืมแล้ว                เอาหน้าหาฮักใหม่

บ่ฮำฮอนหัวใจ                         ผู้คะนิงซมซ้อน

         ญ้อนไฟแสงสีเมืองฟ้า              สาวผู้ดีเป็นลายต่าง

ไปพ้อหม่องต่างหล่าง             เลยลืมซ้ำถิ่นอีสาน

       คนผู้จบหนีบ้าน                            เป็นตำนานขานกล่าว

ถิ้มผู้บ่าวบ้านนอก                     ควายบักตู้จ่มหา

หรือแหม่นควมเพิ่นเว้า                      แล้วบ้ออุ่นหลงเฮืองฮม

สาวใจส้มแล่นนำชู้                ยอย่องเพิ่นผู้ดี

                 เจ้าจั่งหนีไปหอบผ้า                  พายโซนกลางเมืองใหญ่

สะออนไปกินผัดทอด                 ลืมจ้อยแจ่วปลา

        น้ำฝนฮ่งเต็มนา                                 ควายตู้หงัวอยู่หง่าวหง่าว

      มันคึดฮอดผู้สาว                             เคยนำก้นแต่ก่อนหลัง

ตกปีนี้ใจสังวิเวก                                  แปเปี่ยนเป็นโหวงเหวง

จ้ำป่นปลาน้ำใสเจงเลง            บ่ห่อนนัวคำข้าว

เป็นนำคึดฮอดเจ้า                      ไปกรุงแล้วบ่ต่าว

ได้ยินข่าวจดหมายน้อย                       แต่เดือนห้าเทื่อเดียว

เจ้าลดเลี้ยวแปปิ้น                                เถิงไสกะตามซ่าง

อกสิเพแตกม้าง                    ยังคอยเจ้าต่าวมา

 

อณูทิพย์  ธารทอง

ตา

................................................

พิมพ์ครั้งแรกที่นี่

 

มีดวงตาแส่ส่ายไว้สองข้าง

คล้ายมืดบอดอ้างว้างจึงสับสน

หรือเหตุว่าเป็นตาปุถุชน

ตื้นเขินจนมองไม่เห็นสิ่งเป็นไป

แม้มองเห็น ดั่งเช่นมองไม่เห็น

จึงกลายเป็นฉากบัง ยังหลับใหล

วิสัยทัศน์หลงทางบอกกว้างไกล

ส่วนภายในวิญญาณ์เลือนพร่ามัว

มูมมามเสพเช้าค่ำจนพร่ำเพรื่อ

ตกเป็นเหยื่อยุคสมัยที่ยวนยั่ว

ล่องลอยตามกระแสธารจนหมดตัว

หนอนเยี้ยยั้วเต็มเศษเน่า ซากสำนึก

ลืมตาใสใช่ปรับเพื่อรับรู้

จมปลักอยู่ฟูมฟายในรู้สึก

ธรรมดาสามัญล้นทรวงลึก

ใครทึกทักว่างามตามทันที

ตาปัญญา ตาในอยู่ไหนเล่า

ไยโง่เขลาไม่ใคร่ครวญให้ถ้วนถี่

ไม่ตึงหย่อนรู้ทำนองคลองชีวี

ไหนชั่วดี ดูลีลาของตาใจ

ทั้งตานอกตาในใช้สลับ

รู้เรียนรับแสงสว่างทางสดใส

ตาสองข้างจะใช้ตาข้างใด

ตานอกหรือตาในให้ถูกกาล

อณูทิพย์  ธารทอง

อณูทิพย์   ธารทอง  :  กวีหนุ่มแห่งลุ่มน้ำโขง

                  อณูทิพย์  ธารทอง  เป็นนามปากกาของ  นายวิสัย  สมประสงค์  เกิดเมื่อ  18  กุมภาพันธ์  2507  ที่บ้านหนองแวงน้อย  ตำบลโชคชัย  อำเภอนิคมคำสร้อย  จังหวัดมุกดาหาร  การศึกษาระดับปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม  วิชาเอกไทยคดีศึกษา (สังคมศาสตร์) บรรจุเป็นข้าราชการครูครั้งแรกที่โรงเรียนเรณูนครวิยานุกูล อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม จากนั้นย้ายมาสอนที่โรงเรียนอุดมวิทย์  อำเภอนิคมคำสร้อย  จังหวัดมุกดาหาร

ปัจจุบันปฏิบัติการสอนวิชาสังคมศึกษาอยู่ที่โรงเรียนผึ่งแดดวิทยาคาร อำเภอเมือง  จังหวัดมุกดาหาร ที่อยู่ที่ติดต่อได้ในปัจจุบัน  209  หมู่ที่ 2  บ้านซ่ง  ตำบลบ้านซ่ง  อำเภอคำชะอี      จังหวัดมุกดาหาร  49110 

                สนใจงานวรรณกรรมและเริ่มเขียนบทกวีเมื่อปี พ.ศ. 2531 เนื่องจากได้แรงบันดาลใจจากนักเขียนใหญ่ 4 ท่านที่หมวดภาษาไทยของโรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูลเชิญไปพบปะกับนักเรียน ได้แก่ เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์ , ไพลิน  รุ้งรัตน์,  ญิบ  พันจันทร์  และ จำลอง  ฝั่งชลจิตร  โดยเฉพาะไพลิน  รุ้งรัตน์ได้ให้คำชี้แนะติดต่อกันทางจดหมายหลายครั้ง เนื่องจากเป็นผู้คัดเลือกบทกวีตีพิมพ์ในคอลัมน์ ลมหายใจกวี ในสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์  อยู่หลายปี

