ผู้วิจัยได้เคยกล่าวไว้ในเวที "คุณอำนวย" ที่จัดขึ้นที่บ้านผู้หว่านว่า อยากมาเห็นว่าองค์กรอื่นๆนำ KM เข้ามาใช้ในการพัฒนาองค์กรอย่างไร เพราะ ตอนนี้ที่มหาวิทยาลัย หรือ แม้กระทั่งที่คณะก็ไม่มีการนำเครื่องมือใดๆเข้ามาใช้ในการพัฒนาองค์กรเลย โดยส่วนตัวเคยเสนอแนวคิดนี้ให้กับผู้บริหาร (บางท่าน) แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็คงจะมาจากการที่เรายังไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้ว่าจะนำ KM มาใช้อย่างไร ผู้บริหารก็เลยยังนิ่งๆอยู่
แต่หลังจากที่ผู้วิจัยได้มีโอกาสเข้าร่วมเวที "คุณอำนวย" ที่บ้านผู้หว่าน ได้ฟังตัวอย่างดีๆของคุณอำนวยจากหลายหน่วยงาน ได้เห็นตัวอย่างจริงจาก VCD โรงพยายาบบ้านตาก (ความจริงก็อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเรานิดเดียวอง) ทำให้พอที่จะคิดออกว่าจะต้องพูดและนำเสนอต่อผู้บริหารอย่างไร
พอกลับมาที่คณะ บังเอิญได้มีโอกาสคุญกับท่านคณบดี ความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะพูดเรื่องนี้หรอกค่ะ แต่พอคุยกันไปคุยกันมา อยู่ดีๆท่านก็พูดขึ้นมาว่า "อาจารย์เราจะเอา KM เข้ามาใช้ในคณะของเราได้ไหม พี่ว่าน่าจะได้และน่าสนใจนะ เพราะ คณะเราเพิ่งตั้งขึ้นมา บุคลากรก็มีแต่คนอายุน้อยๆ วัฒนธรรมองค์กรก็ไม่แข็งตัวเหมือนกับคณะอื่นๆที่เขาตั้งมานานแล้ว" ผู้วิจัยได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจมาก ถ้าเป็นแต่ก่อนคงจะต้องรีบตอบว่า "ได้เลยค่ะอาจารย์ ต้องได้แน่ๆ เราจะเริ่มกันเลยดีไหมคะ" แต่วันนั้นผู้วิจัยไม่ได้พูดอย่างนี้ แต่กลับพูดว่า "เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาในการศึกษาสักระยะหนึ่งก่อนค่ะ ขอเวลาสักนิดนะคะอาจารย์"
สาเหตุที่ผู้วิจัยตอบเช่นนี้ ก็เพราะว่า
1.เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ กระทบโครงสร้างโดยภาพรวมทั้งหมด (แม้ว่าจะทำระดับคณะก็ตาม) สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ เรื่องความขัดแย้งที่ (อาจ) เกิดขึ้นได้
2.ผู้วิจัยต้องการดูความจริงใจของผู้บริหารในเรื่องนี้
ประโยคหนึ่งของ KM คือ "ไม่ทำไม่รู้" แต่ตอนนี้ผู้วิจัยขอเลือกที่จะ "รอเวลา" และ "ความจริงใจ" ก่อนนะคะ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณเวที "คุณอำนวย" ที่บ้านผู้หว่านมากนะคะ ที่ได้เปิดโอกาสให้ผู้วิจัยได้เข้าไปร่วมเรียนรู้
ไม่มีความเห็น