อ่านคำสัมภาษณ์ของ ผศ.จรินทร์ ปภังกรกิจ เจ้าของรางวัลข้าราชการสายผู้สอนดีเด่น ว่าการทำงานใช้หลักของท่านพุทธทาสที่ว่าการทำงาน คือ การปฏิบัติธรรม และใช้หลักของพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป้นเครื่องยึดเหนี่ยวใจและเสริมการทำงาน ทุกงานนั้นมีคุณค่าและความสำคัญในตัวเอง ทำงานให้เต็มที่ อีกคนหนึ่งคือ นายทองมาก ขุ่ยรากหญ้า เจ้าของรางวัลลูกจ้างประจำคณะทันตแพทยศาสตร์ดีเด่น มีข้อคิดเห็นว่า การทำงานสิ่งใดถ้าเราตั้งใจทำ เอาใจใส่ ทำได้โดยไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง มีความขยันและช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน
ข้อคิดเห็นของสองท่านนี้ เป็นวิธีคิดและวิธีการทำงานที่น่าประทับใจและฝากให้ทุกท่านได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อไป (ข้อมูลจากวารสารทันตกัลปพฤกษ์ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2549
ควรจัดรวมพลคนทำดีสักครั้งจะดีไหม
เห็นด้วยกับคุณเปี๊ยก-มวล มากค่ะ กำลังใจแก่กันเป็นสิ่งที่เราสามารถที่จะให้กันได้ง่ายและมีผลต่อจิตใจมากๆ ชอบคำพูดที่คุณว่าถ้าหากชีวิตตัวเองได้เจอคนดี ๆ สักคนหนึ่งจะให้กำลังใจและสนับสนุนให้เขาคนนั้นได้ทำดีตามทางที่เขาเป็นเสมอ เพราะตัวเองก็จะใช้เสมอเวลาที่พบเห็นคนดี จะพยายามไม่เพิกเฉยต่อการทำดีและให้กำลังใจกับคนทำดี เพราะเคยได้ยินสำนวนที่ว่า คนเราไม่ได้ขาดสติปัญญา หรือขาดเงินทองอะไรหรอก แต่ขาดกำลังใจต่างหากที่จะผลักดันให้สู้กับปัญหาทั้งปวง ...การที่ไม่มีใครเลยที่เป็นกำลังใจนี่น่าเห้นใจมากๆเลยนะคะ