                บทกวีชิ้นแรกชื่อ  ไต่ดิน  ปีนฟ้า  คว้าดาว   ปรากฏในสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์เมื่อ

14  ตุลาคม  พ.ศ.2532 จากนั้นไฟวรรณกรรมก็สุมในหัวอกตลอดมา หว่านผลงานไปทุกนิตยสารทั้งรายสัปดาห์  รายปักษ์  และรายเดือน  เคยมีผลงานตีพิมพ์ใน สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์  /สกุลไทย / ดอกเบี้ยรายสัปดาห์  / อาทิตย์ / กรุงเทพธุรกิจ / เนชั่นสุดสัปดาห์ / แนวหน้าสุดสัปดาห์ / มาตุภูมิรายสัปดาห์ / ฐานสัปดาหวิจารณ์ /  วัฏฏจักรการเมือง /  เสียงชุมชน  / หญิงไทย /  กุลสตรี  / ขวัญเรือน /  สตรีสาร /  เทคโนโลยีชาวบ้าน /  สยามอารยะ /  ศิลปวัฒนธรรม /  วารสารข้าราชการครู  / วิทยาสารก้าวไกล / วิทยาจารย์ /   คุรุปริทัศน์ / สวนสวยโรงเรียนงาม / ฟ้า /  จดหมายข่าวสโมสรนักเขียนภาคอีสาน /  ดอกติ้วป่า / เราคิดอะไร  / ไรเตอร์แมกกาซีน /ไทนคร  / นวเริงสาร / ชีวิตรัก /   ชีวิตจริง / อีสานไทม์ / คำม่วน / ไทยนิยม  / สมัยเป็นนิสิตเป็นหนึ่งในกลุ่มวรรณกรรม   ป่งใบ  และส่งบทกวีประกอบเพลงในรายการ รอยฝัน ของ สถานีวิทยุ เอฟ เอ็ม  มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กว่า  300  ชิ้น 

นอกจากนี้บทกวีชื่อ กลางแดดหนาว ของ  วิสัย  สมประสงค์ ได้รับการคัดเลือกเพื่อรวมเล่มร่วมกับกวีท่านอื่นในรวมบทกวีชื่อ ดื่มดาวกลางแดด ของ ไรเตอร์กวีนิพนธ์ลำดับที่ 1บทกวีชื่อ สำนึกของสะพาน  เข้ารอบสุดท้ายบทกวี ลมหายใจกวี  ที่สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์  ประจำปี  2533  ซึ่งดูแลโดย  ไพลิน  รุ้งรัตน์  เกือบ 2 ทศวรรษมีผลงานเผยแพร่เกือบ  200  ชิ้น แบบไม่ค่อยต่อเนื่องนัก   เนื่องจากระยะหลังพันธกิจของชีวิตเพิ่มขึ้นหลังแต่งงาน เวลาส่วนใหญ่จึงเสียไปเพื่อหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวัน ๆ  ชีวิตซ้ำซาก จำเจ ความฝันสลายลงด้วยความจริงที่เผชิญอยู่ ขาดแรงบันดาลใจในการเขียน  แต่ก็ยังล้มลุกคลุกคลาน เดินซมซานบนถนนสานี้อย่างทุลักทุเลมาเกือบ  2  ทศวรรษ  ทุกวันนี้นาน ๆ จึงเห็นผลงานปรากฏตามหน้านิตยสารครั้งหนึ่ง...          

 

 

หมายเลขบันทึก: 262829เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2009 16:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 14:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

โอ๊ย นี่แหละ ของแท้

ไม่รู้จริงเท็จ..ข่าวว่า มาอยู่สารคามแล้ว จริงเหรอครับ

ก็มาแบบเงียบๆครับ

ครั้งหนึ่ีงที่คุยกัน..ท่านไพวรินทร์ บอกว่า

(จะ)แก่แล้ว ควรออกมา..

ทุกอย่างยังไม่ลงตัว ทั้งงานในหน้าที่ งานที่รัก

ไม่ค่อยเจอใครเลย และยังพอใจที่ีจะขลุก

อยู่อย่างเอกา

การหย่าขาดจากเมืองหลวงครั้งนี้ มีแนวโน้มว่าจะถาวร

แต่การกลับมา"บ้านเกิด" ก็ไม่มีบาดแผลอะไร

แค่..ถลอกปอกเปิกนิดหน่อย..

ขอบคุณที่ถามไถ่มาครับ

ผลพานแว่นฟ้าปีนี้ ชาวป่งใบคว้า รางวัลชมเชยทั้ง 2 ประเภท

เรื่องสั้น เจ้า(หน้า)ที่ ของทัศนาวดี

บทกวี สักวันเถอะ..ทหารหนุ่ม ของสุขุมพจน์ คำสุขุม

รับรางวัล คนละหมื่น ที่รัฐสภา วันที 14 สิงหาคมนี้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท