ขอฝากความรู้เรื่องมะเร็งตับด้วยค่ะ
มะเร็งตับเหตุร้ายจากภัยใกล้ตัว พบในชายอันดับ 1
www.tonprik.org/tags/6/page/5=http://www.blog.eduzones.com/inter/10212?page2=5&page=&page3
คนที่เป็นมะเร็งตับในระยะเริ่มแรกมักจะไม่ค่อยมีอาการใด ส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการต่อเมื่อโรคอยู่ในระยะลุกลาม จึงมีอาการหลักๆ ของโรคเกี่ยวกับตับ
เช่น ปวดท้องบริเวณช่องท้องส่วนบน ท้องอืด เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ผอมลง ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม นอกจากนี้อาจจะคลำก้อนได้ที่ท้อง อึดอัดแน่นท้อง หายใจลำบาก ฯลฯ
ปัจจุบันวิทยาการในการรักษามะเร็งตับก้าวหน้าไปไม่น้อย โดยมีหลายวิธีตามความเหมาะสมกับภาวะมะเร็งตับของแต่ละคนโดยแพทย์จะพิจารณาร่วมกันเป็นทีม เช่น การผ่าตัด การฉายรังสี การฉายรังสีระบบใหม่ (Gamma Knife, Cyber knife, etc.) การให้เคมีบำบัด (Chemotherapy) การให้เคมีบำบัดผ่านทางสายสวนหลอดเลือดแดงร่วมกับการอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง (TOCE or Transarterial Oily Chemo Embolization) การฉีดแอลกอฮอล์เข้าก้อนมะเร็งโดยตรง และเทคนิคใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจของแพทย์ทั่วโลกคือ การทำลายก้อนมะเร็งด้วยความร้อน (Thermal Ablation) ซึ่งมีหลายเทคโนโลยี เช่น การใช้เลเซอร์ การใช้ไมโครเวฟ การใช้คลื่น RFA แต่เทคโนโลยีที่นิยมกันมากที่สุดในปัจจุบันคือ การใช้ RFA (Radiofrequency) นี่เอง
http://www.yourhealthyguide.com/article/ac-liver-rfa-treatment.htm
|
สาธารณสุขอุดรฯ แนะกินปลาร้าสุกลดความเสี่ยงมะเร็งตับ |
มะเร็งตับต้นเหตุเสียชีวิต อันดับ 1 ของชาวอีสาน ขณะเดียวกันเป็นโรคคร่าชีวิตชายชาวอุดรฯ อันดับแรก อันดับ 3 ในเพศหญิง สสจ.แนะกินปลาร้าสุกช่วยลดการเกิดมะเร็งตับ |
น.พ.ชาตรี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีสาเหตุสำคัญอื่นๆ ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งตับ
คือการดื่มสุราเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่มีเชื้อรา ที่พบมากในอาหารประเภทถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง รวมถึงการเกิดไวรัสตับอักเสบชนิดบี และซี
โรคมะเร็งของเซลล์ตับ มีสาเหตุสำคัญที่สุดคือการเป็นพาหนะของไวรัสตับอักเสบชนิด บี
และโรคมะเร็งท่อน้ำดีตับ ที่พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ มีสาเหตุมาจากพยาธิใบไม้ตับเป็นสาเหตุสำคัญร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีดินประสิวเช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้ม แหนม ไส้กรอก เบคอน เป็นต้น
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6285 ข่าวสดรายวัน
แล้วนิ่วในถุงน้ำดี เป็นยังไง
ตับ เป็นอวัยวะขนาดใหญ่อยู่ใต้ชายโครงข้างขวาของเรา ตับมีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง และที่สำคัญมากอย่างหนึ่งก็คือ การสร้างน้ำดี
น้ำดีที่ถูกสร้างที่ตับ จะไหลมาตามท่อตับ และถูกเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี เมื่อเรารับประทานอาหาร พออาหารมาถึงลำไส้เล็กส่วนต้น ก็จะกระตุ้นถุงน้ำดีบีบตัวเพื่อเอาน้ำดีมาย่อยอาหารประเภทไขมัน และน้ำดีนี่เองที่ทำให้อุจจาระของเราเป็นสีเหลือง หรือน้ำตาล
นิ่วในถุงน้ำดี คืออะไร ?
น้ำดีจะประกอบด้วยสารต่างๆ ที่สำคัญ คือ น้ำ,โครเรสเตอรอล,ไขมัน, เกลือน้ำดี และบิลิรูบิน (ซึ่งประกอบของเสียจากการแตกสลายของเม็ดเลือดแดง) เมื่อใดก็ตามที่ความสมดุลของส่วนประกอบของน้ำดีเสียไป เช้น โคเลสเตอรอลสูงขึ้น หรือบิลิรูบินสูงขึ้น ก็จะตกตะกอนเป็นนิ่ว ซึ่งทั้งหมด รวมเรียกว่า นิ่วในถึงน้ำดี
อาการของนิ่วในถุงน้ำดีเป็นอย่างไร ?
1. เมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหารประมาณ 1/2 ชั่วโมง อาหารก็จะเดินทางมาถึงลำไส้เล็กส่วนต้น ซึ่งจะกระตุ้นให้ถุงน้ำดีบีบตัว เพื่อย่อยอาหารดังกล่าว
2. ถ้าก้อนนิ่วไปอุดตันทางออกของถุงน้ำดี น้ำดีจะออกจากถุงน้ำดีไม่ได้ เนื่องจากเกิดการอุดตัน กุงน้ำดีก็จะพยายามบีบตัวมากขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการปวดจุกเสียดแน่นท้อง จนกว่าถุงน้ำดีจะคลายการบีบรัด ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ผู้ป่วยจึงจะค่อยมีอาการดีขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนของนิ่วในถุงน้ำดี มีอะรไรบ้าง ?
