........ว่าหลังจากกลับจากเชียงใหม่แล้วจะกลับมาเล่าให้พี่สาวฟังค่ะ
เมื่อได้รับหนังสือจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเลย เลขต ๑
ให้เดินทางไปราชการเพื่อเข้ารับการอบรมในโครงการเทิดพระเกียรติ
เพื่อปลูกฝังความจงรักภักดีโดยจัดการประกวดบมร้อยแก้ว (เรียงความ)
บทร้อยกรองและการวาดภาพ
........คณะจากจังหวัดเลยบอกจะไปวันที่ ๑๐ พ.ค.เวลา ตีห้า
จึงตัดสินใจเดินทางไปรถโดยสารตามลำพัง...เพราะนัดเพื่อนเอาไว้แล้ว
คือพิมญดา คุณครูดอกไม้ (เก็จถะหวา)และน้องแมวแต้ม จากเว็บ
www.Thaipoem.com เดินทางออกจากสถานีขนส่งจังหวัดเลย
เวลาสี่ทุ่มตรง กลัวๆเหมือนกัน เพราะไม่ได้นังรถโดยสารมาหลายปี
ไปถึงจังหวัดลำพูนเวลา หกโมงเช้าป้าดอกไม้มารอรับที่ดอยติ แล้วพาไปไหว้พระธาตุ
หริภุไชย พระนางจามเทวี และเข้าไปเที่ยวบ้านชาวเขาหลังจากนั้นป้าก้พาเข้าบ้าน
อาบน้ำทานข้าวอิอิฝีมือป้า..(ฝีมือการจายตลาดค่ะ) หลังจากนั้นก็นัดหมายพิมญดา
และน้องฝนที่เชียงใหม่ พอเห็นหน้ากันก็ผวากอดกันด้วยความดีใจยิ่งนัก สถานที่เรานัดเจอกัน
คือสวนสัตว์เชียงใหม่ค่ะอิอิ วันนั้นเที่ยวสวนสัตว์กันทบแตกเลย ตกเย็นไปทานข้าวเย็นกันที่
สุคนธาหมูกะทะ นัดเจอพี่รุ่ง ไหมไทยที่นั่นด้วย ทานข้าวเสร็จพีรุ่งขอตัวกลับ พิมญดาและน้องสาว
พาไปทัศนศึกษาที่ผับมันดาเลย์ อิอิแบบว่าอายุเกินค่ะไปนั่งดูหนุ่มสาวเขาสนุกกัน
จากนั้นประมาณเที่ยงคืนก็พากันกลับ..
ที่สวนสัตว์สนุกมาค่ะ๕๕๕เหมือนเด็กเลย
........วันที่ ๑๐ พ.ค. ๕๒ ตื่นเช้าก็มานั่งเขียนกลอนกัน..แล้วให้ป้าน้ำไปลงที่เว็บบ้านกลอนกัน
....หลังจากเขียนกลอนเสร็จให้ป้ากันนานำไปไว้ลงเว็บบ้านกลอน
(http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem125773.html)
และประมาณเที่ยงทุกคนก็ไปส่งครูอ้อที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว
รายงานตัว เวลา ๑๔.๐๐ นก็มีพิธีเปิดและจัดการเสวนาถึงการใช้คำราศัพท์
ในการเขียนบทร้อยกรอง เลิกการประชุมเวลา ๑๗.๓๐ น.แล้วก็ไปทานข้าวเย็น
ที่ห้องอาหารชั้นสองของโรงแรม..(โรงแรมใหญ่หรูหรา..ครูบนดอยเห็นแล้วตื่นเต้นค่ะ)
หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันพักผ่อน
........เช้าวันที่ ๑๑ พ.ค.๕๒ แยกย้ายกันอบรม ห้องแสนตองอบรมเกี่ยวกับการเขียนเรียงความ
เลยมอบหมายให้น้องรัชนี เข้าอบรมเพราะสอนช่วงชั้นที่ ๑ -๒ ส่วนครูอ้อเข้ารับการอรมที่ห้องพันตา
วันนี้วิทยากร ได้รับความเมตตาจาก ท่านแรคำ ประโดยคำ (รศ.สุพรรณ ท้องคล้อย)
ผศ.วิลักษณ์ ศรีป่าซาง และอ.อรรถภาค เล้าจินตนาวศรี ท่านได้แนะนำการประเมินบทกวี
ที่ส่งเข้าประกวด และให้เขียนกลอน ให้หัวข้อ "ขวัญไผท"ให้เวลา ๑ ชั่วโมง...สนุกดีค่ะ
และให้การบ้านเขียนกลอนแปดหรือกาพย์ยานี ๑๑ ในหัวข้อ "พ่อหลวง แม่หลวงในดวงใจ"
จะมีการคัดเลือก ๑๐ สำนวน ในการรับรางวัลจาก อาจารย์อรรถภาค เล้าจินตนาวดี
คืนนั้น...กลับห้องพัก มานั่งเขียนกาพย์ยานี ๑๑ ได้หนึ่งสำนวน ขัดเกลาสำนวน กว่าจะได้นอน
ก็ปาเข้าไปเกือบหกทุ่ม..
