ภาพจากและเรื่องจาก http://www.siangesanfanclub.com/forum/showthread.php?t=1662
ในโลกแห่งความเป็นจริง มักมีความฝันซ้อนทับอยู่ด้วยเสมอ จะมีสักกี่คนที่นำเอาความฝันมาเดินควบคู่ไปกับความเป ็นจริงได้อย่างภาคภูมิใจ แต่สำหรับ หมอแป้น หรือ น.พ.สุชาติ ทองแป้น อายุรแพทย์ วัย 36 ปี คือหนึ่งในนั้น เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างการเป็น "หมอรักษาคน" และ "หมอลำ" ได้ลงตัวอย่าง อะไรที่ทำให้นายแพทย์คนหนึ่งเลือกที่จะมีชีวิตสองขั้ ว บนเส้นทางคู่ขนานระหว่างความฝันกับความเป็นจริงของ "หมอแป้น" จะประสพพบเจอกันได้อย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาเฉลยค่ะ...
"หมอแป้น" หรือ นายแพทย์สุชาติ ทองแป้น อายุรแพทย์ วัย 36 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาสารคาม ผู้ที่ทุ่มเทให้กับการรักษาผู้ป่วยด้วยหัวใจของความท ุ่มเท เสียสละ และใส่ใจที่เรียกได้ว่าเกินร้อย เขายังได้รับการยอมรับจากบุคลากรทุกระดับชั้นของโรงพ ยาบาล ว่าเป็นหมอที่มากด้วยประสิทธิภาพในการเยียวยารักษา เอาใจใส่ผู้ป่วย และนิสัยใจคอก็โอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นเสมอๆ นอกจากนี้ "หมอแป้น" ยังเป็นหัวหน้ากลุ่มงานโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสั มพันธ์ หรือที่คนรู้จักกันในชื่อคลินิก "บ้านร่มเย็น"
และที่คลินิกบ้านร่มเย็นนี่เองทำให้ชีวิตของ "หมอแป้น" ที่รักษาคนผู้นี้มาบรรจบพบกับความฝันในวัยเด็ก นั่นคือการได้เป็นคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการก่อตั้ง วง "หมอลำ" ขึ้นมาจนเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว และเขาได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าวง โดยใช้ชื่อว่า "บ้านร่มเย็น" ซึ่งเป็นวงหมอลำที่มีพระเอกเป็นแพทย์ มีนางเอกเป็นพยาบาลวิชาชีพ มีพระรองเป็นผู้ติดเชื้อเอดส์ มีทีมหางเครื่องเป็นพยาบาล หมอนวดแผนไทย เจ้าหน้าที่โภชนาการ อาสาสมัครผู้ติดเชื้อเอดส์ ฯลฯ
"ผมเกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์ พออายุ 4 ขวบ ครอบครัวก็ย้ายมาอยู่ที่อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ตอนเด็กๆ ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาเป็นหมอ อยากเป็นครูมากกว่า สักพักก็อยากเป็นนายธนาคาร เพราะไปธนาคารกับแม่แล้วเห็นว่าอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ คงทำงานสบายๆ เพราะชีวิตตอนเด็กของผมก็ไม่ได้สะดวกสบาย เรียกว่าพอมีพอกิน ที่บ้านก็ทำนา แต่ด้วยความที่เราขยันอ่านหนังสือ ก็ทำให้สอบติดหมอ ซึ่งไม่เคยคิดเลยว่าจากเด็กที่ครอบครัวยากจนจะสามารถ ทำได้ แม่เคยถามว่าจะเรียนพิเศษไหม ผมก็บอกว่าไม่ต้องหรอก แค่ขยันอ่านหนังสือก็พอ เรียนไปถ้าไม่ใส่ใจก็ไม่เกิดผล และพอผมเรียนจบในปี 2546 ผมก็เข้ามาประจำที่โรงพยาบาลมหาสารคามเลยครับ" หมอแป้น กล่าว