1. ถุงน้ำดีอักเสบ
- เมื่อน้ำดีออกจากถุงน้ำดีไม่ได้ ก็เกิดการคัดค้างอยู่ และจะเกิดการติดเชื้อโรคตามมา ผู้ป่วยจะมีอาการเป็นไข้หนาวสั่น และอาจมีอาการเจ้บที่ใต้ชายโครงข้างขวา
- ผู้ป่วยบางราย การติดเชื้อรุนแรงอาจเป็นหนองในถุงน้ำดีได้ บางรายอาจมรอาการช็อคร่วมด้วย
ผู้ป่วยบางรายอาจมรการแตกทะลุของถุงน้ำดี ทำให้การอักเสบลุกลามไปในช่องท้องได้
2. ท่อน้ำดีอุดตัน
ผู้ป่วยบางรายก้อนนิ่วหลุกเข้ามาในท่อน้ำดี เกิดการอุดตันในท่อน้ำดี น้ำดีจะไหลลงสู่ลำไส้เล็กส่วนต้นไม่ได้ จึงไหลท้นเข้าสู่ตับ ที่เราเรียกว่า ภาวะดีซ่าน นอกจากนั้นเมื่อมีการอุดตันก็จะทำให้ท่อน้ำดีมีการอักเสบ และอาจมีหนองในท่อน้ำดีได้ผู้ป่วยดังกล่าวก็จะมีไขเสงหนาวสั่น ตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดใต้ชายโครงข้างขวาร้าวไปด้านหลัง บางคนมีอาการมากจนเกิดภาวะช็อค จากการติดเชื้อได้ในผุ้ป่วยบางรายนิ่วไปอุดตันทางเดินของน้ำย่อยตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนอักเสบอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน
ภาพอาการท่อน้ำดีอุดตัน
เราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ?
ในปัจจุบันการตรวจด้วยเครื่อง อัลตราซาวดน์ ( ultrasound) โดยแพทย์ที่มีความชำนาญสามารถให้การวินิจฉัยนิ่วในถุงน้ำดีได้เกือบ 100 % และถ้าผู้ป่วยไม่อ้วนมาก ก็อาจเห็นนิ่วในท่อน้ำดีได้อย่างชัดเจนเช่นกัน
แต่สำหรับผู้ที่มีรูปร่างค่อนข้างอ้วน และแพทย์สงสัยว่าอาจจะมีนิ่วในถุงน้ำดี อาจต้องอาศัยการตรวจเพิ่มเติมอย่างอื่นอีก เช่น
1. การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ซึ่งจะทำให้เราเห็นภาพของถุงน้ำดี และท่อน้ำดีตลอดจนตับ ตับอ่อน และอวัยวะอย่างอื่นในช่องท้องได้อย่างชัดเจนตามแนวตัดขวางของลำตัว
2. การตรวจด้วยเครื่องแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เป็นการตรวจคลายคลึงกับ CT Scan แต่เป็นการใช้คลื่นแม่เหล็กเป็นตัวการในการตรวจ และเครื่องมือสามารถจะสร้างภาพของทางเดินน้ำดีให้เห็นเสมือนจริงได้ ทำให้แพทย์แปรผลแม่นยำขึ้น
การรักษาทำกันอย่างไร ?
1. นิ่วในถุงน้ำดี ในปัจจุบันเรามักใช้การผ่าตัดด้วยกล้อง โดยแพทย์จะเจาะรูเล็กๆ บริเวณใต้ สะดือ ใต้ลิ้นปี่ และใต้ชายโครงขวาเพื่อส่องกล้อง และเครื่องมือไปทำการผ่าตัดเอานิ่ว และถุงน้ำดีออก ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผู้ป่วยเจ็ยเล็กน้อย และโอกาสเกอดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดน้อยกว่า วิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
แต่บางรายเหมือนกันที่จำเป็นต้องใช้การผ่าตัดโดยการเปิดแผลใหญ่หน้าที่ เช่น ผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดในช่องท้องมาแล้ว เพราะจะมีพังผืดในช่องท้องมาก จนไมสามารถสอดใส่กล้องเข้าไปได้
การผ่าตัดทั้ง 2 วิธี ให้ผลในการรักษาเท่าเทียมกันแต่การผ่าตัดแบบเปิดแผลใหญ่ จะเจ็บมากกว่า และพังผืดเกิดในช่องท้องมากว่าเท่านั้นเอง
2. นิ่วในท่อน้ำดี ในปัจจุบันแพทย์จะใช้กล้องผ่านเข้าทางปากสู่กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น เพื่อเข้าไปขยายรูเปิดของท่อน้ำดี แล้วคีบเอานิ่วออก การกระทำแบบนี้เป็นการทดแทนการรักษาแบบเดิม ที่ต้องผ่าตัดเข้าไปในท่อน้ำดี เพื่อเอานิ่วออก แล้วใส่ท่อระบายไว้ เพื่อระบายน้ำดีออกนอกร่างกาย
www.seriruk.co.th
กรมการแพทย์เผยมะเร็งตับคร่าชีวิตชายไทยมากเป็นอันดับ 1 สาเหตุใหญ่เกิดจากการดื่มเหล้า กินอาหาร ขึ้นรา แนะเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น ปลาน้ำจืดที่มีเกร็ด โดยเฉพาะตัวเล็กๆ พร้อมให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบี ในเด็กแรกเกิดป้องกันภัยร้ายมะเร็งตับและท่อน้ำดี