.......เช้าวันที่ ๑๒ พ.ค. ๒๕๕๒ หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็เข้าห้องอบรมส่งการบ้าน ท่านแรคำ ประโดยคำ รับผลงานไปตรวจ...แล้วบอกจะแจ้งตอนบ่ายช่วงรวมห้อง...ครูส่วนใหญ่บอก..ขอทราบผลก่อนอาหารเที่ยง เพราะบางทานต้องเดินทางกลับก่อนไม่สามารถอยู่ร่วมได้..ท่านก็ใจดี นำผลงาน ๑๐ ชิ้น มาประกาศ ไม่มีการเรียงจากลำดับ ให้ครูที่ได้รับรางวัลไปอ่านให้เพื่อนๆฟังด้วย สำนวนที่ ๑...๒..๓..๔..ว้าไม่มีผลงานครูอ้อเลย..ลุกไม่อยู่แล้ว...ป้าครูจากเลยเขต ๓ บอกใจเย็นๆสิอ้อ..ป้าว่าของหนูผ่าน..ให้กำลังใจจริงป้าเรานั่งลงฟังต่อ...๕..๖...๗...๘...ผลงานชิ้นที่ ๘ จากเลยเขต ๑ คุณครูกมลชน กรวยทอง ดีใจมากเลยค่ะ..ต้องไปยืนอ่านผลงานตัวเองตอหน้าเพื่อนครูทางภาคเหนือ..(เลยเป็นจังหวัดเดียวทางภาคอีสานสงสัยเจ้าหน้าที่จะเข้าใจผิด แต่ก็บอกเราว่า อยากให้คนเลยไปเที่ยวเชียงใหม่..แหม..นะ)รู้เลยค่ะว่า..นักเรียนรู้สึกอย่างไรเวลาที่ครูให้ออกมาอ่านหน้าชั้นเรียน..ผลงาน พ่อหลวงในดวงใจ..รออ่านนะคะ..อิอิ ราวัลที่ได้รับจาก ผศ.วิลักษณ์ ศรีป่าซาง คือพระศิวลี องค์เล็กๆทำจากงาช้างท่านบอกเป็นวัตถุมงคลนำโชค ค่ะ.
ผศ.วิลักษณ์ ศรีป่าซาง จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านช้าง
ท่านแรคำ ประโดยคำ กวีซีไรท์
คณะครูจากจังหวัดเลย อีสานเดียวในเชียงใหม่
รับรางวัลจาก ผศ.วิลักษณ์ ศรีป่าซาง กวีดังเมืองล้านนา
ติดตามอ่านกาพย์ได้ที่บทกวีค่ะ
ไปเชียงใหม่ สามวัน พลันคิดถึง
ห้วงคำนึง ห่วงใย ใจเหงาๆ
บ้านเคยกวาด ผ้าเคยรีด กลับเป็นเรา
ทุกค่ำเช้า ทำแทน แสนเหนื่อยจัง