หมอแป้น เล่าอีกว่า จริงๆ โดยส่วนตัวผมชอบหมอลำมาตั้งแต่เด็ก แต่แม่ก็พาไปดูลิเก เพราะแม่ชอบลิเก ก็ไปดูแบบนี้บ่อยๆ มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว จำได้ว่าตอนที่เรียนหมออยู่ปี 4 ที่คณะหมอลำเขามาเปิดสอนให้หัดร้องหัดลำ ผมก็อยากจะไปเรียน เพราะชอบมาตั้งนานแล้ว ก็ไปบอกพ่อกับแม่ แต่เขาก็ไม่ให้เรียน บอกว่าอย่าเลย ผมเลยไม่ได้ไปสมัคร แต่ตอนนั้นก็จะไปดูหมอลำตลอด ดูจนถึง 6 โมงเช้า เกือบจะทุกวันเลย แต่ไม่ให้เสียการเรียนนะ ถึงกลับมาเช้าเราก็ไปเข้าเรียนต่อได้เลย ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะเราแบ่งเวลาเป็น และที่ลำหมอลำได้ก็ไม่ได้ไปเรียนที่ไหน อาศัยจำเอา ดูคนนั้นคนนี้แล้วก็จำ ต่อมาประมาณปี 2547 ก็เริ่มชักชวนเพื่อนๆ ในโรงพยาบาลตั้งวงหมอลำขึ้นมา ชื่อว่า "บ้านร่มเย็น" ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 30 คน มีทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่โภชนาการ แม่บ้าน ผู้ป่วย ฯลฯ ซึ่งช่วงแรกเป็นเงินของตัวเอง ต่อมาก็เป็นเงินกองทุนบ้านร่มเย็นเอาไว้ซื้อเครื่องส ำอาง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเงินของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ในสังคมไทย อาชีพ "หมอ" ยังคงเป็นอาชีพที่สังคมให้การยอมรับ ยกย่องว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติ ในขณะที่อีกมุมหนึ่งของสังคม วิชาชีพ "หมอลำ" ซึ่งเป็นการแสดงพื้นบ้าน ที่หล่อเลี้ยง จิตวิญญาณของชาวอีสาน ที่ดูไปแล้วศาสตร์ทั้ง 2 นั้น ไม่น่าจะโคจรมาพบกันได้ ทำให้หน้าที่เป็นหมอรักษาคนไข้ กับการแสดงความเพลิดเพลินให้คนดูด้วยการเป็นหมอลำของ หมอแป้น เกิดเสียงท้วงติงถึงความไม่เหมาะสมอยู่บ่อยๆ
"ตอนที่ตั้งวงหมอลำแรกๆ ก็มีแต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ว่าไม่เหมาะ ไม่สมควร เราเป็นหมอจะไปเต้นกินลำกินทำไม ซึ่งก็ไม่ทำให้ผมท้อถอยนะ เพราะผมคิดว่าเราผมไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ผมสามารถแบ่งเวลาได้ และก็รับผิดชอบในหน้าที่ของผมได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดแ ล้ว ไม่เคยเอาเวลางานมาร้องหมอลำเลย จนเวลาผ่านไปทุกคนก็สามารถยอมรับเราได้ ทุกวันนี้เวลาไปออกงานที่ไหน ผมก็จะเอาหมอลำกับเรื่องโรคเอดส์มาประยุกต์ใช้ด้วยกั น เช่น ร้องลำเกี่ยวกับการป้องกัน หรือวิธีการรักษา การดูแลตัวเอง" หมอแป้น กล่าว
สวัสดีค่ะ คุณเบดูอิน
ขออนุญาตนำบล็อกที่เขียนเรื่องราวของคุณหมออย่างละเอียด ของคุณ ผึ้งงาน มาให้อ่านเพิ่มเติมนะคะ
ยังอยู่ไหมค่ะ
พิมจะเอาโค๊ดที่ทำแล้วทั้งหมดให้ค่ะ
ไปที่หน้า..รวมโค๊ดนะคะ
คือทำสำเร็จรุปเหมือนที่ใช้อยู่ค่ะ..
