ชิม ดม ชม วิธีสังเกตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี(แบบเกษตรกร)

สังเกตปุ๋ยอินทรีย์ด้วยวิธีง่ายๆ

เดี๋ยวนี้เกษตรกรรู้จักใช้ปุ๋ยอินทรีย์กันมากขึ้น เพราะปุ๋ยเคมีราคาแพงขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในระยะ 4-5 ปี ประกอบกับปุ๋ยอินทรีย์เดี๋ยวนี้ก็มีคุณภาพดีขึ้นมากจาก วัสดุที่ใช้ทำและวัสดุปรุงแต่ง ตลอดจนการโหมประชาสัมพันท์ของรัฐ และเอกชน และยุทธวิธีการทำการตลาดแบบต่างๆ ทั้ง ลด แลก แจก แถม และการขายตรง จึงมีปุ๋ยอินทรีย์มากกว่า 100 ชนิด ที่ขายในท้องตลาดขณะนี้ เช่นนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าชนิดไหน คุณภาพดี หรือ ปุ๋ยปลอม อันที่จริง ผู้ผลิตจำหน่าย จะต้องมีใบอนุญาติผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากกรมวิชาการเกษตรแสดงต่อผู้ซื้อ อย่างไรก็ตามเกษตรกรก็คงไม่อาจทราบได้ว่าเป็นใบรับรอง จริง หรือ เทียม และไม่อาจแน่ใจได้ว่าปุ๋ยที่นำมาจำหน่ายเป็นชนิดเดียวกับที่ขออนุญาตกับทางราชการหรือไม่ การที่จะรู้คุณภาพของปุ๋ยอินทรีย์ทำได้โดยการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการเท่านั้น และเช่นกัน ที่คงไม่เมีเกษตรกรคนใดทำได้ วันนี้จึงอยากแนะนำวิธีสังเกตลักษณะของปุ๋ยอินทรีย์คุรภาพดี โดยใช้ หลัก ชิม ดม ชม ดังนี้ 1.ชิม ชิมครับ หยิบเม็ดปุ๋ยอินทรีย์ 4-5 เม็ด วางบนลิ้น และใช้ความรู้สึกสัมผัสครับ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ดี ย่อมไม่จืด แต่ถ้าเค็มไปก็บอกได้ว่ามีการใช้ปุ๋ยเคมีผสมในปริมาณที่มากเพื่อให้แรง 2.ดม ดมครับ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ดีต้องไม่เหม็นหื่น(เกิดจากรีบผลิต เม็ดชื้น ตากไม่แห้ง) ไม่เหม็นเปรี้ยว(เกิดจาวัสดุที่ย่อยสลายไม่สมบูรณ์) ไม่สาบกลิ่นเถ้า(มีส่วนผสมของขี้เถ้าแกลบมาก)ที่ดีควรมีกลิ่นคาว(มีมูลสัตว์ โดยเพาะมูลไก่ เป็ด และค้างคาว เป็นส่วนผสมซึ่งดีกับพืช) และอาจมีกลิ่นหอม(จากกากน้ำตาล หรือ โมลาส ซึ่งอาจเป้นนำหมักชีวภาพซึ่งดีกับพืช) 3.ชม คือการสังเกต โดยการนำน้ำสะอาดมา 1 แก้ว ใส่ในแก้วใส นำปุ๋ยมา 1 กำมือใส่ลงไปในน้ำ จากนั้นก็สังเกตครับ ว่า ละลายง่ายไหม(ปุ๋ยที่ดีต้องละลายน้ำง่าย) ละลายหมดหรือไม่ (หากละลายไม่หมดจะมีส่วนผสมของดินเหนียวเยอะ หรือไม่ก็ใสหินบดมากทำให้เมื่อปั้นเป็นก้อนแล้วจะแข็ง) มีทราย หรือ หินตกค้างหรือไม่(หากมีทราย และ หิน แสดงว่าใช้ทราย และหินเป็นแกนของปุ๋ยมีเนื้อปุ๋ยปั้นคลุมเม็ดทรายไว้ เพื่อเพิ่มนำหนัก และเม็ดสวย) และอีกประการหนึ่งคือทดสอบการใช้ในไร่นาของตนก่อนว่าดีหรือไม่ อย่าพึ่งทุ่มจนหมดตัวครับ ทดสอบก่อนใช้ ปลอดภัย ไม่เสียรู้ครับ

[กิตติพัฒน์]

  เอาไก่ยักษ์มาฝากครับคุณเจษฏา  ไม่ทราบว่าเป็นรูปปั้นหรือเปล่านะ ผมว่าการทำเกษตรเดี๋ยวนี้ไม่ยากนะครับ  เพราะเทคโนโลยีทันสมัยมีหลากหลาย  แต่ที่เป็นปัญหาและยากยิ่งก็คือ การเปลี่ยนเจตคติ ความเชื่อ ความเคยชินของเกษตรกรให้เปลี่ยนแนวคิด หันกลับมารับรู้และปฏิบัติตามความเปลี่ยนแปลงนี่แหละ  ยากยิ่งครับท่าน

 

 

[เจษฎา]

ขอบคุณอีกครั้งครับคุณก้ามกุ้ง

จริงอย่างคุณว่าครับ ที่เขาไม่เปลี่ยนก็อาจมีเหตุผลครับ เขาอาจเห็นว่านักวิชาการเกษตรไม่รู้จริงในปัญหาของเขา ซึ่งรับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอีกไม่ได้แล้ว เดี๋ยวนี้นักส่งเสริมการเกษตรยุคใหม่จึงไม่ยัดเยียดความรู้ หรือสั่งให้ต้องเปลี่ยนนั้นเปลี่ยนนี่ เป็นแต่เพียงพาให้เขาเรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเขาเอง ครับ