โอเคค่ะน้องพิม รอสักครู่นะคะ
สวัสดีค่ะ
ก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมว่าคนเราไม่ยอมทิ้งความฝันของตัวเอง
และก็ทำได้ แม้จะมีอุปสรรคแต่ก็เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ขอให้สู้ๆนะคะ
ผมเสนอ อาจารย์เล่นๆนะครับ
ผมมาอ่านเรื่องหมอแป้นซ้ำอีกครั้ง อาจารย์นำบันทึกนี้ไปอ่านให้เด็กฟังด้วยซิ มีข้อคิดหลายอย่างมาก
สวัสดีคะครูอรวรรณ
blog สวยมากคะ
น้องพิมช่วยนำ code มาให้ใช่ไหมคะ หวานมาก ๆ
หมอแป้น หมอรำ พี่กับคุรชาลี ก้ดุรายการนี้ หมอเป็นศิษย์เก่า มข.นะคะ
สวัสดี่ค่ะ คุณแดง
สวัสดีค่ะ คุณเบดูอิน
แวะมาเยี่ยมคะ..เป็นข้อเขียนที่ดีมากมาก..อย่าลืมให้เด็กๆได้อ่านด้วยนะคะ..เขาคงชอบและมีกำลังใจขึ้นอีกมากมาย...สุดยอดค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่ไก่ ประกาย
สวัสดีค่ะ น้อง ศน. add
ขอบคุณมากที่แวะเข้ามาเยี่ยม
ได้ข้อคิดที่จะนำไปให้เด็กๆ ที่โรงเรียนจากคุณเบดูอินนี่แหละค่ะ
ประทับใจความมุ่งมั่นของคุณหมอมากค่ะ
สุดยอดมากครับ นับถือ นับถือ อย่างนี้เรียกว่า หมอมวลชนได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยทีเดียว
คนนำมาถ่ายทอดก็ถ่ายทอดดีมากครับ ในฐานะครูระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน นำไปประยุกต์ใช้จะดีมาก
หากนำไปใช้แล้วได้ผลอย่างไรเล่าให้ฟังด้วยนะครับ
ชยพร แอคะรัจน์
สวัสดีค่ะ ท่านรองฯเปลวเทียน
ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาอ่านบันทึก และเป็นกำลังใจให้
รวมทั้งให้คำแนะนำไปถ่ายทอดให้นักเรียนเพื่อเป็นแบบอย่าง
ได้ผลอย่างไรจะรายงานให้ทราบอีกครั้งนะคะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ชยพร
สวัสดีค่ะ คุณครูอรวรรณ
ขอบคุณสำหรับการตอนรับอันอบอุ่นค่ะ ... บทความน่าสนใจมากเลยค่ะ
ชีวิตต้องมีฝัน และทำความฝันให้เป็นจริง ...น่ายกย่องค่ะ
น้องธอมส์มีหนังสือหลายเล่มเลยค่ะ แต่มีเล่มนี้เบาและเล็ก น้องธอมส์ถือไหว
ตั้งแต่ได้ 3 เดือนค่ะ เล่มอื่นหนักสำหรับเค้าค่ะ
สวัสดีค่ะ น้อง ThaisDutch
ยินดีที่เข้ามาเยี่ยม
คนเราต้องมีความฝัน และพยายามทำตามความฝันนั้นให้สำเร็จ
แต่ยังมีหลายคนที่ยังหลงทางอยู่ ไม่รู้ความต้องการของตนเอง
ขอให้น้องธอมส์โตวันโตคืน
อย่าลืมนำภาพมาลงให้ดูด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณครูอรวรรณ
ชื่นชมในความมุ่งมั่นของคุณหมอแป้น
เป็นคุณหมออาชีพที่มีเกียรติ...ยังอนุรักษ์สืบสานศิลปประจำท้องถิ่นอีกด้วย คุณค่าแก่การยกย่องที่สุดค่ะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ
โอโห คุณหมอไม่ธรรมดาเลยนะครับ อายุยังน้อยด้วย สงสัยต้องไปเต้นแร๊ฟ เสริม ฮ่าๆๆ
เห็นดอกไม้สวยๆก็คิดถึงและนำมาฝากค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ คุณแดง
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ คุณครูสุนันทา
เห็นดอกบัวแล้ว จิตใจสงบและเยือกเย็นดีจังค่ะ
ส่งเบอร์ให้แล้วนะคะ ส่งใจคิดถึงไปด้วย แล้วเจอกันนะคะ
สวัสดีค่ะ
ผมซื้อนิตยสารมาอ่านแล้วครับ...ศรัทธาต่อคุณหมอมาก
หลายปีที่แล้ว ผมทำงานกับโรงพยาบาลในเรื่องผู้ติดเชื้อเหมือนกัน ไปไหนมาไหนพ่วงเอาผู้ติดเชื้อไปเป็นวิทยากรอย่างสม่ำเสมอ บางปีผมข้ามไปจัดกิจกรรมในจังหวัดต่างๆ ...
ทุกวันนี้เปลี่ยนสายงาน ไม่ได้ทำในเรื่องเหล่านี้ ..เสียดายเหมือนกัน
สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต
สวัสดีค่ะ พี่ไก่
สวัสดีค่ะ พี่ครูคิม
สวัสดีค่ะ อาจารย์แผ่นดิน
สบายดีนะครับ
สวัสดีค่ะ
มาทักทายอาจารย์ด้วยความคิดถึง
งานคงยุ่งมากนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณเบดูอิน
สวัสดีค่ะ คุณแดง
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ
ดีจังเลยนะค่ะ ได้ทำในสิ่งที่ชอบ และทำให้คนอื่นชอบได้ด้วย
และยังสามารถช่วยรักษาคนป่วยโรคที่หลายคนไม่นิยม แต่ท่านน่าชื่นชมค่ะ
ท่านมีศิลปในตัวเอง หมอกับหมอลำ เข้ากันได้ดีค่ะ
สวัสดีครับครูอรวรรณ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ชยพร
สวัสดีค่ะ คุณตุ๊กตา
สวัสดีค่ะ คุณ คนทำ GIS
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
- หมอแป็นเป็นหมอด้วยจิตวิญาณอย่างแท้จริง
- เคยได้ชมท่านแสดงแล้วขอยอมรับว่าทึ่งในความสามารถค่ะ
- สุขกายสุขใจนะคะ
สวัสดีค่ะ
มาสวัสดีทักทายและขอบคุณที่ไปให้กำลังใจสม่ำเสมอค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณครูพรรณา
คุณครูโชคดีจัง ได้เคยเห็นคุณหมอแสดงบนเวที
สุขกายสุขใจเช่นกันนะคะ
สบายดีนะคะ
ขอบคุณที่ไปทักทายค่ะ
เก็บไว้ให้นะคะ...
ขอบคุณมากค่ะ คุณแดง
เห็นภาพหลานชายแว้บๆ ใช่ไหมคะ
ชอบมากค่ะ
คุณครูครับ ถ้าครูเราตั้งวงบ้างก็น่าจะดีนะครับ จะได้ไม่ห่างไกลจากชุมชน
สวัสดีค่ะ คุณวิรัน ท่านผ.อ.พรชัย
ขอบคุณมากค่ะมี่เข้ามาอ่าน
ส่วนการตั้งคณะหมอลำถ้าทำได้ก็คงจะดีมากๆเลยค่ะ
มีโรงเรียนหนึ่งที่จังหวัดอุดรธานี ก็ตั้งวงหมอลำนักเรียนไปเผยแพร่เรื่องการป้องกันเชื้อเอดส์ ได้ผลดีมากค่ะ